ทำตามเสียงของหัวใจ

1810 Words
ตอนนี้พวกฉันก็นั่งดื่มกันมาได้ประมาณนึงแล้วนะ พอมองดูเวลานี่ก็พึ่งจะเที่ยงคืนกว่าๆ อีกอย่างเหล้าขวดที่สองก็ลงไปแค่ครึ่งขวดเอง แต่ว่าตอนนี้ฉันอุจาดลูกตาของฉันมากกว่า "ไอ้ผา ไอ้เซน พวกมึงคิดว่าตอนนี้พวกมึงกำลังถ่ายหนังสดกันอยู่เหรอวะ” ฉันที่ทนไม่ไหวจึงพูดออกไป ก็จะให้ทนยังไงไหวดูไอ้เพื่อนบ้าสองคนนี่สิ นัวเนียกับผู้หญิงพวกนั้นอยู่ได้ กอดจูบลูบคลำกันอยู่นั่นแหละ ไม่พอมันยังเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงของพวกนางอีก คือไม่สนใจพวกฉันที่นั่งอยู่ตรงหน้าของพวกมันเลยให้ตายเหอะ ถ้าจะทำขนาดนี้ทำไมไม่เอากันซะตรงนี้ไปเลยหละยะ “ทำไม มึงอยากดูมังกรของพวกกูรึไง?” ไม่ต้องสงสัยว่าไอ้บ้าคนไหนที่มันพ่นคำพูดพวกนี้ออกมา ก็ไอ้บ้าภูผานี่แหละ ที่มันรีบผละออกจากหน้าอกของผู้หญิงคนนั้นแล้วหันมาถามฉันพร้อมกับเลิกคิ้วแบบกวนประสาท ไอ้บ้านี่ “ให้ฉันดูของพวกแก ฉันขอเก็บเอาตาคู่สวยๆของฉันไปมองหาพ่อของลูกฉันดีกว่าเหอะ” ฉันกระแทกเสียงตอบมันออกไปก่อนจะส่ายหัวให้ไอ้เพื่อนบ้ากามทั้งสองคน พร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปากไปอึกใหญ่ และ….. “กูไปเข้าห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา” จู่ๆกองทัพก็พูดขึ้นพร้อมกับลุกออกไปเลย นี่ก็อีกคนตั้งแต่ที่ไปรับฉันก็ทำท่าทางหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา เป็นอะไรของเขานักหนาก็ไม่รู้ แล้วพอกองทัพลุกไปได้ไม่นานอัลฟ่ามันก็ลุกออกไปอีกคนโดยไม่วายหันมาพูดกับพวกฉัน "เห้ย พวกมึงเดี๋ยวกูมานะขอไปทักทายเพื่อนที่ชั้นล่างแป๊บนึง" พูดจบมันก็เดินออกไปทันที “อะไรวะ ไอ้ฟ่านี่พวกแกทิ้งฉันไปกันหมดเลยเหรอ” ฉันโวยวายออกมา ถึงแม้ว่าที่โต๊ะจะเหลือไอ้เซนกับไอ้ผาก็ตามเหอะแต่พวกมันสนใจฉันที่ไหนหละ เอาแต่ฟัดกับผู้หญิงอยู่ได้ เชอะ นั่งดื่มคนเดียวก็ได้วะ จากนั้นประมาณสิบนาทีกองทัพก็เดินกลับมาที่โต๊ะ แล้วก็ถามฉัน “ไอ้ฟ่าไปไหน?” “มันบอกว่าขอลงไปหาเพื่อนข้างล่างแป๊บนึงอะ” ฉันก็ตอบกองทัพไป ซึ่งเขาก็พยักหน้าเหมือนจะรับรู้แล้วก็จัดการเทเหล้าในขวดใส่แก้วของตัวเองก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปาก จนเวลาล่วงเลยผ่านไปไอ้เซนมันก็ถามว่าอัลฟ่ายังไม่มาอีกเหรอ ฉันก็ว่าทำไมมันไปนานจังนี่มันตีหนี่งครึ่งแล้วนะ ไปจะเป็นชั่วโมงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไรเสียงแจ้งเตือนไลน์กลุ่มที่ฉันเป็นคนตั้งเองกับมือดังขึ้นซะก่อน แต่พอกดเข้าไปดูก็พบว่าไอ้เซนเป็นคนส่งข้อความถามว่าไอ้ฟ่าอยู่ไหน เห็นแบบนั้นฉันก็เลยพิมพ์ต่อมันไป อยากรู้เหมือนกันว่ามันหายหัวไปไหนของมัน นางฟ้ากับซาตาน (ชื่อไลน์กลุ่ม) เซน : ไอ้ฟ่า มึงอยู่ไหนวะ???? ลลิล : เอ่อ หายหัวเลยนะมึง……… ลลิล : ไหนว่าไปคุยกับเพื่อนแค่แป็บเดียว ??? อัลฟ่า : กูอยู่คอนโดแล้วหวะ โทษทีนะกูลืมบอก อัลฟ่า : พอดีมีเรื่องนิดหน่อยเลยต้องรีบกลับ ภูผา : เรื่อง??? อัลฟ่า : ไม่เสือกดิครับ :P ภูผา : เมื่อกี้กูเห็นมึงหิ้วสาวออกไปจากผับไงครับไอ้สัส ^_^ กองทัพ : หึ ร้ายนะมึง เซน : ฮั่นแน่.....ไม่พ้นเรื่องบนเตียงอีกละสิมึง อัลฟ่า : กูไม่เหมือนมึงครับไอ้เซน วุ้ว กูจะนอนแล้วนะบาย อ่อที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ถึงว่าไอ้ฟ่ามันหายไปไหน แล้วไอ้ผามันเห็นได้ไง ฉันนั่งอ่านบทสนทนาในไลน์กลุ่มอย่างสงสัย แต่ก็ช่างเหอะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมันก็ดีแล้วแหละ ตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกจะมึนๆแล้วเหมือนกันนะ นี่เหล้าขวดที่สองก็หมดแล้วด้วยส่วนใหญ่ก็จะเป็นฉันกับกองทัพมากว่าที่ดื่ม แล้วก่อนที่จะมีใครได้พูดอะไร ไอ้เซนก็หันหน้าไปถามไอ้ผาซะก่อน “มึงเห็นไอ้ฟ่าหิ้วสาวกลับจริงเหรอวะ” “เปล่า กูแค่แซวมันไปเฉยๆ จะเห็นได้ไงกูก็นั่งอยู่กับมึงตรงนี้ โง่อีกละ” “สัส กูถามมึงดีๆป่ะ” “ขอโทษครับเพื่อนเซน” อย่าว่าแต่ฉันที่มักจะทะเลาะกับมันเลยนะ กับเพื่อนทุกคนมันก็ชอบกวนตีนใส่ แล้วพอไอ้ผามันพูดกับไอ้เซนจบมันก็หันหน้าไปหาเด็กของมัน เหมือนจะพูดอะไรกันซักอย่างแล้วก็หันหน้ากลับมาหาพวกฉัน ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา “พวกมึง เดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะ พอดีลูกชายกูพร้อมออกรบแล้ว” พอมันพูดจบมันก็ลุกออกจากโต๊ะเลยจร้า พร้อมกับโอบผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วย “เออๆ กูก็ว่าจะไปแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวน้องแอนนี่ของกูจะรอ” หึ ไอ้เซนมันคงจะยังไม่เห็นที่ฉันไปเม้นท์ใต้รูปของมันสินะ ก่อนที่มันจะหันไปพูดกับน้องผู้หญิงที่ถูกมันกอดรัดฟัดเหวี่ยงก่อนหน้านี้ “คืนนี้พี่มีนัดแล้ว ไว้เดี๋ยวเราค่อยไปต่อกันวันอื่นนะจ๊ะ” พูดจบมันก็รีบออกจากโต๊ะไปอีกคน ส่วนผู้หญิงคนที่มันฟัดอยู่เมื่อกี้ก็ทำหน้าเหมือนจะไม่พอใจ ก่อนจะลุกแล้วเดินลงไปที่ชั้นล่างทันที แล้วที่ตรงนี้ก็เหลือแค่ฉันกับกองทัพสองคน สองคนเท่านั้นจริงจริง “จะกลับเลยมั้ย?” กองทัพที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้น “อืม กลับเลยก็ดีเหมือนกันฉันก็เริ่มจะมึนๆแล้วด้วย นี่นายขับรถไหวป่ะ” ฉันพยักหน้าให้เขาไป ก่อนจะถามคำถามที่ไม่น่าถามนั้นออกมา “ไหว ถามทำไม จะมาขับแทนฉันเหรอ?” “เปล่า ฉันถามไปงั้นแหละ” พูดจบฉันก็หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงของตัวเอง แล้วเดินออกมาจากโต๊ะทันที แต่ก่อนที่ขาจะก้าวลงบันใดเสียงกองทัพก็ดังตามหลังมา “เดี๋ยว! ใส่เสื้อคลุมไปด้วย!” เขาเดินมาใกล้ฉันพร้อมกับกางเสื้อออกแล้วเอามาคลุมตัวให้ เอ่อนี่ฉันเกือบลืมเสื้อเขาแล้วนะเนี่ย ว่าแต่ทำไมต้องใกล้ขนาดนี้ด้วยนะ ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! ใจเต้นอีกละ แล้วก่อนที่กองทัพจะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆจากตัวของฉัน ฉันก็รีบพูดขึ้นมาซะก่อน “งั้นเราไปกันเหอะ” “เดินไปดิ!” กองทัพพูดพร้อมกับพยักพเยิดหน้าเป็นเชิงว่าให้ฉันเดินลงไปก่อน ไม่นานพวกเราสองคนก็พากันเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ชั้นวีไอพี ก่อนที่เขาจะเดินมาเปิดประตูรถให้ฉัน ว่าแต่วันนี้ทำไมเขาทำตัวแปลกๆนะ ทุกทีไม่เห็นเคยทำ แล้วก็ไอ้อาการหงุดหงิดพวกนั้นอีก หรือว่าฉันจะคิดมากไปเอง แต่ก็ช่างเหอะ หลังจากที่ฉันขึ้นรถเสร็จ ฉันก็อยู่ในสภาวะทิ้งตัวเลยจ้า พอเอาหัวพิงไปกับเบาะรถแค่นั้น เปลือกตาของฉันก็ค่อยๆปิดลงช้าๆ ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกมึนขนาดนี้นะ . . . สามสิบนาทีต่อมา “ลิล ถึงคอนโดแล้ว” ผมพยายามปลุกร่างบางที่ตอนนี้เอาแต่หลับอยู่บนรถของผมให้ตื่น เงียบ……. “ลลิล ตื่น” “งืมๆ นายทำฉันใจเต้นตลอดเลยยยยรู้ตัวป่ะ” ลลิลพูดออกมาในขณะที่เปลือกตายังคงปิดอยู่ นี่เธอละเมอเหรอวะ แต่ว่าใครทำเธอใจเต้นนะ “ลิล ลลิล ถ้าไม่ตื่นฉันจะอุ้มเธอขึ้นไปแล้วนะ” ผมเอ่ยบอกร่างบางไปอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมา แล้วมองหน้าผม “อื้ออออ ฉันง่วงงงงง อุ้มหน่อยขี้เกียจเดิน” แล้วไอ้ประโยคที่เธอพูดเมื่อกี้กับท่าทางที่เธอทำตอนนี้นั้น มันทำใจผมสั่นขึ้นมาเลยให้ตาย “นี่เมาเหรอ? ปกติไม่เห็นจะเมา” ผมพึมพำออกมาก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้คอนโดของเธอ เพราะถ้าผมต้องอุ้มเธอขึ้นไปจริงๆ ผมไม่สามารถจอดรถไว้ตรงหน้าคอนโดของเธอได้ เนื่องจากมันเป็นบริเวณที่ห้ามจอด นาน ผมอุ้มลลิลเดินตรงมาที่ลิฟต์ก่อนจะกดไปที่ชั้นยี่สิบห้า เป็นชั้นที่ลลิลพักอยู่ นี่กินข้าวบ้างหรือเปล่าวะทำไมตัวถึงได้เบาขนาดนี้ ผมก้มลงไปมองร่างบางที่ตอนนี้เปลือกตายังคงปิดสนิทอยู่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ผมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างหลงไหล จนกระทั่ง……. ติ้ง!! เสียงประตูลิฟต์เปิดออก ทำให้ผมต้องละสายตาจากใบหน้าเรียวสวยได้รูปของเธอ ก่อนจะสาวเท้าเดินตรงไปที่ประตูหน้าห้องแล้วปล่อยเธอลงโดยเอาตัวของลลิลยืนพิงกับฝาผนัง และควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าของเธอออกมา พอเปิดประตูได้ผมก็ประคองตัวร่างบางที่กึ่งหลับกึ่งตื่นเดินเข้าไปในห้องนอน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปปิดประตูหน้าห้องที่พึ่งเปิดเข้ามาเมื่อกี้ และ………… “อื้ออออ นี่นายจะกลับเลยเหรอ” เสียงใสเอ่ยถามผมในตอนที่ผมประคองตัวเธอให้นั่งลงไปบนเตียง “ทำไม ถ้าฉันบอกว่าจะนอนที่นี่เธอจะให้นอน?” ผมแกล้งถามเธอออกไป คือความจริงผมเคยมานอนค้างที่คอนโดเธอประมาณสองสามครั้งนะ แต่ผมจะนอนตรงโซฟาข้างนอกมากกว่า “ตามใจนายดิ อยากนอนก็นอน โซฟาข้างนอกมีไว้สำหรับนายอยู่แล้ว” เธอบอกผมพร้อมกับมองหน้า คือตอนนี้เธอลืมตาขึ้นมาพูดกับผมได้แล้วนะครับ “แล้วถ้าฉันจะนอนในห้องนี้ บนเตียงนี้ เธอจะว่าอะไร....” อุ๊ป!!!! และก่อนที่ผมจะพูดจบลลิลก็ดึงผมเข้าไปจูบทันที สงสัยคืนนี้ผมคงต้องทำตามหัวใจของตัวเองแล้วครับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD