“รู้จักเจ็บก็ดี เพราะคืนนี้เธอจะได้ไม่กล้าโกหก”
หญิงสาวดวงตากลมเบิกโพลงกับคำพูดของมาเฟียหนุ่ม มันหมายความว่ายังไง คืนนี้ หมายถึง เขาจะอยู่ที่นี่ จะมาที่นี่ หรืออะไรยังไง
“ฉันไม่ให้คุณนอนที่นี่นะ”
เธอพูดดักคอเอาไว้ก่อน มาเฟียอย่างเขาคงจะไม่มาขลุกอยู่กับแม่ลูกอ่อนอย่างเธอหรอกนะ
“ไม่ให้เฮียนอนที่นี่ก็ได้”
พูดง่ายเกินไปหรือเปล่า เธอเหลียวกลับไปมองใบหน้าคมคายตามแบบฉบับชาวยุโรปของเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขายังคงเศร้าหมอง แม้ภาพในตามันจะสะท้อนออกมาว่าเขามองเธออยู่ตลอดเวลาก็ตาม
“เอมก็ไปนอนบ้านเฮีย พาลูกไปด้วย”
“ไม่ !!”
“ปายยย / ปายยย”
อยากจะเอามือกุมขมับ สองแฝดนี่มันลูกแม่หรือลูกพ่อกันแน่เนี่ย ทำไมอะไร อะไรก็เข้าข้างพ่อไปเสียหมด มาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัย คนอย่างเขา หากอยากจะได้อะไร ก็เพียงแค่สั่งเท่านั้น
“คืนนี้จะนอนที่ไหน”
“ ... ” ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มปากแน่น เธอขอใช้ความคิดสักครู่ได้ไหมละ
“โอเค นอนบ้านเอม ไปครับเด็กๆ มี๊พร้อมแล้ว”
เขาไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสแม้แต่จะเอ่ยเถียง เขาก้มลงอุ้มลูกชายทั้งสองไว้ที่ท่อนแขนแกร่งของตัวเองอีกครั้ง แล้วเดินลอยละลิ่วไปที่รถสปอร์ตคันหรูสีดำขลับของตัวเองทันที แม้บรรยากาศจะดูหน้าอึดอัด แต่ก็ยังดีกว่าเมื่อก่อนที่ตอนนี้เขาได้ใกล้ชิดเธอ
“เดี๋ยวกูขับเอง มึงขับคันอื่นตามไปเถอะ”
(ครับนาย)
ทันทีที่ประตูรถสปอร์ตคันหรูถูกปิดลง เขาหันกลับมามองใบหน้าหวานของหญิงสาวอีกครั้ง นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่มีเธอเคียงข้างเขาอย่างวันนี้ ภาพเหตุการณ์เก่าๆ ย้อนกลับมาให้ห้วงความคิด ก็พลางทำให้รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
เธอที่เขาตามหามาตลอดชีวิต ตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ เขาแล้ว แม้หน้าตาจะบูดบึ้งต่างจากภาพที่คิดไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร เขาน่ะมาร์แชลนะ มาร์แชลที่แปลว่าของเอม
มาเฟียหนุ่มโน้มตัวไปเบาะข้างๆ ทำให้หญิงสาวแอบชะงักนิดหน่อย เขาดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดให้เธอ ก่อนกดจูบหนักๆ บนริมฝีปากอวบอิ่มยามเมื่อเธอกำลังตะลึงงันกับการกระทำของเขา
“นี่ !!”
“ชู่ ... จุ๊ๆ”
มาร์แชลส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับอดีตแฟนเก่าแต่เป็นเมียหมาดๆ ของเขาเพียงนิด ก่อนหันไปดูสองแสบ ที่มีนาวิน กับกมลรสพี่เลี้ยงคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยแล้ว
เธอแอบเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคายของเขาเพียงนิด ฝีมือการขับรถของเขาก็ยังนุ่มอยู่เหมือนเดิม ต่างจากบทรักเร่าร้อนเมื่อครู่ที่เขายัดเยียดให้เธอ ใบหน้าหวานเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขากระทำกับเธอบนห้องนอน
จริงอยู่ที่มันเจ็บปวด แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงความคิดถึงที่เขาพยายามส่งมาให้เธอผ่านการสัมผัสร่างกาย เขาคงจะเจ็บมากที่เธอหนีมา แต่เธอจำต้องทำ เธอมีเหตุผลของเธอ
“ดี๊ค้าบบบบ อุ้มเขื่อนหน่อย”
มาเฟียหนุ่มก้มอุ้มลูกชายสุดแสบขึ้นแนบอกเมื่อมาถึงสวนสนุกชื่อดัง เขาตั้งท่าจะอุ้มเจ้าเด็กแสบอีกคนแต่ทว่า เสียงนิ่งๆ เรียบๆ ของลูกรักก็เปล่งออกมาเสียก่อน
“ขุนโตแล้วครับ ขุนเดินเองได้”
ให้ตายเถอะ ขิงพี่ ไม่อยากจะเชื่อ เด็กตัวแค่นี้ก็ขิงกันแล้ว เอมมิกาหลุดยิ้มให้กับลูกรักวัยละอ่อน ไม่คิดว่าลูกจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
มือหนึ่งอุ้มพี่เขื่อน ส่วนอีกมือจูงพี่ขุน เหมือนแม่ของเขาที่จูงพี่ขุนเช่นกัน มาเฟียหนุ่มเหลือบมองใบหน้าหวานของคนตัวเล็กอีกครั้ง อยากกอดเธอจังที่รัก ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เขาไม่อยากให้มันหายไปไหนเลย
“หิวกันรึยังครับหนุ่มๆ”
เอมมิกาเอ่ยถามสองแฝดโดยที่สายตาไม่ได้จ้องมองหน้าพ่อของลูกเลยสักนิด ให้ตายเถอะจะใจแข็งไปถึงไหนเนี่ย เขาลงทุนขนาดนี้แล้ว นี่ก็หนีงานมา มาร์ตินโทรตามยิกๆ ก็ไม่รับ ไม่รู้จะโทรอะไรนักหนา
“หิว” เขาโพล่งขึ้น เมื่อเด็กๆ ยังห่วงเล่นกันอยู่ ตอนนี้มันเป็นเวลาของพ่อกับแม่ ส่วนเด็กๆ ก็ให้มือขวา กับพี่เลี้ยงดูไปก่อน
“เอม”
หญิงสาวไม่แม้แต่จะหันมองหน้า เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่ได้ยินก็ยืนใกล้กันซ่ะขนาดนั้น มีเหรอที่จะไม่ได้ยิน เธอทำหูทวนลมไม่ได้ยินเขาเสียมากกว่า
“เอม” เขาเอ่ยเรียกอีกครั้ง อยากจะถามสิ่งที่ค้างคาใจมาหลายชั่วโมง ไอ้ซีโน่เนี่ย มันใครวะ !!
“มานี่ดิ”
มือหนาฉุดดึงแขนเล็กของเธอให้เข้าหาทำให้ร่างบางเซถลาลงบนหน้าตักแกร่งของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเงยหน้าหมายจะตวาดแว๊ดใส่เขาสักหน่อย แต่มาเฟียเจ้าเล่ห์กลับ ...
“อืมมมมมม”
ประกบปากจูบเธอกลางสวนสนุกโดยไม่สนใจสายตาของใครทั้งนั้น อยากจะบ้าตาย ลุคที่คีฟไว้ก่อนหน้านี้มันไปไหนหมดห๊ะมาร์แชล
“ปะ ... ปล่อยเลยนะ !!”
“ไอ้ซีโน่มันเป็นใคร !!”
เขาถามตรงประเด็นดังสายฟ้าฟาดลงกลางหลังของแพทย์หญิงเอมมิกายามเมื่อมาร์แชลโกรธอะไรก็ฉุดดึงไม่อยู่ทั้งนั้น แล้วเธอจะต้องตอบคำถามเขายังไงให้เขาพอใจ
“เขาเป็นหมอที่ทำคลอดเอม เราเป็นเพื่อนกัน”
ทะ ... ทำคลอดงั้นก็ต้องเห็น ... มาร์แชลกัดฟันไว้แน่น เขาไม่อยากจะระเบิดอารมย์มันตรงนี้ เห็นทีคืนนี้จะต้องคุยกันให้รู้เรื่องกว่านี้ นี่มันที่สาธารณะ และต่อหน้าลูกเขาไม่อยากทำอะไรที่มันรุนแรงจนเกินไป
มือหนาบีบเข้าที่แขนเล็กของเธอจนเจ็บปวด เขาเป็นบ้าอะไรของเขาเนี่ย เจ็บจนอยากจะสลายลงไปเสียตรงนี้
“โอ้ยยยย .... ”
“เป็นอะไร”
น้ำเสียงเย็นชา สายตาว่างเปล่าที่ส่งกลับมามันทำให้เธอรับรู้ได้ว่าเขาไม่พอใจนี่เธอทำอะไรผิดเนี่ย ทำไมเขาถึงคอยแต่จะทำร้ายเธออยู่เรื่อย
“จะ ... เจ็บ”
“เจ็บให้ได้เท่าฉันก่อนค่อยมาร้องขอความเห็นใจ”
ข่มอารมย์เอาไว้ กดความไม่พอใจลงไปไว้ในส่วนลึก เขาสะบัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจากที่ก่อนหน้านี้เขาพิงอยู่กับต้นไม้ใหญ่เพื่อรอสองแสบเล่นเครื่องเล่น
@ตอนค่ำ บ้านเอมมิกา
“พี่ขุน พี่เขื่อน มาอาบน้ำเร็วครับ”
สองแสบวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกาย โดยที่ผู้เป็นแม่เป็นคนอาบให้ ส่วนผู้เป็นพ่อ ก็เอาแต่ทำหน้าเง้าหน้างอ ไม่ยอมพูดยอมจา ถามคำตอบคำ แต่เป็นแค่กับแม่นะ ส่วนกับลูกนั่นพูดคุยกันเป็นต่อยหอยราวกับไม่เคยเจอกันมาก่อน
มาร์แชลกดดูข้อความในมือถือจากสิ่งที่หนึ่งในลูกน้องส่งมา ทำให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่เอมมิกาพูดนั่นเป็นเรื่องจริง แต่มันจริงแค่เพียงครึ่งเดียว เพราะไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่แค่เพื่อน แต่มันตามจีบเอมมิกาของเขาอยู่
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมสองแฝด เธอกวาดสายตามองออกไปรอบๆ ไม่พบกับมาเฟียหนุ่ม มองออกไปข้างนอกก็ไม่มีรถของเขาจอดอยู่ เธอยิ้มกริ่มในใจที่ได้เวลาของตัวเองคืนมา
ดวงตากลมโตจ้องมองสองแฝดที่กำลังเล่นแป้งกันอย่างซุกซน เธอจูงมือเด็กๆ เดินขึ้นชั้นสองของบ้านเพราะมันใกล้เวลาเข้านอนของพวกเขาแล้ว
แกร่ก~
“อุ้บ !!”
มือหนากดปิดปากคนตัวเล็กเอาไว้ ขณะที่เธอกำลังจะเข้าห้องนอนของตัวเองหลังจากที่ส่งสองแสบดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา เขาดันเธอเขาชิดกำแพงปูนเย็นเฉียบก่อนปล่อยมือออกให้ปากของเธอเป็นอิสระ
“รู้ใช่ไหม โกหกฉันแล้วจะโดนอะไร”