16. กลับหมู่บ้าน

1155 Words
ก่อนที่ร้านเสื้อผ้าของเธอจะเปิดอย่างเป็นทางการ ไป๋เฟิ่งจื่อกลับไปที่หมู่บ้านในช่วงเช้าของวันต่อมา เธอตั้งใจจะชวนสองพี่น้องบ้านเหวินไปด้วยกัน แต่เมื่อมาถึงกลับพบเพียงแค่ เหวินอี๋ตัวน้อยที่นอนซมอยู่ในบ้านเพียงลำพัง “ เสี่ยวอี๋ ได้ยินพี่ไหม เสี่ยวอี๋ “ เธอเรียกเด็กน้อยหลายครั้งแต่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา เธอไม่รอช้ารีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นรถสามล้อแล้วขี่เข้าไปในเมืองพาไปส่งที่โรงพยาบาลทันที “ คุณหมอช่วยเธอด้วยค่ะ “ เธอรีบเอ่ยบอกชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาทันทีอย่างร้อนใจ หลี่ซื่อหมิงรีบดูอาการของเด็กหญิงในอ้อมแขนของคนรักอย่างรวดเร็ว “ แค่หมดสติเท่านั้น ไม่ร้ายแรงครับ นอนพักรักษาตัวสัก 2-3 วันครับ ว่าแต่เด็กคนนี้ “ ชายหนุ่มเอ่ยบอกอาการหลังจากที่ตรวจเรียบร้อยแล้ว และเขาตั้งใจจะถามเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับคนไข้ด้วย “ เสี่ยวอี๋เป็นเด็กในหมู่บ้านค่ะ เธออยู่กันแค่ 2 พี่น้องเท่านั้น “ “ อ้อ ผมเข้าใจแล้วครับ คุณกินอะไรมาหรือยัง “ “ ยังค่ะฉันกลับไปที่หมู่บ้านเมื่อเช้านี้ แล้วก็รีบพาเสี่ยวอี๋มาส่งโรงพยาบาลก่อนค่ะ คุณหิวไหม แล้วนี่เพิ่งมาทำงานหรือคะ “ เธอเอ่ยถามเพราะเมื่อเช้าไม่พบเขาเช่นทุกวัน “ ไม่ครับ ผมเข้าเวรดึก อีกชั่วโมงกว่าๆก็เลิกเวรแล้ว “ ” งั้นเดี๋ยวฉันนั่งรอคุณที่นี่นะคะ แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน “ เธอเอ่ยบอก ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบรับแล้วไปทำงานของตนเองต่อ จากนั้นเธอก็ไปจ้างพยาบาลมาคอยเฝ้าเด็กน้อยเอาไว้ เพราเธอต้องกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง หลังจากที่หลี่ซื่อหมิงออกเวรแล้วทั้งสองก็มานั่งกินอาหารที่ร้านอาหารของรัฐด้วยกัน หลายคนที่รู้ว่าชายหนุ่มคือคุณหมอ ต่างก็ลอบมองด้วยความสงสัย ว่าหญิงสาวที่มาด้วยกันนั้น มีความสัมพันธ์อย่างไรกับเขา ส่วนไป๋เฟิ่งจื่อนั้นเธอกินอาหารตรงหน้าเงียบๆในใจกำลังคิดว่า เธอจะรับเสี่ยวอี๋มาเลี้ยงดูดีหรือเปล่า เพราะอีกไม่นานเสี่ยวเหวินก็จะแต่งงานแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเสี่ยวอี๋ของเธอก็ต้องอยู่ลำพัง ในใจยังรู้สึกอดห่วงไม่ได้ ” มีเรื่องอะไรที่คิดไม่ตกหรอครับ “ “ ขอโทษค่ะ พอดีฉันมัวแต่คิดเรื่องของเสี่ยวอี๋ คุณกินเยอะๆหน่อยสิคะ “ เธอเอ่ยบอกเขาแล้วคีบอาหารใส่ถ้วยของเขาไปด้วย “ บอกผมได้ไหมครับว่าคุณคิดอะไรอยู่ เผื่อว่าผมจะช่วยเสนอความคิดเห็นได้บ้าง “ “ คือ ตอนนี้เสี่ยวหนวนอายุ 13 ปีแล้วค่ะ แล้วก็มีคู่หมั้นแล้ว แต่เสี่ยวอี๋อายุย่าง 10 ปี ฉันกำลังคิดว่าจะรับเธอมาอุปการะค่ะ “ “ เรื่องนี้ไม่ยากครับ คุณต้องถามความเห็นของเด็กๆก่อน ถ้าพวกเธอไม่มีปัญหาอะไร เรื่องเอกสารผมจะช่วยคุณจัดการให้เองครับ “ ” เอกสารหรอคะ ?” ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยถามอย่างสงสัย “ ครับ การที่จะรับอุปการะเด็กคนหนึ่งต้องยื่นเรื่องกับทางหน่วยเพื่อขออนุญาตและทำเอกสารสิทธิให้ถูกต้องด้วย “ “ อ้อ บอกตามตรงฉันไม่คิดว่าจะต้องเดินเรื่องเอกสารค่ะ ถ้างั้นหลังจากที่ฉันคุยกับพวกเธอแล้ว รบกวนคุณด้วยนะคะ “ “ ไม่รบกวน เรื่องของคุณ ก็คือเรื่องของผม วันหน้าถ้าเราแต่งงานกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรผมจะช่วยคุณคิดและตัดสินใจเองครับ “ ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จนคนฟังรู้สึกได้ “ คุณคิดจะแต่งงานกับฉันหรอคะ แต่ว่าทางบ้านคุณอาจจะ …” เธอกังวลว่าครอบครัวของเขาอาจจะไม่ยอมรับเธอที่เป็นเพียงชาวบ้านจนๆ “ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องกังวลครับ ผมมั่นใจว่าแม่ของผมจะต้องชอบคุณ “ แม้เขาจะปลอบใจเธอก็เถอะ แต่ไป๋เฟิ่งจื่อยังไม่วางใจเสียทีเดียว เนื่องจากฐานะทางสังคม และครอบครัวของเธอกับเขาต่างกันจริงๆ “ คุณจะกลับไปพักผ่อนก่อนไหมคะ ฉันต้องกลับไปที่หมู่บ้าน ไม่รู้ว่าเสี่ยวหนวนรู้ว่าน้องสาวป่วยแล้ว หรือยัง “ “ ผมขอไปที่นั่นด้วยจะได้ไหมครับ “ “ แต่ว่าคุณเหนื่อยมาทั้งคืนแล้วนะคะ “ “ ไว้ไปถึงที่นั่นคุณให้ผมหลับสักตื่นก็พอแล้วครับ “ เขาเอ่ยบอกอย่างไม่ยอมแพ้ที่จะขอตามเธอไปที่หมู่บ้านด้วย “ งั้นก็ได้ค่ะ “ เธอตอบตกลงก่อนจะให้เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนตนเองก็กลับมานั่งรอเขาที่ร้านเสื้อผ้าของตนเอง ไม่นานเขาก็กลับมารับเธอด้วยรถยนต์คันใหญ่ ”รถนี่ …” “ อ้อรถคันนี้ผมซื้อเองครับ เพิ่งซื้อตอนที่กลับมาจากเซี่ยงไฮ้เพราะคิดว่าจะชวนคุณไปเที่ยวที่เมืองอื่น ๆบ้างในวันหยุดของเรา “ไป๋เฟิ่งจื่อไม่คิดว่าเขาจะวางแผนเอาไว้ร่วงหน้าแล้ว ความรู้สึกอบอุ่นในใจปรากฎขึ้นในจิตใจของเธอ เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของไป๋เฟิ่งจื่อชาวบ้านต่างเข้ามามุงดูรถยนต์ที่มาจอด บ้างก็อยากรู้ว่าคนในรถนั้นคือใคร แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาของคนขับแล้วหญิงสาวต่างเขินอายจนหน้าแดงก่ำ ” คุณหนูไป๋กลับมานะสิ “ นางหวังซื่อเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงแขนลูกสาวของตนเองกลับบ้านไปเพราะไม่กล้าที่จะมีปัญหากับหญิงสาว ซึ่งหลายคนก็พากันกลับไปหลังจากที่เห็นว่าไป๋เฟิ่งจื่อก้าวลงมาจากรถยนต์คันนั้น “ พวกเขาสองคน เหมาะสมกันมากจริงๆ “ ชาวบ้านเอ่ยขึ้น แต่ทั้งสองกลับไม่ได้สนใจเสียงที่แว่วมาเข้าหู เพราะตอนนี้เป้าหมายคือบ้านเหวินที่อยู่ถัดไปไม่ไกล “ เสี่ยวหนวน อยู่ไหม เสี่ยวหนวน “ ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยเรียกจนเด็กสาวเดินออกมาจากทางด้านหลังของตัวบ้าน ในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไป๋เฟิ่งจื่อตาโตอย่างตกใจที่เห็นสภาพของเด็กสาวตรงหน้า “ เสี่ยวหนวนเกิดอะไรขึ้น !” เมื่อเห็นว่าคนที่มานั้นคือพี่สาวจื่อที่ตนเองคุ้นเคยดีก็โผเข้ากอดอีกฝ่ายทันที น้ำตาที่พยายามอดกลั้นมาตลอดนั้นไหลลงมาอาบแก้มนวลของเด็กสาวด้วยความข่มขื่น และช้ำใจ เพราะถูกเด็กสาวในหมู่บ้านเดียวกันรังแกมาตลอด โดยเฉพาะหวังเจียวมี่ที่แอบชอบกู้ชวน คู่หมั้นของตนเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD