มหาวิทยลัย S
“ลิเคียว!!!”
“ห้ะ!?” ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อวุ้นเพื่อนของฉันเรียกเสียงดัง อาจจะเพราะว่าฉันเหม่อนานเกินไป
“เลิกเรียนแล้วมึงจะเหม่ออะไรนักหนาวะ?”
“เหอะ! มองกระทิงมันอ่ะดิ” เพื่อนฉันต่างบ่นต่างๆนาๆน่ารำคาญดีแต่ก็ขาดใครไปได้หรอกเหงา
“เสือกว่ะ!” ฉันแกล้งด่ามันและเก็บอุปกรณ์ต่างๆบนโต๊ะไม่ว่าจะหนังสือ สมุด ปากกา
“อ้าว! อีนี่”
“ไปไหนแล้ว?” เพราะมั่วแต่ฟังมันบ่นฉันเลยคาดสายจากกระทิงที่ออกจากห้องไปแล้ว
“ไปรับข้าวสวยจ๊ะ ที่คณะนิเทศ” มันย้ำฉันไม่รู้จะย้ำเพื่ออะไรในเมื่อพูดเจ็บคนเจ็บมันคือฉันเอง..
“เห้อ~” ปึก! ฉันทิ้งตัวลงเก้าอี้อีกครั้งเมื่อเขาไปแล้วไปหาหัวใจของเขา
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกชอบมันว่ะ?”
“...ไม่รู้ดิ กูกลับเลยแล้วกัน”
“เออๆกลับดีๆอย่าไปแอบตามอีกล่ะ”
“อืม”
ฉันเดินออกมาจากห้องเรียนและคงต้องกลับบ้านเลยนั่นเพราะกระทิงคงไปไหนต่อไหนแล้ว.. อ๋อ ลืมแนะนำตัวหรือเปล่านะ? สวัสดีแล้วกันฉันลิเคียว ลิลษา คานาเมะ อัศวรักษ์โกศล ลูกเสี้ยวญี่ปุ่นเพราะพ่อฉันเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และมาแต่งงานกับแม่ฉันที่เป็นคนไทยแท้ พ่อฉันเปิดสนามมวยไทย ส่วนแม่เป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี กำลังเรียนอยู่ปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล และวันนี้เป็นเทอมวันแรกของภาคเรียน ฉันมีเพื่อนทั้งหมด 3 คนคือ วุ้น แก้วใส และเมล เมลมันเป็นตุ๊ดนะ หึหึ
หลายคนอาจจะสงสัยว่ากระทิงคือใคร? กระทิงคือคนที่ฉันแอบชอบ ไม่สิ ตอนนี้มันกลายเป็นรัก รักมาแล้ว 4 ปี แอบมองมาตลอดตอนแรกยอมรับว่าแค่มองเฉยๆเพราะว่าเขาหล่อ หึ แต่พอมองทุกวันกลายเป็นละสายตาไปไหนไม่ได้แล้ว เขากับฉันเข้าเรียนปีเดียวกันและยังเรียนห้องเดียวกันด้วย
กระทิงและกลุ่มของเขาค่อนข้างจะเป็นที่สนใจตั้งแต่เข้ามาปี 1 เพราะเรียนหน้าตาและฐานะทางบ้านนั่นแหละ ทั้งหล่อทั้งรวยใครจะไม่สนใจล่ะจริงไหม? แต่ต่างกับฉันที่เข้ามาก็เป็นแค่เด็กธรรมดาไม่อะไรโดดเด่นแต่ก็เริ่มพัฒนาตัวเองตลอด 4 ปี จนเริ่มมีคนสนใจบ้าง มาจีบบ้างแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเพราะฉันมีคนที่ชอบแล้วนิ
ทุกคนว่าแปลกไหม? ฉันกับกระทิงเรียนห้องเดียวด้วยกันมาปี 4 แต่เราไม่เคยพูดกับเลยหรือจะน้อยมากจนนับคำได้ เหอะ น่าสงสารหรือน่าสมเพสดีฉัน เวลาเรียนฉันจะนั่งมองเขาตลอดนั่นแหละ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยไม่แสดงว่าชอบเขาเลยสักครั้งของแค่มองก็พอเพราะรู้ดีว่าฉันเอง..คงสู้งคนในใจเขาไม่ได้หรอก
ฉันเดินกลับบ้านเหมือนปกติ บ้างทีก็นั่งรถเมย์เพราะรถเมย์มันผ่านหน้าบ้านพอดีบ้านฉันกับมหาวิทยาลัยไม่ได้ไกลกันมาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึง เหอะๆ เวลามีเรื่องอะไรให้คิดฉันก็ชอบเดินไปเรื่อยๆ มากกว่า แต่เดินอย่างเดียวมันไม่ค่อยได้ฟีลเท่าไร ฉันเลยหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ฉันทั้งกินเหล้าสูบบุหรี่ตามสไตร์เด็กวิศวะนั่นแหละ
กึก!
“กระทิง! ข้าวบอกให้ปล่อย!” ฉันหยุดมองเหตุกราณ์ตรงหน้าที่กำลังเกิดขึ้น ชายสองกับหญิงหนึ่ง... และหนึ่งในนั้นมีกระทิงอยู่ด้วย
“แต่มันทำให้เธอเสียใจนะเว้ย!” กระทิงพยายามรั้งเอาไว้
“แต่ข้าวรักเขา ข้าวรักพี่คิน ขอบคุณนะที่ดูแลข้าว..” ข้าวสวยบอกกระทิงและเดินจับมือขึ้นรถไปกับผู้ชายอีก มันเป็นแบบนี้มานานแล้วข้าวสวย... ที่สวยสมชื่อคนที่กระทิงรักและดูแลมานานไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่พอเข้าปี 1 ข้าวสวยก็วนเวียนรอบตัวกระทิงตลอดและมีเขาที่คอยดูแล แต่ว่าข้าวสวยไม่ได้รักกระทิงหรอกเธอรักคนอื่นเช่นผู้ชายคนเมื่อกี้ที่เป็นแฟนเธอปีสองปีแล้วมั้งและก็เวลาทะเลาะกันเธอจะมาหากระทิงตลอด และเหมือนครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่พอทะเลาะก็มาหาเขา...
“โถ่เว้ยยยย!” กระทิงโวยวายอยู่ข้างทางเหมือนคนไร้สติ
ฟู่ว์~ ฉันพ่นควันบุหรี่ออกมาและทิ้งลงพื้นก่อนเหยียบให้ไฟของบุหรี่ดับลง ฉันเดินเข้าไปหาเขาที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเลือกเดินเข้าไปหาเขา...
กึก และหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว อยากปลอบ อยากพูดอะไรก็ได้ให้เขาดีขึ้น..
“มองอะไรว่ะ? ไม่เคยเห็นคนหรือไงว่ะ!?” เขามองมาทางฉันและพูดขึ้น เมื่อเห็นฉันยืนนิ่งๆมองเขาอยู่
“......”จะพูด... อะไรดีนะ?
“เห้ย! หาเรื่องอ๋อว่ะ?”
“บุหรี่ไหม?” ฉันถามพร้อมกับยื่นบุหรี่ให้กระทิง
“ฮะ?”
“เห็นเครียดๆ” ฉันบอกและยัดบุหรี่ใส่มือเขาไป ก่อนเดินหนีออกมาเพราะถ้ากระทิงไม่รับฉันคงหน้าแตก แต่ถ้าเขาจะทิ้งไปอย่างน้อยฉันก็ไม่เห็นมันให้เจ็บใจ
เรียนด้วยกันทุกวัน อาจารย์คนเดียว ห้องเรียนเดียวกัน แต่ไม่รู้จักกัน ไม่สิแค่เขาที่ไม่รู้จักฉัน