ช่วงนี้ร้านค้าของไป๋เฟิ่งจื่อเริ่มอยู่ตัวแล้ว เป็นที่รู้จักของชาวเมืองมากขึ้น เธอมีความคิดที่จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าขึ้นมาอีกสักร้าน ซึ่งเธอมั่นใจว่าเสื้อผ้าที่มีอยู่ในมิตินั้นจะสามารถทำรายได้ให้เธอได้มากภายในสองปีก่อนที่เสื้อผ้าที่เธอก็อปปี้มานั้นจะหมดไป น่าเสียดายที่เธอกะจำนวนเอาไว้น้อยไปสักนิด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะถึงยังไงเธอก็จะต้องหาช่างตัดเสื้อมาประจำร้านอย่างน้อย 2-3 คน รวมทั้งคนงานที่จะทำหน้าที่ขายในร้านด้วย
แต่ก่อนอื่นเธอจะต้องไปหาร้านค้าเพิ่มอีกร้าน และต้องดำเนินการเรื่องเอกสารให้ถูกต้องก่อนที่จะเปิดกิจการเพิ่มได้ และคงต้องปิดร้านค้าสักวันด้วย จู่ๆในสมองกลับมีใบหน้าของชายหนุ่มปรากฎขึ้นมา อีกทั้งในใจยังคิดว่าถ้าเขามาแล้วไม่เจอเขาจะรู้สึกยังไง เขาจะไม่พอใจหรือหายหน้าไปเลยหรือเปล่า ….
ขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นหลี่ซื่อหมิงก็มาหาเธอที่ร้านพร้อมกับขนมหลายถุงในมือ
“ผมซื้อขนมมาฝากครับ แล้วก็ตั้งใจจะมาบอกคุณด้วยว่าผมต้องไปที่เซี่ยงไฮ้หลายวัน เพราะว่ามีประชุมการแพทย์ ” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาคนตรงหน้าตาพร่าไปชั่วขณะ
“ ค่ะ ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ ” เธอเอ่ยบอกกับเขา
“ ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ” เขาเอ่ยบอกแล้วเดินจากไปพร้อมกับความคิดที่ว่าเขาควรเว้นระยะให้เธอได้นึกถึงเขาบ้างและการไปประชุมในครั้งนี้คือทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขาคิด
ทางด้านไป๋เฟิ่งจื่อนั้นเธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเขาจะไม่อยู่ที่ซานตง แต่ก็อดที่จะใจหายและคิดถึงเขาขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเธอเองก็คิดว่าจะใช้เวลาในช่วงนี้ไปจัดการดูเรื่องร้านค้าที่เธอต้องการที่จะเปิดใหม่ อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยกังวลว่าเขาจะมาหาที่ร้านหรือเปล่า
หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาในรุ่งเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีขาวสวมเสื้อกี่เพ้าสีฟ้าอ่อน ปักลายดอกโบตั๋นด้วยดิ้นเงิน ผมที่เริ่มยาวเธอก็จัดการมัดรวบเป็นหางม้าต่ำอย่างพอเหมาะ ส่งให้หน้าที่สวยหวานของเธอดูน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก
ไป๋เฟิ่งจื่อออกมาที่หน่วยในตอนสายๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่มาทำงานกันพอดี เธอจึงเอ่ยบอกความต้องการของตนเองไป หลังจากที่ทำเอกสารเสร็จสิ้นแล้วเธอก็ขอให้เขาพาไปดูร้านค้าที่ประกาศขายในตลาดด้วย
“ ร้านนี้เคยขายเสื้อผ้ามาก่อน มีชั้นไม้ที่จังใช้ได้อยู่หลานอันครับ คุณไป๋เชิญเข้าไปสำรวจภายในก่อนได้ครับ “ เจ้าหน้าที่เอ่ยบอก แล้วเดินออกไปรอด้านนอกของร้านเพื่อให้เธอได้มีเวลาสำรวจภายในร้านค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
หลังจากที่สำรวจภายในเรียบร้อยแล้วเธอยังไม่ค่อยถูกใจร้านนี้สักเท่าไหร่จึงให้เจ้าหน้าที่พาเธอไปดูร้านอื่นต่อไป จนมาถึงร้านสุดท้ายซึ่งอยู่ถัดจากร้านค้าของเธอมาอีกสองตรอก ร้านนี้เป็นร้านขนาดใหญ่ประตูล็อคสองชั้น ด้านหลังมีโกดังที่สามารถใช้เก็บสินค้าและแบ่งกั้นเป็นห้องพักของคนงานได้ และก็ราคาสูงกว่าที่อื่นๆที่เธอดูมา
“ ฉันสนใจที่นี่ค่ะ เรากลับไปที่หน่วยกันดีกว่าค่ะ “ เธอเอ่ยบอกกับชายหนุ่มเจ้าหน้าที่ของหน่วยที่มานั่งรอหน้าร้าน
“ ครับ เชิญครับ “ เขาเอ่ยขึ้นแล้วเดินนำหน้าเธอกลับไปที่หน่วย จากนั้นก็ทำสัญญาซื้อขายร้านค้ากันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงได้กลับมาพักผ่อนที่ร้านต่อ ช่วงบ่ายก็ทำอาหารง่ายๆกินเอง เธอลืมไปว่าเมื่อวานนี้หลี่ซื่อหมิงซื้อขนมมาฝาก และเธอก็ลืมวางมันเอาไว้ที่หลังร้าน
ไป๋เฟิ่งจื่อมองถุงขนมในมืออย่างรู้สึกผิดน้อยๆกับเจ้าของขนมถุงนี้ ในใจก็ต่อว่าตนเองที่กลายเป็นคนขี้ลืมไปเสียได้ …
หลังจากที่พักผ่อนเพียงพอแล้วเธอก็ไปติดต่อนายช่างที่เคยมาทำบ้านของเธอคราก่อน ให้เขามาปรับปรุงร้านค้าที่เธอเพิ่งจะซื้อมา โดยครั้งนี้เธอร่างแบบและเน้นใช้กระจกซึ่งมีราคาแพงพอสมควรในยุคนี้ แต่เพื่อความสวยงามและเพื่อโชว์เสื้อผ้าในร้านเธอก็ต้องจ่ายมัน
“ คุณลุงคะ แบบที่ฉันวาดมา คุณพอจะทำได้ไหมคะ “
“ ส่วนที่เป็นกระจกนี่ ลุงไม่แน่ใจว่าจะหาซื้อมาได้หรือเปล่า “ นายช่างเอ่ยบอก
“ ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าหาไม่ได้จริงๆเราค่อยมาว่ากัน แต่ตอนนี้ฉันยังยืนยันที่จะใช้กระจกตามแบบค่ะ “
“ ได้ ๆงั้นลุงจะติดต่อกับเพื่อนๆที่รู้จักกันดูว่าพอจะหาได้ไหม “
“ ขอบคุณมากค่ะ “ เธอเอ่ยบอกแล้วกลับมาที่ร้านเพื่อติดป้ายรับคนงานหญิงหลายคน ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องฝึกพวกเธอเหล่านี้ในการทำงานที่ร้านของเธอ
หลายวันผ่านไปนายช่างได้มาหาเธอที่ร้านพร้อมกับข่าวดีที่ว่าสามารถหากระจกมาได้แล้ว เพียงแต่ว่าราคาแพงและมาเพื่อถามว่าเธอยังยืนยันที่จะจ่ายหรือไม่
“ ถ้าได้กระจกมาแล้ว งั้นคุณลุงก็เข้าไปปรับปรุงร้านตามแบบได้เลยค่ะ ส่วนเรื่องราคากระจกฉันพอรู้มาบ้างค่ะ ลงมือได้เลยไม่มีปัญหาค่ะ “เธอเอ่ยบอกก่อนจะจ่ายเงินค่ากระจกที่นายช่างหามาได้ แม้ว่าจะต่อนข้างแพงไปสักหน่อย แต่เธอเชื่อว่ามันคุ้มค่าอย่างแน่นอน
“ ได้ งั้นลุงจะเข้าไปปรับปรุงร้านในอีกสามวัน “ เมื่อนายช่างกลับไปแล้วเธอก็ขี่รถสามล้อกลับไปที่หมู่บ้านหลวนชุน เพื่อทำความสะอาดบ้านก่อนที่จะกลับเข้าเมืองมาดูแลร้านค้าของตนเองต่อ