ตอนที่ : 8 ลูกค้าคนแรก 2

1324 Words
กฤษกรณ์ยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง เอนหลังพิงเบาะโซฟาในท่าสบายๆ ไล้นิ้วใต้คางเบาๆ เหมือนกำลังประเมินสินค้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า กวาดตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ใบหญ้าไม่อาจทนเฉยได้อีกต่อไปต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน เพราะว่าสายตาของเขามองเหมือนอยากจะเปลื้องผ้าเธอออกเสียเดี๋ยวนี้เลย หากอยู่ในช่วงเวลาปกติป่านนี้หญิงสาวคงลุกขึ้นมาต่อว่าคนตรงหน้าแล้ว แต่นี้เธอเป็นเพียงสินค้าชิ้นหนึ่งที่ลูกค้ากำลังใช้สิทธิ์เลือกซื้ออยู่ จึงไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ซ้ำหัวใจก็ยังแตกสลายจากน้ำมือของบิดา จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าคนตรงหน้ามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเพียงใด ‘นางฟ้าชัดๆ’ ชายหนุ่มคิดในใจ เก็บอาการพึงพอใจไว้ข้างใน สายตาที่แสดงออกมายังคงนิ่งเฉย เขาจะไม่มีวันหลงใหลไปกับรูปรสกลิ่นสีอันจอมปลอมเหล่านี้เด็ดขาด “ใหม่ของเฮีย ผมเห็นย้อมแมวขายกันทุกที” กฤษกรณ์เอ่ยขึ้นอย่างไม่ปักใจเชื่อในคราวเดียว เฮียเส็งได้แต่ส่งรอยยิ้มแหยๆกลับมาให้ รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมานั้นมันเป็นความจริง แต่ด้วยความโลภก็ยังจะเสนอหน้าคุยโวต่อไป “แต่คนนี้ใหม่จริงๆ นะคุณกรณ์ ใหม่ที่สุดและดีที่สุดของที่นี่ในตอนนี้เลยนะ ไม่มีการย้อมแมวขายจริงๆ” คำพูดของเฮียเส็งทำให้กฤษกรณ์ต้องนิ่วหน้าหรี่ตาลงข้างหนึ่ง เงยหน้าใช้สายตากวาดมองหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นสินค้าของตัวเองอีกครั้ง “นี่ดีที่สุดของคุณแล้วเหรอ” กฤษกรณ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แกมเย้ยหยันเล็กน้อย สายตาของเขายากแก่การคาดคะเนได้ว่า ตอนนี้กำลังคิดอะไรสิ่งใดอยู่ เพราะเอาแต่ลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้งของสินค้าตรงหน้าซ้ำไปซ้ำมา “เอ่อครับคุณกรณ์” เฮียเส็งดูประหม่าเล็กน้อย กลัวว่าลูกค้าใจป้ำจะยังไม่พอใจ ตนยังไม่อยากเสียลูกค้าคนนี้ให้กับคู่แข่งไป เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ดูเหมือนเฮียเส็งจะเริ่มหายใจติดขัด เม็ดเหงื่อเริ่มผุดทั้งๆ ที่อุณหภูมิในห้องก็เย็นสบายเป็นปกติ สายตาของกฤษกรณ์ยังไม่ได้แสดงอาการพึงพอใจใดๆ ออกมา นั่นยิ่งทำให้เฮียเส็งออกอาการร้อนรนอยู่ไม่น้อย “รับรองคนนี้สดซิงจริงๆ นะครับคุณกรณ์ ผมขอรับประกันด้วยเกียรติตัวเองเลย” เจ้าของผับย้ำอีกรอบ ‘หึ ถึงกับรับรองด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ’ กฤษกรณ์แสยะยิ้มออกมาอย่างเหยียดๆ แม่คุณจะผ่านผู้ชายมาสักกี่คนกันนะ แต่ที่แน่ๆ ต้องรวมอีตาเจ้าของผับคนนี้ด้วยอย่างแน่นอน ก่อนจะหันไปมองสินค้าของตัวเองอีกครั้งเพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกหรือไม่เลือก ชายหนุ่มมาสะดุดตรงหน้าอกอวบอัดที่ดันเนื้อผ้ากำมะหยี่ออกมาจนเห็นเป็นเงาอยู่รางๆ กระตุกรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ถ้าคุณรับรองด้วยตัวเองขนาดนี้แล้วก็...เอาคนนี้ก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นตรงไปฉุดข้อมือหญิงสาวให้ตามเขาออกจากผับไป “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของเฮียเส็งกับนายสนธยาพ่นออกมาเกือบจะพร้อมๆ กัน หลังจากยืนลุ้นอยู่ตั้งนานว่าจะออกมาในรูปแบบไหน “ทำไมมันไม่พูดออกมาตั้งแต่แรกวะ” เฮียเส็งระบายออกมาหลังจากลูกค้าออกไปจากห้องแล้ว “นั่นสิครับเฮีย ผมงี้ลุ้นเกือบตาย” ลูกน้องคนสนิทรีบสมทบขึ้น เป็นที่รู้กันดีว่ากฤษกรณ์ต้องใช้บริการก่อนถึงค่อยจ่ายทีหลัง และเฮียเส็งก็ยอมให้เครดิตชายหนุ่มเพราะจ่ายมากกว่าคนอื่นถึงเท่าตัวเลยทีเดียว ภาพที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดึงข้อมือสาวสวยในชุดสีแดงให้เดินตามหลังเขาออกทางประตูหน้า ทำให้ผู้คนแถวนั้นอดชำเลืองดูไม่ได้ เพราะฝ่ายชายนั้นรูปร่างหล่อเหลาดั่งเทพบุตรก็ไม่ปาน ส่วนฝ่ายหญิงก็นางฟ้าเดินดินดีๆ นี่เอง สายตาของทุกคู่มองตามจนทั้งสองก้าวพ้นประตูออกไป ปกติแล้วกฤษกรณ์มักจะให้อาณพคนขับรถของเขาเป็นคนจัดการธุระเรื่องนี้ เพราะไม่ต้องการให้มีข่าวเล็ดลอดออกไปสู่สังคมวงกว้าง ใครจะคิดว่า กฤษกรณ์ อัศวโรจนันท์ นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ต้องมาใช้บริการหญิงสาวเหล่านี้ เป็นเพราะว่าหากเขาคบกับคนในวงสังคมเดียวกัน มีหวังความผิดปกติของเขาได้กลายเป็นข่าวดังพาดหัวไม่เว้นแต่ละวันแน่ ทว่าวันนี้ชายหนุ่มอารมณ์เสียแบบสุดๆ เพราะแต่ละคนที่อาณพพามาให้เขาดูนั้นไม่ได้ดั่งใจเลยสักราย ทำให้เขาต้องขอคุยกับเจ้าของผับด้วยตัวเองและผลที่ได้ก็คือนางฟ้าคนนี้นี่เอง “ออกรถ” ชายหนุ่มออกคำสั่งหลังจากดันร่างของหญิงสาวเข้าไปนั่งตรงเบาะด้านใน ส่วนตัวเขาเองก็ตามเข้ามาบนเบาะเดียวกัน รถแล่นออกไปได้สักพักหนึ่งแล้ว ไม่มีบทสนทนาใดๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่ อาณพแอบชำเลืองมองผ่านกระจกหลัง ปกติแล้วพวกหล่อนจะคุยเก่งนักเก่งหนา ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับทุกคนที่ผ่านมา หล่อนหันหน้าไปมองข้างทาง ส่วนเจ้านายของเขาก็มองไปอีกทาง “เฮ้อ” อาณพถอนหายใจเบาๆ อดสงสารสาวงามนางนี้ไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าคืนนี้หล่อนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ในขณะที่ใบหญ้ายังคงจมอยู่กับความเสียใจจนไม่อาจรับรู้ความเป็นไปของตนเองได้ในตอนนี้ บางครั้งกฤษกรณ์ก็เหลือบมองมายังหญิงสาวเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ‘นี่เขาต้องทำร้ายนางฟ้าคนนี้ด้วยสองมือคู่นี้ใช่ไหม’ ‘ก็สมควร’ อีกเสียงหนึ่งในความคิด ดูเหมือนจะขัดแย้งกันอยู่ในตัว เมื่อรถเลี้ยวผ่านประตูบานใหญ่ ด้านในมีต้นไม้ใหญ่น้อยเรียงรายสองข้างทาง ถัดจากนั้นก็เป็นไม้พุ่มเล็กๆ เรียงยาวมาถึงหน้าบันไดทางเข้าบ้าน แม่บ้านต่างวัยสองคนยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า กฤษกรณ์เปิดประตูรถออกพร้อมกับคว้าข้อมือหญิงสาวให้ตามเขาขึ้นไปบนบ้าน ไม่ลืมหันมาสั่งแม่บ้านสูงวัย “ป้าแอ๋วปิดบ้านได้เลยนะครับ วันนี้ไม่ออกไปไหนอีกแล้ว” “ค่ะคุณกรณ์” นางเบญจมาศเอ่ยแล้วก็หันไปพยักหน้าให้ดารารัตน์สาวใช้อีกคน “ไปแก้วไปปิดประตูบ้าน” “จ้ะป้าแอ๋ว” ดารารัตน์รีบทำตามคำสั่งในทันที นางเบญจมาศมองตามหลังเจ้านายหนุ่มที่กำลังดึงหญิงสาวคนสวยขึ้นบันไดบ้านด้วยสายตาแห่งความเวทนา ใบหญ้าถูกดึงกึ่งลากให้เดินตามเขาขึ้นไปบนบ้าน ประตูห้องริมขวาสุดถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว “ตุบ!” แรงเหวี่ยงจากเขาทำให้หญิงสาวถึงกับลอยละลิ่วไปอยู่บนเตียงนอน ทั้งเจ็บจุกเสียดท้องจากแรงกระแทก กระโปรงแสนสั้นร่นขึ้นสูงเผยให้เห็นท่อนขาขาวอวบเกือบถึงโคน กฤษกรณ์หลุดเสียงครางฮือในลำคอ กระชากข้อเท้าทั้งสองข้างให้ร่นต่ำ ก้าวขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “เผียะ!” ฝ่ามือหนากระทบเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวอย่างจัง มุมปากแตกเกิดหยดเลือดเล็กๆ ขึ้นในทันที คนถูกตบหน้าชาวาบ ทั้งตกตะลึงและตื่นกลัวในการกระทำของเขา นอกจากบิดาแล้วไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายเธอแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD