รุจิกานต์สังเกตว่าเพื่อนรักของตนเองดูจะสนใจคีรินทร์มากเป็นพิเศษ บางทีคู่นี้อาจจะรู้จักมักคุ้นกันมานานแล้วก็ได้ และนั่นก็เป็นผลดีกับเธอ เพราะทำให้เธอมีเวลาพูดคุยกับภานุวัฒน์แบบสองต่อสองได้อย่างสะดวก
แล้วแผนการที่คิดว่าพังสลายไปแล้ว ก็เหมือนจะมีเค้าความสำเร็จลางๆขึ้นมาบ้างแล้ว
เพื่อนก็เพื่อนเถอะ แต่ชีวิตเธอทั้งชีวิต เธอจะยอมแต่งงานไปกับผู้ชายอย่างนายคีรินทร์ไม่ได้เด็ดขาด!
รุจิกานต์ก็หวังว่า หากเกิดเหตุการณ์ขุ่นเคืองใจเพราะความเข้าใจผิดขึ้นมา ระหว่างเธอกับภีมนารา เธอก็หวังว่าภีมนาราจะยกโทษให้เธอ
แล้วพอจังหวะดนตรีเร้าใจเริ่มขึ้นอีกครั้ง เธอก็ออกไปแดนซ์กับภานุวัฒน์เพื่อทำใส่ใครบางคน
‘จะหมั้นกับเขาพรุ่งนี้อยู่แล้ว ยังมาแรดกับเพื่อนของเขาอีก หรือว่าสองคนนี้จะชอบกันจริงๆ แต่ยังไงเธอกับเขาก็ต้องหมั้นกันพรุ่งนี้อยู่แล้ว ยังไงเขาก็มีสิทธิ์ในตัวเธอมากกว่าใคร รอให้ถึงเวลากลับบ้านก่อนเถอะ เขาจะบอกเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคนเองเลย’
ต่อให้ภานุวัฒน์ตัดความเป็นเพื่อนกับเขา เขาก็ต้องหมั้นและแต่งงานกับรุจิกานต์ให้ได้
เสียงหัวร่อต่อกระซิกและการเต้นแบบถึงเนื้อถึงตัวของว่าที่คู่หมั้นกับเพื่อนรักของเขา ทำให้คีรินทร์อารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาดื้อๆ เพราะรู้สึกว่าถูกหยามมากเกินไป
‘น้องจี คิดจะยั่วพี่ให้หึงเหรอ ก็ได้ผลอยู่หรอกนะ แต่พี่ไม่ได้หึง พี่ก็แค่ไม่อยากให้เธอมาทำหยามเกียรติกันก็แค่นั้น รับรองว่าคืนนี้ ถ้าพี่ไม่ได้กำราบเธอ พี่จะไม่ยอมกลับบ้านแน่’
“พี่คีเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูสีหน้าเครียดจัง”
ภีมนาราที่ไม่ได้ล่วงรู้ความในใจของคนที่เธอแอบชอบตรงหน้า ถามออกไปตรงๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย
“อ๋อ พี่กำลังกลุ้มใจเรื่องที่พี่จะสละโสดน่ะ”
“สละโสด! เมื่อไหร่คะ” ความผิดหวังฉายฉาบเต็มดวงหน้าสวยคมของภีมนาราทันที
‘นี่เธอกำลังอกหัก โดยที่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอแอบชอบเขาเหรอเนี่ย’
“พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้! กับใครคะ”
“เพื่อนแนชไง” ทีแรกก็ตั้งว่าจะบอกเรื่องนี้กับทุกคนเมื่อใกล้เวลากลับบ้าน แต่ในภีมนาราถามมาแบบนี้ เขาก็คงตต้องตอบแบบเลยตามเลย
“เพื่อนแนช หมายถึงยัยจีเหรอคะ จะเป็นไปได้ยังไง ยัยจียังไม่ได้บอกแนชสักคำเลย แล้วอีกอย่างพี่วัฒน์ก็ชอบจีมานานแล้วด้วย แนชคิดว่าพวกเขาสองคนกำลังไปกันด้วยดีเสียอีก”
“อ้าว พี่ชายแนชกับจีคบกันมาก่อนเหรอ”
“เปล่าค่ะ เขาสองคนยังไม่ได้คบกัน แต่ว่าพี่วัฒน์เขาแอบชอบจีอยู่”
“อ้อ แนชก็เลยโทรให้ไอ้วัฒน์มันมาหาเพื่อนของแนชคืนนี้ใช่ไหม”
ภีมนาราพยักหน้า แล้วหันไปมองเพื่อนรักกำลังแดนซ์กับพี่ชายของเธออย่างสนิทสนมแนบชิด แบบไม่ได้เกรงอกเกรงใจว่าที่คู่หมั้นของตนเองเลย ทำให้เธอไม่เข้าใจ
“การหมั้นหมายเป็นความต้องการของพี่คีเหรอคะ”
“เปล่า มันเป็นความต้องการของทางผู้ใหญ่ ที่จะให้เราสองคนแต่งงานกันเร็วๆนี้ พี่ก็แค่ทำตามความต้องการของพ่อกับแม่ของพี่”
“ทั้งที่ไม่ได้รักจีเหรอคะ”
“เพื่อพ่อกับแม่พี่ทำได้ทุกอย่างแหละ”
“แล้วจีก็ยอมเหรอคะ”
“พ่อของจีไม่สบายเป็นโรคความดันอยู่ และแม่ของจีก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ จีเขาคงไม่กล้าขัดใจพ่อกับแม่ของเขาหรอก”
“แล้วไม่คิดจะแต่งแบบหลอกๆกันเหรอคะ เหมือนในละคร”
คีรินทร์หัวเราะ
“คนแก่เขาอยากอุ้มหลานกัน แล้วพี่จะแต่งงานแบบหลอกๆได้ยังไง”
“แสดงว่าพี่คีกับจียังไม่ได้รักกันใช่ไหมคะ”
“แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปรักล่ะ ก็เพิ่งเจอกันวันนี้วันแรก พ่อกับแม่ของเราทั้งสองฝ่ายก็จะจับพวกเราหมั้นกันพรุ่งนี้แล้ว”
“ไวจังเลยนะคะ แล้วแต่งเมื่อไหร่คะ”
“ไม่เกินสี่เดือน”
‘นี่ถ้าพี่ชายของเธอรู้จะเสียใจมากแค่ไหน’
ประมาณสองชั่วโมงต่อมาก็ได้เวลากลับบ้าน คีรินทร์ที่ถูกยั่วให้เดือดพล่านมาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง เดินอาดๆไปหาว่าที่คู่หมั้นของเขาด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ เมื่อเห็นรุจิกานต์ถูกภานุวัฒน์โอบกอดเต้นในเพลงจังหวะช้าๆ
“จะเที่ยงคืนแล้ว กลับได้รึยังน้องจี” เขาถามหญิงสาวเสียงเข้มหน้าขึงขัง ภานุวัฒน์หันขวับมามองเพื่อนรักอย่างไม่พอใจ
“เฮ้ย แล้วมึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งน้องเขาวะ มึงเป็นอะไรกับน้องเขา”
“พรุ่งนี้เก้าโมง น้องจีต้องเข้าพิธีหมั้นกับกู ทีนี้มึงรู้หรือยังว่ากูมีสิทธิ์อะไรในตัวน้องจี”
แล้วการเต้นรำที่แสนจะโรแมนติกก็หยุดชะงักลง รุจิกานต์ไม่พูดอะไร เธอนิ่งเฉยมองสองหนุ่มเจรจากันเอง ขณะที่ภีมนารามองมาทางเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่รู้จะโทษใครหรือโกรธใครเหมือนกัน
ในเมื่อคีรินทร์บอกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดการกันเอง แล้วรุจิกานต์ก็ปฏิเสธไม่ได้
เพราะเหตุนี้หรือเปล่ารุจิกานต์ถึงได้อยากมาเที่ยวผับคืนนี้ แต่รุจิกานต์อาจยังไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอกับคีรินทร์เป็นเพื่อนรักกัน
“มันเป็นเรื่องจริงหรือครับน้องจี”
“ก็แค่หมั้น ยังไม่ได้แต่งซะหน่อย”
รุจิกานต์ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แล้วรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย ที่ไม่คิดว่าคืนนี้มันจะลงเอยแบบนี้ ทำไมพี่ชายของเพื่อนรักจะต้องมาเป็นเพื่อนสนิทกับอิตาคีรินทร์ด้วยก็ไม่รู้ แล้วทีนี้ภานุวัฒน์จะยอมร่วมมือกับเธอเหรอ