เงา
คุณเคยมีความกลัวเกี่ยวกับอะไรสักอย่างรึเปล่า แน่นอนว่าฉันมีฉันเป็นคนที่กลัวความมืดที่สุด และเกลียดการเข้าสังคมที่รอบล้อมไปด้วยผู้คน แต่ถึงอย่างนั้นฉันกลับรู้สึกเมื่อมีใครบางคนตามติดชีวิตของฉันอยู่ มันทำให้ฉันกลัวยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า บางสิ่งบางอย่างของฉันหายไป
“เอาแล้ว”
ฉันนั่งลงบนเตียงอย่างลำคาญที่ต้องมาเจอกับปัญญาหาชุดชั้นในหายเป็นประจำ ฉันเคยคิดว่าอาจจะเป็นคนที่เช่าอยู่ห้องเช่าชั้นเดียวกันกับฉันก็ได้ แต่คนก็มากมายใครจะไปรู้ว่าใครเป็นคนขโมยมันไป ถึงจะไปขอดูกล้องวงจร มันก็ดันมาเสียในวันที่ชุดชั้นในของฉันหายไปตลอด นั้นยิ่งทำให้ฉันหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น อ๋อ ฉันชื่อน้ำเป็นนักศึกษาม.ปลาย
ฉันไม่มีครอบครัวหรอกทุกคนเสียกันไปหมดแล้ว แล้วที่สำคัญฉันไม่ได้สวยใสขนาดถึงจะมีพวกโรคจิตมาคอยตามติดขโมยชุดชั้นใน แต่มันก็เกิดขึ้น ทุกคนในมหาลัยไม่ค่อยรู้จักฉันเท่าไร หรือต้องเรียนว่าฉันไม่มีตัวตนหรือสำคัญเท่าไรมาก ก็แค่มีหน้าที่เรียนให้จบเท่านั้น เพื่อนเหรอก็นะฉันต้องทำงานในวันหยุดไม่มีเพื่อนหรอกนอกจากที่เพื่อนที่ทำงานเดียวกัน
นั้นทำให้ฉันต้องอยู่คนเดียวในอาพารต์เมนต์เก่าๆ นี้ ข้างห้องฉันเป็นคู่รักสองผัวเมียที่บ้างวันก็ทะเลาะกันบ้างวันก็ดูเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและบางครั้งก็
“อ๊ะ….อ๊าส”
นั่นล่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคู่ชีวิตและเป็นเรื่องประจำของพวกเขา สิ่งที่จะช่วยให้ฉันไม่คิดถึงเรื่องพวกนั้นคือใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงดังเหมือนนักดนตรีหนุ่มผมยาวข้างห้องฉันเขามักออกไปทำงานเล่นดนตรีในเวลากลางคืนและตรงกันข้ามห้องฉันคือ503 เป็นผู้ชายที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง
เขามักจะสวมแว่นตาสีดำสวมเสื้อแขนยาวและสวมหน้ากากอนามัยสีดำปกปิดใบหน้าเสมอ นานๆ จะเห็นเขาออกจากห้อง เห็นเจ้าห้องว่าเขาเป็นนักเขียนนิยายเช่าห้องอยู่มานานแล้วฉันจึงตัดเขาออกจากไอ้โรคจิตนั้นแต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเป็นเขา
ก๊อกๆๆ
“หืม…ใครอ่ะ” ฉันรีบเดินไปเปิดประตูก่อนจะพบเจ้าของห้องเช่า
“มีคนส่งของมาให้”
“แต่ฉันไม่ได้สั่งนะป้า” ฉันก้มลงมองไปที่กล้องขนาดใหญ่ ดูเหมือนป้าเจ้าของห้องเช่าแกจะไม่สนใจรีบยกมันให้ฉัน
“แต่ชื่อผู้รับเป็นเธอ” แกบอกก่อนจะรีบเดินออกไป เป็นเวลาเดียวกันที่ฉันเห็นเขา ชายห้องตรงข้ามที่เดินเข้ามาพร้อมอาหารสำเร็จเขายังคงปกปิดใบหน้าของเขาแม้กระทั่งมือของเขาก็ยังคงสวมถุงมือเอาไว้ เขาก้มหน้าลงก่อนจะรีบเปิดประตูแล้วปิดมันเสียงดัง
ปัง
“……..” โอ๊ยย ปิดธรรมดาไม่เป็นหรือไง
ฉันรีบปิดประตูห้องตัวเองทันที ก่อนจะรีบแกะกล่องออกดูและนั้นทำให้ฉันได้เห็น
“เห้ย” นี่มันชุดชั้นในฉันเต็มไปหมดเลยต้องเป็นไอ้โรคจิตแน่ๆ แต่ใครล่ะฉันโยนกล่องนั้นทิ้งและนั้นทำให้ฉันเห็นกระดาษโน๊ต
“กลิ่นหอมดีนะ”
กรี๊ดไอ้โรคจิต ฉันรีบขยำกระดาษนั้นทิ้งไปทันทีรวมทั้งชุดชั้นในของฉันด้วยฉันไม่รอช้าที่จะรีบเก็บมันใส่ถุงดำเตรียมเข้าไปทิ้ง แต่พอมองออกไปข้างนอกเวลานี้มันก็ดึกมากแล้ว
“พรุ่งนี้แล้วกัน” ฉันเตะถุงดำไปทีหนึ่งก่อนจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวนอนถึงจะนอนไม่หลับก็เถอะก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใครดีก็ฉันมันคนไม่มีเพื่อนนิ
05.00
น้ำรีบตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกของเธอ ที่ต้องรีบตื่นแต่เช้านั้นเพราะว่าในมหาลัยของเธอวันนี้มีกิจกรรมที่จะทำให้สาวๆ กรี๊ดกัน นั้นก็หมายถึงเหล่าหนุ่มหล่อและท็อปของมหาลัยจะมาเต้นโชว์ให้ทุกคนได้ดูเพื่อเป็นการเปิดตัวของเหล่าหนุ่มๆ ที่ถูกโหวตให้หล่อและมีเสน่ห์ที่สุด ซึ่งความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะสนใจอะไรหนักหนาหรอก หากไม่ติดตรงที่ว่าฉันอยู่ฝ่ายบริการ
น้ำเป็นสาวที่มีหุ่นสมส่วนไม่อ้วนและผอมเกินไปส่วนสูงร้อยหกสิบสามผมหยักศกและผิวสีแทน วันนี้เธอสวมชุดสีขาวเอวลอยกับกางเกงยีนขาวยาวตามสไตล์วัยรุ่นที่มีขาดบ้าง มือบางเอื้อมไปคว้าเสื้อแขนยาวสีดำมาสวมทับก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องและนั้นทำให้เธอได้สบตากับหนุ่มที่อยู่ห้องตรงข้ามซึ่งเขายังไม่ทันได้สวมแววตา เธอรู้สึกเหมือนเขาจะมองมาที่เธอแวบหนึ่งก่อนจะรีบสวมแว่นตาแล้วเดินออกไปอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โห….ตื่นเช้าเป็นเหมือนกันฮ่ะ”
ที่มหาลัยสาวๆ ต่างก็มาร่วมกันตั้งแต่เช้าฉันรีบเดินไปที่ห้องครัวจุดนัดพบของฝ่ายบริการซึ่งมันก็ไม่ได้โดดเด่นเหมือนฝ่ายอื่นๆ
“ผมขอน้ำดื่มหน่อยได้ไหมครับ” ฉันหันไปทางต้นเสียงก็พบกับหนุ่มหล่อตัวท็อปอย่าง อาร์ท แม้เขาจะอายุแค่สิบแปดแต่กับมีเสน่ห์และหล่อราวหนุ่มอายุยี่สิบ เขาทั้งสูงผิวขาวผมของสีดำมีต่างหูสีดำที่ข้างซ้ายและที่สำคัญเขามักส่งยิ้มให้สาวๆ ไปทั่วและนั้นทำให้ฉันไม่ค่อยชอบเขา อาร์ทเขาหันมาฉันแต่ก็ช้ากว่ารุ่นน้องซึ่งดูเหมือนจะเป็นแฟนคลับรุ่นน้องของเขา เธอชื่อหมิว
“น้ำค่ะพี่อาร์ท…..” อาร์ทหันไปรับขวดน้ำในมือหมิวเขาไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้เธอ หมิวมีสีหน้าแดงเล็กน้อยเพราะอายที่ได้อยู่ไกลๆ ตัวท็อบอย่างเขา
“น้ำ ของน้ำดื่มหน่อยดิ” ส่วนเสียงที่ดังมาก่อนเจ้าตัวที่กำลังวิ่งมานั้นคือ บอย เพื่อนร่วมห้องฉัน ที่พยายามจะทำให้ฉันมีตัวตนที่ชัดเจนขึ้น
“ทำไมวันนี้หน้าบูดจัง” บอยเขาเอ่ยทักฉันทั้งที่เขาเองก็เป็นหนุ่มท็อปอีกทั้งยังเป็นนักกีฬาดีเด่นของมหาลัย
“เรื่องของฉัน” ฉันตอบเขาก่อนจะยื่นขวดน้ำไปให้เขา แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกถึงสายตาใครบางคนที่กำลังมองมาที่ฉันแต่พอมองหาก็ไม่พบใครนอกจากฉันกับบอยและคนอื่นๆ มันเป็นสายตาที่ชวนขนลุก มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องชุดชั้นในที่ขโมยไปและมันก็ถูกนำมาส่งคืนเจ้าของ
“……..” สงสัยคงคิดมากไปเอง
ที่ด้านนอกชายคนหนึ่งกำขวดน้ำแน่นก่อนจะเหวี่ยงมันทิ้งแล้วเหยียบมันจนจมดินสายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังแจกน้ำให้ทุกคน
“พี่ต้องเป็นของผมคนเดียว”
ผมเป็นโรคประหลาดชนิดหนึ่งซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ เหมือนได้อยู่ใกล้เธอผมกลายเป็นคนเสพติดกลิ่นกายของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีกลิ่นกายแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปมันทำผมคลุ้มคลั่งได้หากมีใครอยู่ใกล้เธอ ผมอยากจะเข้าใกล้เธอให้มากกว่านี้แต่ก็ทำไม่เคยได้เพราะกลัวจะทำให้เธอหวาดกลัว ใช่ผมเป็นคนขโมยชุดชั้นในของเธอเอง ผมคอยติดตามชีวิตของเธอ เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และเกลียดอะไร ผมรู้ดีที่สุด ผมติดตามชีวิตของเธอมาเกือบห้าปีแล้ว จะเรียกผมว่าไอ้โรคจิตก็ได้ เพราะมันก็คล้ายคนโรคจิตที่คอยแอบตามคนที่ชอบ เพียงแต่ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอมันทำให้อารมณ์ของผมเริ่มจะคุมไม่ค่อยอยู่ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากจะยุ่งกับพวกนั้น มันทำให้ผมมีโอกาสที่จะทำให้เราสองคนรู้จักกันอย่างเปิดเผยแค่สองคนเท่านั้น