“อืมมม” ผมหลุดเสียงครางออกมาอย่างพอใจ ในขณะที่กำลังตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากของเธอ กลิ่นของเหล้าจางจางที่ผสมกับกลิ่นลิปสติกของเธอมันกำลังทำให้ผมคลั่ง
พลั่ก!!
“เอ่อ ฉันขอโทษฉัน ไม่ได้ ตั้งใจ” ลลิลรีบพูดขึ้นมา หลังจากที่เธอได้สติแล้วเป็นฝ่ายผลักผมให้ออกห่างจากตัวของเธอ
ผมมองร่างบางตรงหน้าที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์หรือว่าเธอเขินผมกันแน่ ก่อนที่เธอจะหันหน้าหนีไปทางอื่น
คือผมไม่ได้รังเกียจอะไรเธอเลยนะ ผมกลับดีใจด้วยซ้ำที่เธอเป็นฝ่ายดึงผมเข้าไปจูบก่อน แต่ที่ผมอยากรู้ตอนนี้คือเธอทำไปเพราะเธอเมาหรือว่าเธอทำตามหัวใจตัวเองกันแน่
เพราะตอนนี้ผมคิดว่าผมเองก็จะห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน หรือว่าบางทีเราสองคนควรจะยอมรับความรู้สึกของตัวเองซะที
ผมใช้สองมือจับไปบนไหล่ของร่างบางให้หันมาสบตากับผม ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้คนฟังอย่างเธอถึงกับตกใจ
“คบกันมั้ย?”
“อะ เอ่อ นี่นายล้อฉันเล่นใช่ป่ะ” O.O คนตรงหน้ารีบตอบกลับผมมาทันที
“ฉันจริงจัง!” ผมตอบเธอกลับไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนตอนนี้ใบหน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบ
หมับ!!
ผมจับมือเรียวของร่างบางมาวางทาบไว้บนหน้าอกข้างซ้ายของผมที่ตอนนี้อวัยวะข้างในมันกำลังเต้นแรงมาก เธอมองหน้าผมเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ผมไวกว่ารีบปิดปากของเธอด้วยปากของผมทันที
“อื้อออออ”
“อืมมมมมม” ผมสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธออีกครั้ง ก่อนจะตักตวงเอาความหอมหวานจากเธอเป็นครั้งที่สอง ซึ่งครั้งนี้ผมจูบเธออย่างเร่าร้อนและรุ่นแรงกว่าครั้งแรกที่ผ่านมา
พลั่ก!!
“หะ หายใจไม่ ออก” >////< ร่างบางที่เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจรีบใช้สองมือผลักผมออกทันที
“หึ” ผมขำให้กับใบหน้าของเธอตอนนี้จัง และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ผมก็จัดการประกบจูบเธอไปอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆกดตัวของลลิลให้นอนราบลงไปกับเตียงแล้วตามขึ้นไปคร่อมบนตัวของเธอ
“อื้อออออ”
“อืมมมม” เราสองคนจูบแลกลิ้นกันอยู่แบบนั้น ถ้าทุกคนจะถามว่าผมคิดจะหยุดอยู่แค่จูบมั้ย ผมตอบได้เลยครับว่า ไม่ เพราะถ้าจะให้ผมหยุดตอนนี้มันก็คงไม่ทันแล้วหละครับ มีแต่คำว่าต้องไปต่อเท่านั้นที่ดังอยู่ในสมองของผมตอนนี้
อีกอย่างความต้องการในตัวของผมที่มีต่อลลิลตอนนี้มันเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีก อาจจะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ที่มันกำลังพลุ่งพล่านในตัวของผมตอนนี้ก็ได้
ส่วนหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป เธอจะยอมคบกับผมมั้ย ผมก็ไม่สนใจแล้วครับ
เพราะยังไงผมคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราที่ผมพยายามรักษามันมาเกือบสามปี มันคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปและผมคิดว่าผมคงจะกลับไปเป็นเพื่อนของเธอไม่ได้อีกแล้วเช่นกัน
.
.
.
ยี่สิบนาทีต่อมา
"อ๊ะ ลิลเจ็บ ไม่เอาเข้ามาได้มั้ย"
ลลิลที่กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างของกองทัพ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า เพื่อนสนิท ของเธอ ถึงกับร้องเสียงหลง
เมื่อชายหนุ่มพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เกินมาตรฐานของเขาเข้าไปในใจกลางความเป็นสาวที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมา
"อดทนนิดนึงนะ ทัพสัญญาว่าจะทำเบาเบา"
ร่างหนาเอ่ยบอกคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะจับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ของเขาถูไถไปกับกลีบกุหลาบงามที่พร้อมจะผลิบาน ซึ่งมันยังไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน
“อะ อื้ออ”
ใบหน้าสวยเหยเกขึ้นมาทันใด หลังจากที่ถูกเพื่อนชายดันท่อนเอ็นลำใหญ่ของเขาเข้ามาในตัวของเธอจนสุดลำ
เป็นสาเหตุทำให้เยื่อบางบางหรือที่เรียกว่าเยื่อพรหมจรรย์ของเธอนั้นขาดไป
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้กองทัพจะปรนเปรอจนลลิลเคลิ้มตามไปกับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ แต่มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เพราะขนาดของเขาทั้งยาวทั้งใหญ่ ใหญ่จนหญิงสาวแทบจะร้องขอชีวิต
"ทัพจะขยับแล้วนะ เดี๋ยวลิลจะชินกับมัน เชื่อทัพ!"
กองทัพบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะช่วงชิงริมฝีปากบางของคนที่อยู่ใต้ร่างด้วยริมฝีปากของเขา เพื่อให้เธอนั้นผ่อนคลายและหายเกร็ง
ปึก!! ปึก!! ปึก!!
"ของลิลโคตรแน่น อ่าห์!"
"อ๊ะ อื้อ ของทัพก็โคตรใหญ่เลย อ๊า!"
เมื่อชายหนุ่มเริ่มขยับร่างกายไปตามจังหวะความต้องการของตัวเอง เสียงกระเส่าก็ดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางที่นอนหอบหายใจถี่อยู่ใต้ร่างหนา
กองทัพจ้องมองใบหน้าเรียวสวยอย่างหลงไหล ก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ข้างกกหูอย่างแผ่วเบา
"แล้วชอบมั้ย?"
ลลิลที่ถูกถามซึ่งๆหน้า แทบอยากจะเบือนหน้าหนี เพราะเธอเองไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่เหมือนคนตรงหน้าที่ผ่านมาไม่รู้กี่สมรภูมิรบ
“อ๊ะ อื้อออ”
เสียงหวานใสร้องครางออกมาเป็นระยะๆ เมื่อถูกชายหนุ่มมอบสัมผัสวาบหวามนั้นมาให้ ยิ่งเขาขยับร่างกายของเขาถี่มากเท่าไหร่ ความเสียวซ่านที่วิ่งพล่านอยู่ในตัวของเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
“ตอดเก่ง อื้มมม”
กองทัพที่ถูกใจกลางความเป็นสาวของลลิลตอดรัดอยู่ตลอดเวลา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวคนตรงหน้าที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ปฏิเสธเขาไม่ยอมท่าเดียว
และยิ่งถูกภายในตอดรัดมากเท่าไหร่ ความเสียวซ่านในตัวกองทัพก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ร่างหนาพยายามอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ เพราะยังไม่อยากให้เสร็จไว เขาอยากจะร่วมรักกับหญิงสาวที่เขาหลงไหลให้นานเท่าที่จะนานได้
"อื้ม ลิลเรียกชื่อทัพหน่อย!"
กองทัพเอ่ยบอกร่างบางก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าลงไปที่ซอกคอขาวเนียนของเธอ ชายหนุ่มค่อยๆลากไล้ริมฝีปากลงมาดูดดุนที่ยอดปทุมถันสีชมพูสลับข้างกันไปมา จนทำให้หญิงสาวร้องครางกระเส่าออกมาอย่างไม่เป็นภาษา
“อื้อ กะ กอง ทัพ”
"ยังเจ็บอยู่มั้ย?"
กองทัพเอ่ยถามร่างบางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง แต่ยังมิวายขยับร่างกายส่วนล่างของเขากระแทกเข้าไปในตัวของเธอ จนลลิลร้องครางออกมา
"อ๊ะ! มะ ไม่ เท่าไหร่ แต่ลิลรู้สึก เสียว!"
ลลิลไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้เธอในตอนนี้ มันกำลังทำให้เธอแทบคลั่ง
ยิ่งตอนที่กองทัพกระแทกท่อนเอ็นของเขาเข้ามาแบบระรัวนั้น ยิ่งทำให้สติของเธอล่องลอยหายไป
"อา…..ทัพจะแตกแล้วนะ!"
กองทัพเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหลุดเสียงคำรามออกมา เขารับรู้ถึงน้ำที่เปรียบเสมือนลาวาในปล่องภูเขาไฟกำลังจะปะทุออกมาจากร่างกาย
“ลิลก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน อ๊ะ!! อื้อออ!”
เสียงหวานใสที่ร้องครางออกมาบวกกับร่างกายที่บิดเร่าด้วยแรงปรารถนา บ่งบอกได้ว่าเธอล่องลอยขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วเรียบร้อย
ปึก!! ปึก!! ปึก!!
กองทัพที่เห็นว่าลลิลนำหน้าเขาขึ้นสวรรค์ไปก่อนแล้ว ก็อัดกระแทกท่อนเอ็นอยู่ประมาณสองสามครั้ง ก่อนจะตามร่างบางไปติดติด ทำให้ลาวาที่พร้อมจะปะทุก่อนหน้านี้ ปะทุออกมาจากแท่งร้อนขนาดยักษ์ แล้วพุ่งกระฉุดเข้าไปในตัวของเธอ
ลมหายใจของทั้งสองที่หอบแฮร่กๆเมื่อก่อนหน้านี้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่เสพสุขกับร่างกายของกันและกันมาเนิ่นนาน
“เอาออกได้ยัง ลิลอึดอัด”
เนิ่นนานที่กองทัพแช่ท่อนเอ็นของเขาไว้ในใจกลางความเป็นสาวของลลิลจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด และเหมือนหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวจึงพยายามดันร่างหนาที่นอนทับบนร่างของเธอให้ออกไป
“ขอต่ออีกยกนึงได้มั้ย”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยตอบเขาไป กองทัพก็เริ่มขยับร่างกายส่วนล่างของตัวเองอย่างช้าช้า แล้วบทรักอันเร่าร้อนของทั้งสองก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง…….