“แม่งหลับเอาจริงเอาจัง ถ้ากูไปปลุกมันคงจะรู้สึกบาปน่าดู ตัวมันก็แค่นี้มันเอาแรงจากไหนมาหยุมหัวกูทุกวันวะ เตะแม่งดีมั้ง เฮ้ย ผีในห้องมึงอย่าห้ามกู ต่อยแม่งสักทีดิ๊”
ผมอาบน้ำสระผมจากนั้นก็มาเช็ดตัวแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาในห้องนอน พอเดินออกมาก็เห็นยัยตัวแสบหลับสนิทอยู่บนเตียงเลยพูดคนเดียวด้วยน้ำเสียงมั่นเขี้ยว จะไม่ให้มั่นเขี้ยวได้ไง ตอนไอ้ตัวแสบมันหลับก็ดูเป็นเด็กสามขวบ ดูเป็นเด็กหัดเดิน พอมันลืมตาขึ้นมาเหมือนนางยักษ์ประทับที่ร่าง พอเห็นว่ายัยนี่หลับลึกผมเลยใช้มือต่อยไปที่แขนเล็กๆ ของยัยตัวแสบเบาๆ แล้วก็หัวเราะออกมาแบบผู้ชนะ ซึ่งยัยนี่ก็ไม่ได้ตื่นหรอก
ปั่ก
“อื้อออ”
“ขนาดนี้แม่งยังไม่ตื่นอีก ไอ้ตัวขี้เกียจ”
Rrrr
พอมีคนโทรเข้ามาผมเลยรีบรับโทรศัพท์แทบจะทันที ไม่งั้นเดี๋ยวยัยนี่ตื่นตอนที่ยังนอนหลับไม่เต็มที่ก็งอแงอีก พอคุยกับคนส่งอาหารเสร็จผมก็ลงไปรับที่ล็อบบี้ของคอนโด คนนอกเข้ามาได้แค่นั้นแหละ มาติดต่อบอกเจ้าหน้าที่เพราะระบบความปลอดภัยค่อนข้างจะรัดกุมมากพอสมควร พอขึ้นมาถึงห้องผมก็ตรงมาเรียกยัยตัวแสบทันทีที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงทันที
“แยม แยม!”
“อือ”
“ลุกได้แล้ว ไปกินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จค่อยมานอน”
พรึ่บ!
อืม ฉันยังไม่ทันจะลืมตาอะไรเลย ไอ้นี่เขาดึงแขนทั้งสองข้างของฉันขึ้นมา แน่นอนว่าฉันหงุดหงิดมากนะ เพราะมันกำลังนอนหลับแบบสนิทมากๆ อะ
“โอ๊ยยยย”
“อย่าโวยวาย ปลุกให้ลุกไปกินข้าว ปกติเวลานี้ก็กินข้าวละ กินเสร็จก็ค่อยมานอน”
ผมดึงยัยนี่ลุกขึ้นมานั่ง ถ้าไม่ดึงให้มันลุกขึ้นมามันก็บิดไปบิดมาแล้วก็หลับไปอีกกว่าจะตื่นได้เป็นชั่วโมง แล้วตอนนี้มันก็เหมือนรำคาญที่โดนปลุกแหละ แต่ผมดูเวลาตอนนี้มันใกล้จะเที่ยงแล้ว ซึ่งปกติเวลานี้ผมก็จะไปรับยัยตัวแสบมากินข้าวด้วยกันประจำ บางคนบอกว่าเหมือนไม่ใช่เพื่อนกันเลยเนาะ อืม อะไรที่ผมทำให้ยัยตัวสั้นตรงหน้ามันเกินเพื่อนมาตลอดแหละ แต่สถานะมันหยุดแค่เพื่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ละ เพราะตอนนี้ผมเป็นผัวของยัยสลอธไปละ
“อือ”
ฉันพยักหน้าเพราะมันก็เริ่มหิวขึ้นมาจริงๆ เลยตัดสินใจลืมตาแล้วก็ลุกไปทำธุระส่วนตัวล้างหน้าซับหน้าจนเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินออกจากห้องนอนมาที่โซนครัวแล้วก็มีโต๊ะสำหรับทานข้าวอยู่ ซึ่งตอนนี้อาหารที่คนตัวสูงสั่งมามันเยอะไปหมด ฉันเลยขมวดคิ้วก่อนจะถามเขาที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้โดยที่มือก็แกะอาหารไปด้วย แล้วอาหารที่เขาสั่งมาส่วนมากก็มีแต่ของที่ฉันชอบ
“ทำไมสั่งมาเยอะจัง”
“มันไม่เยอะหรอก สั่งเผื่อตอนเย็นด้วย กินข้าวเสร็จก็กินยาแก้อักเสบแล้วก็เข้าไปนอนไอ้ที่เจ็บจะได้ดีขึ้น”
“อือ”
“แล้วไปเก็บของตอนไหน”
“ไม่เก็บ”
ผมถอนหายใจก่อนจะวางกล่องอาหารแล้วก็กอดอกพร้อมกับมองยังตัวแสบด้วยแววตาที่จริงจัง คือผมใจดีกับมันที่สุดของที่สุดนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบพูดอะไรที่มันซ้ำไปซ้ำมาทั้งๆ ที่พูดกันรู้เรื่องไปแล้ว อารมณ์ของผมในตอนนี้ก็เริ่มจะก่อตัวละ
“นายมองฉันแบบนี้หมายความว่าไร”
ฉันถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะหน้าตาเขาก็อารมณ์อยากจะหยุมหัวฉันนั่นแหละ แล้วมันมีอะไรที่น่าจะต้องโมโห
“ฉันว่าฉันพูดกับเธอจนรู้เรื่องแล้วนะว่าให้มาอยู่ด้วยกัน”
“ก็รู้แล้วไง อะไรของนาย”
“รู้เรื่องแล้ว แต่พอฉันบอกให้ไปเก็บของเธอบอกไม่เก็บมันหมายความว่าอะไร”
“ที่ทำท่าเหมือนจะหยุมหัวฉันคือเรื่องนี้”
“ก็เออสิ มันจะมีเรื่องอะไรวะ ก็คุยกันอยู่เรื่องนี้ปะ”
“เยอะไปละ อารมณ์ของนายอะ เยอะไปละ ที่ฉันบอกว่าไม่ไปเก็บเพราะฉันจะซื้อใหม่ทั้งหมด ฉันขี้เกียจไปเก็บ เก็บมาฉันก็ต้องซื้อเพิ่มฉันเลยจะซื้อใหม่ พรุ่งนี้ก็ไปใส่ชุดนักศึกษาที่คอนโดแล้วก็ไปมอหลังเลิกเรียนก็ไปซื้อของ ชัดยัง”
“เออ ถ้าแบบนี้ก็รู้เรื่อง ฉันคิดว่าต้องมาพายเรืออยู่ในอ่าง แล้วจะกินอะไร”
ผมเปลี่ยนน้ำเสียงกลับมาเป็นปกติ เพราะพอยัยนี่อธิบายให้ฟังอารมณ์ไม่พอใจในตอนแรกก็หายไปละ ตอนนี้ก็กลับมาสนใจอาหารที่สั่งมาตรงหน้า
“ก็กินทั้งหมดแหละ ฉันหิว”
“ฮึ ฉันเชื่อ”
“เออ พรุ่งนี้นายเลิกเที่ยงใช่ปะ”
“อืม เธอก็เลิกเที่ยงไม่ใช่หรือไง”
“ใช่ เฮ้อออ พรุ่งนี้ฉันไม่อยากไปเลยอะ”
“ถ้าไปไม่ไหวก็ไม่ต้องไป”
ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะพูดถึงเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะไปเรียนในวันนี้ให้เขาฟัง พอไอ้บ้านี่ได้ยินเขาก็เลยหัวเราะออกมาแบบชอบใจ
“ไม่ใช่ ร่างกายฉันมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นหรอก แต่พรุ่งนี้ไปเจอพวกไอ้ยูกิ พวกมันต้องล้อเราสองคนแบบที่มันชอบล้อแน่เลยอะ”
“ฮ่าๆ คู่รักฟันเหล็กอะเหรอ”
“เออดิ ตอนเป็นเพื่อนมันยังล้อขนาดนั้น อะไรนิดหน่อยมันก็หยิบขึ้นมาเป็นมีม แล้วตอนนี้เป็นผัวเมียกันจริงๆ มันต้องล้อไปยันจบแน่เลยอะ ให้ตายเถอะ พรุ่งนี้นายเลิกเรียนต้องรีบไปรับฉันเลยนะ ถ้าให้รอนานฉันจะไม่คุยกับแก”
“เอออ สั่งผัวเก่งจริงๆ กินราดหน้าใช่ไหม เอามา เดี๋ยวแกะให้”
“ขอบใจ หื้อ กุ้งเผาร้านเดิมปะ”
“อืม เป็นไง”
ผมพยักหน้าพร้อมกับถามยัยนี่กลับไป แล้วไม่ต้องรอฟังคำตอบหรอก เพราะสีหน้าท่าทางมันแสดงออกมาหมดว่ารู้สึกอะไร
“สู่ขิตเลยอะ น้ำจิ้มดี มันกุ้งเยิ้มสุด อะ นายลองชิม เป็นไง”
“อือ แต่ถ้าไปกินที่ร้านรู้สึกว่าจะอร่อยกว่า”
“ก็อันนั้นเผาเสร็จเขาก็เอาเสริฟ์เลยไง บอย”
ฉันนึกขึ้นได้เลยใช้เสียงสองเรียกคนตัวสูงขึ้นมาแทบจะทันที อยากให้มันถึงวันหยุดเร็วๆ จังเลยอะ
“พูดสิ่งที่ต้องการออกมาซะยัยสลอธ”
ผมเลื่อนถ้วยราดหน้าไปตรงหน้าร่างบางโดยที่คิ้วก็กระตุกขึ้นมาทันทีหลังได้ยินยัยตัวแสบใช้เสียงสองเรียกผมขึ้นมา แล้วยัยนี่ต้องอยากได้อะไรสักอย่างแน่ๆ ถ้ายัยตัวแสบเขาต้องการอยากจะได้อะไรเขาก็ใช้เสียงนี้แหละ เพราะรู้ว่าผมชอบแล้วขอผมได้ แต่ในเวลาปกติแม่งเสียงหนึ่งที่พร้อมจะหยุมหัวผมตลอดเวลา
“คิกๆ วันอังคารเราไม่มีเรียนเราไปเที่ยวงานฤดูหนาวที่ลพบุรีกันเถอะ ฉันอยากใส่ชุดไทยไปถ่ายรูปอะ นะๆ ลพบุรีเอง ใกล้กรุงเทพฯ ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง”
ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะทำหน้าตาแบบหน้าสงสารมากที่สุด คือหลายคนบอกว่าทำไมไม่ขับรถไปเองล่ะ คือฉันขับรถอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยมปลายคุณพ่อกับคุณแม่ไปคนไปรับไปส่ง ลูกมีกิจกรรมกลับบ้านเย็นแค่ไหนคุณพ่อกับคุณแม่ก็จะไปรับไม่เคยปล่อยให้รอหรือให้ไปค้างบ้านใครถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทมากๆ ก็ตาม คือฉันเป็นลูกคนเดียวไง ท่านเลยห่วงมาก โตมาประดุจเจ้าหญิงองค์น้อยของครอบครัว แล้วฉันเป็นเพื่อนกับไอ้บ้านี่มาตั้งแต่เด็ก พอนายนี่สอบใบขับขี่ ขับรถได้ แล้วขึ้นมหาวิทยาลัยคุณพ่อคุณของฉันก็ฝากฝังฉันกับเขา ก็เลยกลายเป็นคนตัวสูงที่ไปรับไปส่งทุกวัน ฉันก็เลยยังขับรถไม่เป็นจนถึงตอนนี้
“แฮ่ม อืม หยุดทำหน้าลูกหมาใส่ฉันได้ละ กินราดหน้าของเธอซะ เดี๋ยวเย็นก็จะกินไม่ได้ต้องเอาไปเวฟอีก”
ผมกระแอมออกมาเบาๆ หลังจากมองยัยตัวแสบนั่งอยู่ตรงข้ามแล้วก็ทำหน้าอ้อนระดับสิบ แล้วหน้าตามันน่ารักอยู่แล้วอะ พอทำมันก็ยิ่งน่ารัก ตอนเป็นเพื่อนก็ต้องสะกดจิตตัวเอง แต่ตอนนี้เป็นผัวเมียกันผมรู้สึกว่ายัยนี่พลังการทำลายล้างเริ่มเยอะมากขึ้นทุกวันละ ผมรู้สึกว่าหัวใจเริ่มทำงานหนักขึ้น ยัยสลอธนี่เป็นตัวอันตรายจริงๆ
“เค บอย”
“ว่า อย่าบอกนะว่าเธอจะขออะไรอีก”
“คิกๆ ไม่ใช่ ฉันจะถามว่านายร้อนเหรอ ทำไมหน้านาย หูแล้วก็คอของนายมันแดงขนาดนั้นอะ มันแดงไปทั้งหน้าเลยอะ หรือนายแพ้กุ้ง แต่ปกตินายก็ไม่แพ้นะ หรือว่า นายเขินฉันเหรอ”
“เออ เขินมาก เขินจนอยากจะเอาเธอขึ้นมาอีกละ รีบกินแล้วรีบไปทำการบ้านกับผัว”
“ไอ้ทะลึ่ง นายพักบ้างเถอะ ตื่นมาก็จะเอา กินข้าวก็จะเอา ฉันเป็นเมียนายนี่นายกะจะเอาฉันอย่างเดียวเลยหรือไง”
“อ้าว เป็นผัวเมียกันฉันไม่เอาเธอจะให้ฉันไปเอาใครวะ”
“นายไปรักษาเถอะ ฉันเป็นห่วงนายนะเว้ย”
“เดี๋ยวเตะให้ตูดแตก ฉันเป็นผัว ไม่ใช่คนไข้ ไม่ต้องทำหน้าสงสารผัวตัวเองก็ได้ปะ ยิ่งเห็นฉันรู้สึกเวทนาตัวเอง”
“ฮ่าๆ ไอ้เถื่อนเอ๊ย แกนี่มันเถื่อนจริงๆ”
ฉันหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังหลังได้ยินเขาพูดว่าไม่ต้องทำหน้าสงสารผัวตัวเอง แล้วมันคิดอยากจะพูดอะไรมันก็พูดอะ คือมันไม่ใช่ผู้ชายที่พูดเพราะจนเวอร์เหมือนคนอื่นเขาหรอก แต่เขาเป็นคนจริงใจมากแล้วก็เป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจอะ
“ฮึ เถื่อนแค่ไหนก็เมียเดียวเว้ย”
“เหรอออ ก่อนจะมีเมียได้ข่าวว่าเพิ่งจ้างเด็ก”
“เฮ้ยๆ หยุดเลยนะเว้ย อดีตคืออดีต ฉันทำก่อนที่จะมีเธอเป็นเมีย อย่าเอามาพูดให้เป็นปัญหาครอบครัวนะครับ”
ผมรีบเบรกทุกอย่างหลังจากได้ยินเสียงของยัยตัวแสบพูดมา แล้วก่อนหน้านั้นผมจ้างเด็กบ้างอะไรบ้างแต่ผมก็ไม่ได้ผิดนะ เพราะผมไม่มีใคร ที่สำคัญผมป้องกันอย่างดี กิจกรรมจบก็จบกันไม่มีกินซ้ำแล้วก็ไม่เคยมีปัญหา ซึ่งมนุษย์เมียเป็นอะไรที่บางอย่างก็ไม่อาจจะหาคำตอบได้นะ ไม่ใช่คุยเล่นๆ กันอยู่แล้วเปลี่ยนมาเป็นจริงจัง ผมเลยไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้น
“ไฟเผาตูดหรือไง ร้อนตัวแล้วหนึ่ง”
“ก็พูดไว้ก่อนปะ ไม่ใช่พูดไปพูดมาแล้วมางอลผัว อย่าเป็นแบบนั้นนะเว้ย”
“ไม่เป็นหรอก”
“ดีมาก”
“ถ้าเงินถึงอะนะ เคยได้ยินไหม เงินถึงมือเมียความโกรธก็กลายเป็นศูนย์อะ”
ฉันยักคิ้วส่งให้คนตัวสูงแบบกวนๆ เพราะฉันไม่ได้เป็นคนเอาอดีตที่ผ่านมาเก็บมาคิดอะ พูดไปก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ท่าทางของนายนี่เหมือนโดนไฟเผาตูดงั้นแหละ
“งั้นฉันก็คงเหลือแต่ตูดแหละ กวนตีนเมียทุกวินาทีขนาดนี้”
“ฮ่าๆ ดีมาก ที่รู้ตัว”
ฉันหัวเราะออกมาเสียงดังหลังจากได้ยินเขาตอบกลับมา แล้วใครจะโบ๊ะบ๊ะได้เท่านี้วะ หลังจากนั้นฉันก็คุยเล่นกันโดยที่ทานอาหารไปด้วย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จถ้าร่างกายไม่เจ็บจนเดินไม่ไหวก็ว่าจะไปซื้อของใช้ส่วนตัวหรืออาจจะออนไลน์เอา แล้วก็ไปเก็บชุดนักศึกษาแล้วก็ของบางอย่างที่คอนโด แต่เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ต้องประเมินสังขารของตัวเองก่อน