รุ่งเช้า
“อย่านะ…อย่านะได้โปรดปล่อยฉัน”
พรึบ ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะพบว่าตอนนี้ฉันกำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเองไม่มีไอ้โรคจิตนั้น
“ขอร้อง…ฉันอยากให้มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น”
ฉันก้มหน้าร้องไห้ พยายามคิดว่าไม่ใช่ความจริงก่อนจะเห็นข้อเท้าที่ผ้าพันเอาไว้ข้างที่ข้อเท้าฉันพลิก และมันก็ยังมีข้อความเขียนเอาไว้ด้วย
“รักพี่นะ” และนั้นทำให้ฉันได้สังเกตตัวเองฉันตัดสินใจเดินไปที่กระจกบานใหญ่ ตอนนี้ฉันใส่เสื้อผ้าซึ่งก็คือชุดนักศึกษาของฉันที่ต้องใส่ไปวันนี้
กรี๊ด
“ไอ้บ้า…ไอ้โรคจิตฉันเกลียดแก…ฉันเกลียดแก?” มือบางเช็ดไปตามแขนขาในทุกทีที่เธอจำได้ว่าเขาใช่ลิ้นลากผ่าน
ติ๊ดๆ
น้ำหันไปมองมือถือที่มีคนโทรมาหาเธอ เธอรีบปรับน้ำเสียงให้ดูปกติเพราะคิดว่าเป็นบอยที่โทรเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอครับ…..ผมก็นึกว่าพี่จะไม่มีแรงลุกซะอีก” เสียงเขาหัวเราะชอบใจกับผลงาน
“แกมัน…ไอ้โรคจิต”
“ครับผมรู้…..แต่อย่าลืมสิครับว่าพี่นะมีความสุขมากแค่ไหนพี่ร้องดังมากแค่ไหนกับสิ่งที่ผมทำให้พี่”
“ไอ้เลว…..ไอ้ชั่วฉันเกลียดแก”
“ปากเก่งขึ้นนะครับเนี่ย….ผมอุตส่าห์อาบน้ำ…แต่งตัวให้พี่เรียบร้อยเลยนะ” ฉันก้มลงมองชุดที่เขาสวมใส่ให้ฉัน
“ฉันจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับแก”
“ตามสบายครับ….ผมก็แค่ปล่อยภาพของพี่ออกไปบ้างก็แค่นั้นเอง”
“แกว่าไงนะ….นี่แกถ่ายรูปฉันเหรอ” ฉันรีบกดเข้าไปดูที่ข้อความเข้ามันมีรูปฉันเต็มไปหมด ฉันโมโหถึงขนาดเหวี่ยงมือถือนั้นทิ้งไป
“ไอ้เลว…..”
น้ำทรงตัวลงข้างเตียงอย่างหมดแรงเดินเธอได้แต่ก้มหน้าร้องไห้และไม่ยอมออกจากห้อง อาร์ทที่แอบดูน้ำผ่านกล้องวิดีโอที่เขาซ้อนเอาไว้ เขายิ้มมุมปากก่อนจะเปิดดูคลิปที่เขาถ่ายไว้ตอนร่วมรักกับเธอ มือหนาก้มลงช่วยตัวเอง ความจริงแล้วผู้หญิงก็มีมากมายที่เข้ามายุ่งกับเขาแต่เขากับไม่ความรู้สึกอะไร นอกจากน้ำ ร่างกายของเขาตอบสนองกับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“อ๊ะ…..อ๊ะ…พี่น้ำอ๊ะๆ…อ๊าส์” อาร์ทกระตุกสองสามทีก่อนจะนอนราบไปกับเตียงเขาหันไปมองที่หน้าต่างจ้องมองไปที่ห้องตรงข้ามใช่ เขาคือคนที่อยู่ห้องตรงข้ามกับเธอ มือหนาเอื้อมไปหยิบชุดชั้นในสีดำขึ้นมาสูบดม
“อีกไม่นานหรอกเราจะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน……อีกไม่นาน”
กว่าฉันจะทำใจยอมรับกับความจริงอันแสนเจ็บปวดและเลวร้ายนั้นลงได้ก็นานเหมือนกัน แต่ความจริงฉันก็ลืมมันไม่ลง ฉันแค่ทำใจไม่ได้ว่าร่างกายของฉันตอนนี้มันเป็นของไอ้โรคจิตคนนั้นไปแล้ว ฉันหยุดเรียนไปสามถึงสี่วันและพอฉันมาถึงมหาลัย
“เธอรู้รึเปล่า…ว่าฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนโทรไปก็ไม่รับไปหาก็ไม่ยอมออกมาพบกัน….รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วง” ทันทีที่บอยเห็นฉันเขาก็ลากฉันเขาไปพูดคุยถามว่าเกิดอะไรขึ้นและนั้นทำให้ฉันรู้ว่าอาร์ทถูกทำร้ายบาดเจ็บเล็กน้อยเขาจึงได้หยุดพักฟื้นและทุกคนก็ออกตามหาฉัน
“ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“พวกโรคจิตเปล่าว่ะ…..แต่เธอก็ไม่ได้สวยถึงขนาดมีพวกโรคจิตคอยตามติดเธอนะ” ฝ้ายพูดคล้ายดูถูกฉันนิดๆ
“เธอเห็นหน้าคนร้ายรึเปล่า” บอยถามฉัน
“เปล่า” ฉันพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“พี่น้ำปลอดภัยดีนะครับ” ฉันตกใจกับน้ำเสียงนั้นรีบหันไปมองแต่ก็ต้องตกใจเพราะมันเป็นอาร์ทไม่ใช่ไอ้โรคจิตคนนั้นเพราะเสียงของพวกเขาแตกต่างกันแต่คำพูดคล้ายกันมากอาร์ทเสียงนุ่มชวนหลงใหลส่วนไอ้โรคจิตนั้นเสียงทุ้มๆ แปลกๆ
“อืม….ขอบใจนะที่พยายามช่วย” ฉันพยายามหลบสายตาที่อาร์ทมองมา
“ไม่เป็นไรครับ” ฉันเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ที่หน้าผากของเขามีผ้าพันแผลปิดเอาไว้ไม่รู้ว่าไอ้โรคจิตมันบาดเจ็บด้วยรึเปล่า
“……..” ผมมองไปที่ใบหน้าของพี่น้ำดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เพราะความเคยชิน พี่น้ำเสยผมขึ้นและนั้นทำให้ฝ้ายเห็นรอยสีแดงที่ผมฝากเอาไว้
“น้ำ คอแกไปโดนไรมา”
พี่น้ำรีบยกมือขึ้นปิดก่อนปล่อยผมลงมาปิดเหมือนเดิมพร้อมคำแก้ตัวที่ฟังดูอย่างไงก็ฟังไม่ขึ้น
“สงสัยฉันจะแพ้อาหาร” ผมหันไปมองจานข้าวแล้วแสร้งถามเธอ
“แน่ใจเหรอครับ”
ฉันหันไปมองอาร์ทก่อนจะหันไปมองจานข้าวซึ่งฉันเผลอไปสั่งข้าวผัดกุ้งมาได้อย่างไงทั้งที่รู้ว่าแพ้หรือเพราะอาจคิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องไอ้โรคจิตบ้านั้น
“ฉัน….ฉันแพ้ข้าวผัดกุ้ง….ฉันคงลืมเลยเผลอทานมันเข้าไป” ฉันแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เพราะฉันยังไม่ทันได้ทานมันสักคำ
“สติเธอมาครบรึเปล่าเนี่ยดู…สับสนแปลกๆ” ฝ้ายพูดขึ้น
“ฉันแค่ไม่สบาย….ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ”
ผมหันไปมองแผ่นหลังของพี่น้ำที่เร่งรีบเดินออกไปรอยยิ้มของผมหุบลงเมื่อรุ่นพี่อย่างพี่บอยวิ่งตามพี่น้ำไป
“พี่อาร์ทเป็นไรไปค่ะ” ผมหันไปมองหมิวที่คอยตามติดผมแทบเป็นคนเดียวกัน
“เปล่า” ผมตอบหมิวก่อนจะเดินไปเส้นทางอื่นแต่หมิวก็ยังคงตามผมมาอยู่อย่างนั้น
“โอ๊ยย….พี่อาร์ทหยุดทำไมไม่บอกหมิวล่ะค่ะ”
“เธอไม่มีเรียนหรืิอไง”
“มีค่ะ แต่หมิวอยากอยู่กับพี่มากกว่า”
“แล้วจะมาเรียนทำไม….” ผมบอกหมิวก่อนจะรีบเดินหนีออกมาเพื่อที่จะไปหาใครบางคน
หมิวได้แต่กำหมัดแน่น
“ไม่มีวันหมิวรักพี่…รักพี่มาตลอด”
ที่ห้องพยาบาลน้ำที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยซึ่งเธอลืมตาทันทีที่รู้สึกได้ว่าเตียงมันยุบลงคล้ายมีคนมานั่งแต่พอจะหันหลังมาดูร่างกายของเธอก็สั่นกลัวกับเสียงนั้น
“ไม่ต้องหันมาหรอกครับ…ผมแค่มาดูพี่ได้ยินว่าไม่สบาย” มือเขาลูบไปที่เส้นผมของเธอแต่ร่างบางกับขยับหนีเขา
“เหอะ….อย่าทำตัวเหมือนรังเกียจกันสิครับพี่น้ำ” เขาก้มลงสูบดมกลิ่นกายของเธอ
“ฉันอยากให้นายลบภาพถ่ายพวกนั้นทิ้ง…..นายทำได้รึเปล่า” ฉันกัดฟันถามเขาออกไป
“แล้วพี่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับผมละ” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย้ายวน
“นายต้องการอะไร”
“พี่ก็รู้ว่าผมต้องการอะไร”
ร่างบางสั่นเทาเมื่อฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกายเอวบางของเธอ
“นายได้ไปแล้ว” เธอเริ่มพูดเสียงดังขึ้น
“ผมอยากได้มากกว่าลิ้นนะ”
ฉันกำหมัดแน่นเสียงเขาหอบหายใจถี่ขึ้นและฉันรู้สึกถึงลิ้นร้อนที่ไล้ไปมาลำคอของฉัน ก่อนที่เขาจะยอมถอดห่าง
“แล้วผมจะรอคำตอบนะครับ”
ฉันรีบหันกลับมามองก็ไม่เจอใครแล้ว ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูดูก็ไร้ผู้คน เขาทำให้รู้สึกกลัวเขามากขึ้นไปอีก
อาร์ทที่แอบมองอยู่เหยียดยิ้มเขาคว้าหาบุหรี่ขึ้นมาสูบเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา
“เวลาโกรธพี่ก็น่าเอาเหมือนกันนะ” เขายิ้มก่อนจะเดินหนี ครั้งนี้เขาจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนเสียก่อนครั้งหน้าเขาค่อยจะหาทำเรื่องตื่นเต้นกับเธออีกครั้ง และอีกครั้ง
ที่ร้านเหล้าเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นที่มักมาดื่มเที่ยวหาความสุข ใช่ฉันทำงานที่ร้านเหล้านี้มาเกินสองปีได้แล้ว ความจริงแล้วฉันก็ไม่อยากจะทำงานนี้สักเท่าไรเพราะมันต้องได้แต่งหน้าทาปากเพื่อให้มีสีสันฉันเคยคิดที่จะหางานทำใหม่ แต่งานสมัยมันหาง่ายก็ดีนะสิ
“ไง…..น้ำวันนี้เธอสวยนะ”
“ขอบใจ”