ดาหลากินข้าว ดูหนัง เดินเที่ยวห้างกับจินตภพเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป วันนี้เขาอยู่ในชุดกางเกงยีนส์ยี่ห้อ NUDIE เสื้อยืดแขนสั้นสีขาวยี่ห้อ off white รองเท้าผ้าใบVans Old Skull พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายข้างlouis Vuittonลายโมโนแกรมสีดำ ผมหยิกลอนของเขาปล่อยสบายๆพองฟูนิดๆแต่ยิ่งทำให้ใบหน้าเขาดูเรียวขึ้น แว่นสายตาที่เขาใส่มาเป็นทรงกลมคล้ายกับที่เขาใส่มาตอนแต่งงาน แต่ที่ไม่เหมือนคือเลนส์บางและมีสีชาอ่อน มันยิ่งทำให้เขาดูจมูกโด่งเป็นสันและมีเสน่ห์เหลือร้าย
แต่งตัวเก่งซะด้วยผัวชั้น อยู่ดีๆก็หล่อเฉย บ้าบอ
ดาหลาเหลือบตาขึ้นมองเขาบ่อยๆ นึกถึงบทสนทนากับอรินเมื่อเช้านี้
“อะไรนะมึง มึงว่าเค้าเหมือนใคร” อรินฟังไม่ถนัดจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เหมือนแจสเปอร์ในแวมไพร์ทไวไลท์เลยเว้ย!” ดาหลาพูดถึงตัวละครในหนังภาคต่อชื่อดัง
“เฮ้ย!..เป็นไปได้ไง! เมื่อวานยังเฉิ่มเบ๊อะกะโหลกกะลาอยู่เลย คืนเดียวเป็นแจสเปอร์ได้ไงวะมึง”
“เค้าจงใจแต่งตัวและเมคอัพหลอกกูอะ เค้าบอกว่าเค้าเล่นพนันกันกับเพื่อนแต่กูไม่เชื่อหรอก อาจจะมีส่วนก็ได้แต่กูว่าไม่ทั้งหมดหรอก เพราะเมื่อกี้เค้าลงมานั่งคุยกะกูแต่เค้าไม่ได้ใส่กางเกงในโว้ย! หำกระแทกตากูเต็มๆ! เค้าจงใจ กูดูออกเลยเพราะเค้าแกว่งให้ดูด้วยเว้ย!”
“กี๊ดดดดดด อะไรกันวะ! คืนเดียวทำไมมันกลับตาลปัตรแบบเน้! เค้าแกว่งให้มึงดูเลยเหรอวะ ทำไมอะมึง มึงกะเค้าตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่มีอะไรกัน สัญญงสัญญามึงก็ไปบังคับให้เค้าเซนต์มาเองนี่” เสียงอรินโคตรจะตื่นเต้นกว่าเพื่อนสาวอีก
“กูก็ไม่รู้ แต่กูรู้ว่าเค้าจงใจจะให้กูเห็นกระบองของเค้าแน่ๆแหละ”
“หูยย..มึง กระบองเลยเหรอวะ”
“เออ ระดับกระบองแหละเพราะขนาดไม่แข็งกูยังเห็นชัดเป็นลำเลย”
“หูยยยยย แล้วมึงทำไงเนี่ย เค้าจงใจอ่อยมึงเปล่าวะ”
“นั่นแหละที่กูสงสัย ก็ตกลงกันได้เซ็นต์สัญญากันแล้ว เค้าจะมาอ่อยกูเพื่อ?”
“เค้าชอบมึงละมั้งวะ” อรินเดาไปมั่วๆ
“ชอบกูได้ไงวะ ไม่เคยเจอกูเลยนะ”
“เออ..นั่นสิ อันนี้กูก็งง เออแล้ว...เค้าลอกคราบแล้วหล่อมั้ยวะ”
“หล่อสัส” วลีสั้นๆแต่ครบถ้วนได้ใจความที่สุด
ใช่! หล่อสัสเลยค่ะคุณ!.... ดาหลาเหลือบตามองอีกแล้ว
“หึหึ...ถ้าคุณชอบมองผมขนาดนั้นคุณมองตรงๆก็ได้ ทำไมต้องแอบมองด้วยล่ะ” จินตภพอมยิ้ม
โอยอิเหี้ย...อรินช่วยกูด้วย เค้าน่ารักชิบหายเลย!
“ฮื้อ...ดาเปล่าสักหน่อย แค่สงสัยว่าคุณเปลี่ยนเป็นใส่แว่นแทนคอนแทคเลนส์เท่านั้นเอง” ดาหลาไม่เคยเขินก็เขินได้ละเอ้า
“ฮะฮะ...โอเค ไม่ได้มองก็ไม่ได้มอง ทีแรกผมก็จะใส่แหละครับแต่คิดว่าพักตาบ้างดีกว่าเลยใส่แว่นแทน ไปเถอะ..หนังเข้าแล้ว” จินตภพคว้ามือเธอจูงเดินเข้าโรงหนัง
ดาหลากำลังจะนั่งลงตรงที่นั่งตามตั๋วหนัง จินตภพกลับดึงมือเธอไปนั่งอีกด้านนึง เธองงเล็กน้อยแต่พอหันไปมองก็เห็นว่าด้านที่เธอกำลังจะนั่งลงไปติดกับผู้ชายอีกคนนึง เขาจึงสลับให้เธอมานั่งอีกด้านซึ่งติดกันเป็นผู้หญิง
เธอหันไปมองเค้าอีกแล้ว เรื่องเล็กๆน้อยๆเค้าก็ดันน่ารักอีก ไม่ต้องมาน่ารักกับชั้นเลยนะ ชั้นตั้งใจไว้แล้วว่าระหว่างเราจะมะ...
“ปิดโทรศัพท์ด้วยครับ” พ่อแจสเปอร์กระซิบข้างหู
โอ๊ยเว้ยยย!!
หนังที่ฉายเป็นหนังสยองขวัญมีฉากตุ้งแช่หลายฉาก ดาหลาดูไปปิดปากกรี๊ดไปบางจังหวะก็เอามือปิดตามองผ่านร่องนิ้ว จินตภพปรายตามองแล้วอมยิ้มในความเป็นธรรมชาติของเธอ
“อ๊ายยย!!” ดาหลาร้องวี้ดตกใจฉากในหนังมือคว้าไปจับมือชายหนุ่มอัตโนมัติ รู้สึกตัวจะดึงมือออกเขากลับคว้าหมับจับไว้แน่น
จากที่ใจเต้นกับหนังหลอนๆ ตอนนี้เธอดันใจเต้นกับอุ้งมืออุ่นๆที่จับอยู่แทน
หนังจบแล้วโรงหนังเปิดไฟสว่างให้ลูกค้าเดินออกจากโรง แต่มือใหญ่ที่กุมมือเธออยู่ก็ยังไม่ได้ปล่อยออก เขาจูงมือเธอออกจากโรงเช่นเดียวกับหนุ่มสาวหลายๆคู่ราวกับเป็นแฟนกัน
“คุณอยากเดินเล่นต่อมั้ย หรืออยากจะช้อปปิ้งผมเป็นเจ้ามือเอง อยากได้อะไรผมซื้อให้”
อื้อหือ...สายเปย์ซะด้วย แค่จับมือชั้นก็ใจอ่อนแล้วนะ
แต่ดาหลาก็ตอบไปว่า.. “กลับบ้านดีกว่าค่ะ ดามีลูกค้าติดต่อมาว่าจะคุยบรีฟงานกันสักหน่อยค่ะ”
“ได้ครับ ปะ...งั้นกลับบ้านเรากัน” จินตภพยังจูงมือเธอเหมือนเดิม
...กลับบ้านเรากัน...
ประโยคธรรมดาๆแต่ดาหลากลับรู้สึกอบอุ่นใจ ตลอดเวลาเธอใช้ชีวิตอิสระถึงแม้จะมีบ้านแม่เธอให้อยู่สุขสบายแต่เธอกลับอยากใช้ชีวิตโสดให้คุ้มค่าจึงเลือกออกมาอยู่คอนโดคนเดียว กินคนเดียวนอนคนเดียวจนชินไม่เคยรู้เลยว่ามีคนชวนกลับบ้านมันมีความรู้สึกแบบนี้นี่เอง
ดาหลาใช้เวลาตลอดบ่ายแก่ๆจนถึงเกือบค่ำเพื่อคุยกับลูกค้า เธอดีลงานเรียบร้อยก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มหิว เธอปิดโน๊ตบุ๊ค จดโน้ตอีกนิดหน่อยบรีฟของลูกค้าก็เสร็จเรียบร้อย
“ลงไปหาอะไรกินดีกว่า ทำอะไรกินดีน๊า” ดาหลาทำอาหารเก่งทีเดียว เธอฝึกมาจากแม่ของเธอตั้งแต่ยังเด็กๆ แม่เป็นสาวชาวสวนใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้านธรรมดา ชอบทำอาหาร แปรรูปผลไม้ในสวนได้เก่งมากๆ เธอได้กินแต่ของอร่อยๆตั้งแต่เด็กจนโตเลยติดรสชาติแบบอาหารปรุงใหม่ๆร้อนๆ เธอจึงมักจะทำอาหารกินเองเสมอๆ
ดาหลาเปิดตู้เย็นเลือกสรรวัตถุดิบที่ครบครันยิ่งกว่าซุปเปอร์มาร์เก็ต เธอตัดสินใจเลือกทำเมนูสลัดเนื้อสันกับซุปหัวหอมและขนมปังฝรั่งเศสย่างกระเทียมเป็นมื้อเย็น
“เย็นแล้วกินเบาๆดีกว่าเนอะ เค้าจะชอบมั้ยนะ” ดาหลาจัดการวัตถุดิบไปพลางพูดกับตัวเอง
“ผมกินได้หมดครับ” เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหลัง
“อุ๊ย!...เดินมาเงียบๆตกใจเลยค่ะ” ดาหลาสะดุ้งเล็กน้อยหันขวับไปตามเสียง
เคร้งง!
เสียงกะละมังสแตนเลสใบย่อมในมือหญิงสาวตกลงพื้น ดาหลายืนค้างเติ่งมือยังทำท่าถือกะละมังอยู่ ภาพตรงหน้าคือจินตภพในชุดกางเกงบ็อกเซอร์บางๆตัวเดียวยืนยิ้มพิงตู้เย็นอยู่
“โอ้ว..ระวังนะครับ ดีที่ไม่ใช่มีดคุณจะบาดเจ็บได้นะ” เขาเดินเข้ามาหยิบกะละมังส่งให้เธอ
“..อะ..อ้อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ดาหลารับมาพยายามไม่เบนสายตาลงข้างล่าง เขาอยู่ใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมจางๆที่เขาฉีดไปเมื่อเช้านี้
“ปกติผมอยู่บ้านชอบใส่อะไรสบายๆแบบนี้ คุณไม่ว่าอะไรนะครับ”
“..อื้ม..ไม่มีปัญหาค่ะ คุณทำตัวตามสบายเหมือนเดิมได้เลยค่ะ” ดาหลาพยักหน้ายิ้มแย้มแต่แอบกลืนน้ำลายลำบากเลยทีเดียว
“ผมรอกินนะ”
“..อ่า..ค่ะ คุณไปนอนดูทีวีก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
เธอตั้งสติหันไปจัดการทำอาหารตามเมนูที่เลือกไว้จนเสร็จ ดาหลาจัดโต๊ะอาหารเรียบร้อยจึงเรียกชายหนุ่มที่นอนเอกเขนกดูทีวีอยู่ที่โซฟา
“ทานได้แล้วค่ะ”
“ครับผม”
“อื้ม!...อร่อยมากเลยครับ คุณทำอาหารเก่งจัง” จินตภพกินไปชมไปไม่หยุด เขารู้สึกว่ามันอร่อยแบบที่พูดจริงๆ เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองหิวก็ตอนนี้แหละ
“แม่เคี่ยวเข็ญแต่เด็กเลยค่ะ บ้านเราเป็นบ้านสวนใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้าน ในสวนมีทุกอย่างค่ะนอกจากเนื้อสัตว์แล้วแทบไม่ต้องซื้ออะไรเลย แม่เลยทำอาหารกินทุกมื้อ ดาเลยได้อานิสงส์โดนฝึกทำอาหารไปด้วยเลยค่ะ”
“ดีเลยครับ ผมชอบผู้หญิงทำกับข้าวเก่ง” ชายหนุ่มพูดไปตักอาหารไปทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“อะ..เอ่อ ดีค่ะดี ฮะฮะ..” ดาหลาหัวเราะแห้งๆ
จะยังไงนะตานี่!..มาพูดอะไรแบบนี้ทำไมเนี่ย! ชั้นคิดนะเว้ย!
“อ้า..อิ่มจัง ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆนะครับ” จินตภพทำท่ายกมือไหว้ขอบคุณแบบขำๆ “เดี๋ยวผมรับหน้าที่ล้างจานเอง”
“อุ๊ย!..ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดาล้างเองค่ะ วัตถุดิบคุณก็ซื้อมาแล้วยังจะให้ล้างจานอีกได้ยังไงละคะ”
“ผมซื้อมาให้คุณกินอยู่แล้วครับไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น คุณไม่กินผมก็กินอยู่ดี เรากินด้วยกันคือจบ คุณทำอาหารให้ ผมมีอาหารอร่อยๆกิน หน้าที่ล้างจานผมก็ถนัดครับคุณดาไม่ต้องห่วง” จินตภพรวบจานชามตรงหน้าเก็บซ้อนกันอย่างชำนาญ ดูออกว่าทำบ่อยๆถนัดถนี่แบบที่ว่า
“คุณไปชงกาแฟดีกว่าครับ ของผมใส่คาราเมลไซรัป 1 ช้อนชาครับ”
“อ่อ ได้ค่ะ” ดาหลากุลีกุจอไปที่เครื่องชงกาแฟ
เสียงเปิดน้ำล้างจานกับเสียงเครื่องชงกาแฟประสานกัน ไม่กี่นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย เสียงน้ำหยุดไปก่อนเพราะจานชามมีไม่กี่ใบ ดาหลาชงกาแฟเสร็จพอดี เธอกำลังยกแก้วกาแฟขึ้นชิมของตัวเองพลางหันมาจะยื่นแก้วของจินตภพให้
พรื่ดด!! ดาหลาสำลักกาแฟแทบพุ่ง!
โอ๊ยพ่อเอ๊ย!
กางเกงบ็อกเซอร์บางๆตัวนั้นของเขามันเปียกน้ำจนใสแจ๋ว อะไรๆมันพุ่งออกมาหมดแล้ว!
คราวนี้ดาหลาพยายามสั่งตัวเองให้เลื่อนสายตาขึ้นมายังไงลูกตาเจ้ากรรมก็ไม่ยอมขยับจากตรงนั้นสักที เธอยืนถือแก้วกาแฟนิ่ง
“ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ เปียกไปหมดเลย แย่จัง” จินตภพดึงแก้วกาแฟของตัวเองออกจากมือดาหลา ก่อนจะเดินไปยังทำท่าเขย่ากางเกงเปียกๆนั่นให้ดูอีก
ดาหลายืนแข็งเป็นหินเกือบนาทีกว่าจะได้สติ เธอคว้าโทรศัพท์ทันควัน
“มึง...กูว่าเค้าอ่อยกู”
“เฮ้ย จริงดิ! เค้าทำไงเหรอ” อรินคนเดิมทำเสียงตื่นเต้นอีกแล้ว
ดาหลาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
“มึงเห็นชัดมั้ยวะ” อรินกรี๊ดกร๊าด
“ชัดยิ่งกว่า3D”
“แล้วเค้าทำหน้ายังไง”
“เค้าทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดามาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าก็แค่เดินขึ้นห้องไปแค่นั้น”
“ต๊ายตาย ผัวมึงไม่ธรรมดานะเนี่ย กูก็ว่าเค้าน่าจะอ่อยมึงว่ะ”
“สัญญาในมือกูสั่นไปหมดละ ณ จุดนี้ แบบนี้มันหยามศิษย์เก่าวงการนัดเย็ดเลยนะ”
“มึงจะฟีเจอริ่งกะเค้าเหรอวะ”
“ไหนๆเค้าก็ได้ชื่อว่าเป็นผัวกูนี่ กูจะซั่มกะผัวมันผิดตรงไหน เค้าอ่อยกูตั้งกะเช้าละนะ กูไม่ยอมให้หลุดมือไปง่ายๆหรอก วัตถุดิบเค้าดีมากด้วยแต่จะแซ่บหรือไม่แซ่บต้องขอลองดูก่อน”
“มึงกลืนน้ำลายตัวเองนะนี่ ไหนอุตส่าห์ตะเกียกตะกายพิมพ์สัญญานั่นแล้วยังเอาไปให้เค้าเซ็นถึงที่อีก พยายามมากกกกที่จะไม่ซารางเฮโยกะเค้า แต่แค่คืนเดียวมึงก็ไม่ไหวแล้วเหรอ”
“เค้าหลอกกู แล้วเค้าก็ตั้งใจอ่อยกูด้วย กูฉีกสัญญาทิ้งแล้วเว้ย”
“แล้วถ้าเค้าไม่มีท่าทีว่าจะขึ้นสังเวียนกะมึงล่ะ มึงจะทำยังไง”
“มารยาหญิง 800 เล่มเกวียน กูต้องใช้ได้สักเกวียนนึงละวะ”
“เอาวะ สู้เค้าอิหญิง! ฮะฮะฮะฮะ!....” อรินหัวเราะงอหาย
หลังจากนี้ชั้นเอาจริงละนะ พ่อเด็กเนิร์ด! คุณน่ะ...ไม่รอดมือดาหลาคนนี้หรอก หึหึ!