หน้าที่เมียทาส 3

1278 Words
“จ้า บอกผมแล้วหัดบอกตัวเองไว้ด้วย ทั้งคุณและผู้ชายคนนั้น” อันน์กล่าวจบ จึงก้าวไปหาชายวัยรุ่นที่มีจักรยานคันใหญ่ “ไปเลยพี่เรือนของนายธรรศ นี่มืดแล้ว ผมมีอะไรต้องทำแยะ โอ๊ยคันปากยิบๆ ไม่รู้จะรายงานคุณเขายังไงดี” เหล่าคนงานเห็นอันน์กล้าต่อปากต่อคำกับแหม่ม จึงพากันหัวเราะขำขัน “พวกป้า พวกลุงก็เหมือนกัน อย่าให้ฉันจับได้ว่าเล่นหวยที่นี่ แล้วถ้าเอาเหล้าเข้ามากินที่โรงนอนอีก ฉันจะฟ้องคุณธรรศให้ไล่ออกเรียงตัวเลย” พอแหม่มเอ่ยอย่างนั้นเลยไม่มีใครอยากตอแยเธอ ส่วนอันน์ได้แต่ยักไหล่น้อยๆ ก่อนขอให้วัยรุ่นหน้าหนวดพาเขาไปที่เรือนไม้หลังใหญ่ อันน์ไม่อยากเสวนากับพรรคพลหรือแหม่ม เขาเปิดประตูได้ก็พุ่งเข้าไปยังห้องนอน นั่งเงียบๆ อยู่ในนั้นนานมากจนผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว พอตื่นจิตใจกลับไม่ยอมสงบ ด้วยฝันร้าย ความฝันที่สร้างความหวาดกลัวให้เขาเหลือเกิน เขาฝันว่าแม่และพี่สาว จับเขาแต่งงานกับธรรศ และในความฝันเขาก็ยินยอมพร้อมใจเสียด้วย อันน์แต่งชุดเจ้าสาวสวยงามสีขาว สวมมงกุฎดอกไม้ และชายกระโปรงยาวมากจนต้องมีเด็กๆ ช่วยกันจับทางด้านหลังหลายคน ชายหนุ่มปฏิเสธความฝันนั้น เขาไม่ต้องการให้มันเป็นจริง ยิ่งพอคิดถึงหน้าธรรศทุกอย่างก็ชวนให้หวาดกลัวหนักไปอีก ในสองสามวันที่ผ่านมาเขาพยายามค้นหาอุปกรณ์สื่อสารในห้องต่างๆ รวมถึงห้องนอนใหญ่ แต่ดูเหมือนธรรศจะจัดการไว้เป็นอย่างดี มันไม่มีสิ่งใดที่พอให้เขาติดต่อโลกภายนอกได้ ปกติเขาติดโลกออนไลน์มาก หากไม่แชตกับเพื่อนก็เป็นแฟนเพจและแฟนช่องรายการในยูทูปที่เข้ามาทักทาย แต่ตอนนี้ความเงียบกำลังทำให้เขาหงุดหงิดใจ อันน์มองตนเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองแล้วก็ต้องพบกับความโศกเศร้าและความเครียดบนใบหน้า เขาไม่อยากจมอยู่กับสิ่งเหล่านี้ จึงพยายามสลัดตนจากความทุกข์ เขาเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า ความสดชื่นทำให้ดีขึ้นก็จริง แต่เพราะอยู่คนเดียวมากเกินไป เขาจึงว้าเหว่และเหงา ยามนี้ความเงียบเล่นงานเขาอย่างหนัก ในห้องนี้ไร้ทีวี หรือสิ่งที่พอจะสร้างความรื่นเริง อันน์นั่งนิ่งๆ ต่ออีกพักใหญ่ ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังมาก ดังจนเขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ให้อยู่นิ่งเฉย “เปิดประตูหน่อยคุณ มีเรื่องด่วน” ถึงได้ยินอย่างนั้นแต่เขายังชั่งใจ ไม่ผลีผลามเปิดประตูให้อีกฝ่าย “คุณคะ เปิดประตูหน่อย มีเรื่องจริงๆ ขืนชักช้า ไม่ทันการณ์แน่ๆ” แหม่มเอ่ยจบก็มีเสียงร้องดังเอะเอะ คล้ายการมีปากเสียงกัน และเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิง ถึงจะเป็นคนอื่น และอาจเรียกได้ว่าเพิ่งมีปากเสียงกันเมื่อครู่ แต่อันน์ก็ใช่จะปล่อยให้ผู้หญิงถูกรังแกได้ เขานับหนึ่งไปได้แค่เจ็ด ก็ปลดล็อกกลอนประตูและเปิดออกไป แหม่มยืนกุมหน้าตนเอง ใบหน้าข้างหนึ่งของเธอคล้ายถูกทำร้าย เพราะมันแดงช้ำ “ร้องโวยวายทำไม” อันน์ถามเสียงเย็น หากเมื่อเห็นแหม่มที่ยืนตัวสั่นน้อยๆ เขาก็สงสาร “พี่อยากให้คุณคุยกับ พลสักหน่อย ไม่อย่างนั้น เขาคงทำตัวเกเรตบตีพี่อยู่อย่างนี้” “แล้วทำไม ไม่บอกคุณธรรศ เขาใหญ่สุดที่นี่ไม่ใช่เหรอ” แหม่มส่ายหน้า และเหมือนจะปล่อยโฮออกมา แต่กลั้นเอาไว้ เธอบีบมือตัวเองแน่น แล้วสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด “ผมไม่อยากยุ่งอะไรด้วย พี่บอกคุณธรรศเองเถอะ” “ไม่ได้หรอก น้องนั่นแหละช่วยพี่ได้ คุยกับพลหน่อย” แหม่มว่าแล้วก็ยื่นมือมาจับอันน์ มือเธอเย็นมาก “อย่าเลย ผมอยากนอนแล้ว” “เห็นคนมีทุกข์ แต่คุณไม่คิดจะยื่นมือช่วยรึไง ใจร้ายเหมือนพี่สาวคุณเลยนะ” อันน์จ้องแหม่มเขม็ง ดูเหมือนทุกคนในดงกุหลาบนี้รู้จักครอบครัวเขาดีเหลือเกิน “ทั้งพี่ ทั้งคุณธรรศ และนายพลนั่น ดูเหมือนจะรู้จักคนที่บ้านผมดีมากเลยนะ” “รู้สิ พวกเรารู้จักตระกูลนรารังสรรค์ เพราะทั้งแม่คุณและนังอลินา มันทำให้คนที่พี่รักเจ็บปวด ดังนั้นคนตระกูลนี้จะต้องฉิบหาย วอดวาย!” อันน์รู้สึกขนลุก แหม่มเหมือนคนมีสองบุคลิกเดี๋ยวดูเศร้า เดี๋ยวดูกราดเกรี้ยว “ท่าทางพี่จะเป็นประสาท กล่าวหาคนอื่นลอยๆ” “ไม่แน่นะ พี่จะเป็นบ้าก็ได้ ถ้าหากคุณยังอยู่ที่นี่ และจ้องจะให้ท่าผู้ชายทุกคนในดงกุหลาบ” แหม่มว่าและมองอันน์ด้วยสายตาร้ายๆ “ตลกแล้ว ผมไม่คุยกับพี่ดีกว่า สงสัยดูละครน้ำเน่า แย่งผัว แย่งเมียจนขึ้นสมอง” อันน์ว่า และเตรียมงับประตูแต่ในจังหวะนั้นพรรคพลไม่รู้มาจากไหน อีกฝ่ายเอาตัวเข้ามาขวางเสียก่อน “ถอยไปพี่แหม่ม ไม่งั้นเดี๋ยวผมทำให้พี่ หน้ายับกว่านี้ดีไหม” พรรคพลไม่ได้เพียงแค่ขู่ แต่สีหน้าและท่าทางเขาดูเอาจริงมาก “แต่เธออย่าทำอะไรมันนะ เด็กนี่คุณอันน์หวงมาก” “หวงอย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆๆ พี่ก็พูดไป มันเป็นผู้ชาย จะมีอะไรน่าสนใจ นายเขาคงไม่พิศวาสจริงๆ หรอก” พรรคพลหัวเราะเสียงน่าเกลียด เขาดูน่ากลัวพิลึก “พวกคุณทั้งสองคนนั่นแหละมาตอแยผมทำไม นี่มันห้องคุณธรรศนะ” “ใช่ ห้องของนาย แต่ก่อนคุณจะเข้าไปนอนถ่างขารอเขา บอกผมมาก่อนว่าคุณไม่เห็นอะไร” อันน์ไม่ตอบ ยามนี้แม้แต่หน้าของพรรคพลก็ไม่คิดมอง ด้วยมีบางส่วนคล้ายกับธรรศมิน้อย และภาพร่วมรักเมื่อครู่ ทำให้อันน์เผลอจินตนาการไปไกลว่ากำลังถูกธรรศคุกคามและปรนเปรอความสุขให้ ซึ่งเป็นเขาที่สมยอมอย่างไร้เงื่อนไข แต่สิ่งที่อันน์สยองจนแทบอยากอ้วกคือ แก่นกายของพรรคพล มันไม่ได้เหมือนของผู้ชายทั่วไปนอกจากสีดำคล้ำยังสักลายและฝังมุกหลายเม็ดจนดูน่าขยะแขยง! “รู้ดีจัง หรือว่าคุณเคยทำมาก่อน” พรรคพลทำตาขวาง สิ่งที่เอ่ยออกมานี้คงจี้ใจดำเขามาก “คุณไม่รู้อะไร อย่าพูดมั่วๆ เลยดีกว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือ อย่าเที่ยวพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าให้นายฟัง” “เอ แล้วอะไรบ้างล่ะ ที่คุณธรรศไม่ควรได้ยิน” อันน์เล่นลิ้น “คุณกำลังวอนหาเรื่องเจ็บตัว ไม่อยากอยู่สงบๆ ที่ดงกุหลาบรึยังไง” “ไม่เลย ผมอยากไปจากที่นี่ทุกลมหายใจเข้าออก และอยากไปแบบที่ทำให้พวกคุณทุกคน เจ็บ... เจ็บเหมือนอย่างที่ผมถูกกระทำ แต่ผมคงไม่ลงมือเองหรอก เพราะไม่นานกรรมคงตามทันพวกคุณทุกคน” อันน์ว่าและแสดงด้านมืดของเขาออกมา “ผมไม่เคยทำอะไรคุณ ฉะนั้นอย่าแส่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เอาล่ะ บอกผมมาว่าคุณไม่เห็นอะไร !” พรรคพลเสียงดังกว่าเดิม ก่อนถือวิสาสะก้าวเข้ามาในห้อง ทิ้งแหม่มให้อยู่ด้านนอก และจิตใจตอนนี้ของเธอกำลังร้อนรุ่ม ทั้งกลัวพรรคพลทำร้ายอันน์ และก่อเกิดความหึงหวงท่วมท้นใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD