ตอนที่ 1
นัยตาคมกริบแสดงถึงความโหดเหี้ยมอย่างเปิดเผยจ้องมองไปยังคนกล้าทรยศเขา มันตายแล้วถึงจะไม่ได้ทรมานมากแต่ก็เป็นการจบปัญหาที่ง่ายที่สุด
“บอสครับผมลางานหนึ่งอาทิตย์นะ” ครามบอกอย่างอารมณ์ดีเพราะงานใหญ่พึ่งจบไป
“เอาสิ แกจะไปไหนละเปิดโทรศัพท์ตลอดด้วยเผื่อมีเรื่องด่วน” โรมยิ้มพร้อมกับเช็ดเหงื่อที่ซึมออกมาเพราะอากาศร้อน เขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่ามือขวาคนสนิทจะลางานไปพักหลังจากทำงานหนักมาหลายปี
“ผมจะพาน้องสาวไปเที่ยวครับบอส ยัยข้าวเรียนจบมัธยมแล้วยังสอบติดที่อเมริกาอีก” ครามเล่าต่อพร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ ข้าวน้องสาวที่น่ารักไม่เคยทำให้ผิดหวังเสมอเลยไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม
“มีกันแค่สองคนเหรอ?”
“ครับบอส”
“ฉันส่งเรียนให้ดีไหมแล้วจบก็มาทำงานที่บริษัทฉันเลย ที่อเมริกาก็ดีนะ”
“ผมไม่อยากรบกวนบอสครับแต่เรื่องทำงานก็ดีครับ”
“เก็บไว้คิดเวลายังมีอีกเยอะ ไปกันเถอะเบื่อพวกเวรนี้แล้ว” คนทรยศสามคนตายด้วยการสาดกระสุนแบบไม่ยั้งมือแล้วไม่มีเวลาให้ร้องขอชีวิตด้วยในบ้านของพวกมันเอง
ปรกติแล้วเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรมากแต่อย่ามาหักหลังเด็ดขาดเพราะไม่มีทางปล่อยแน่นอน ตลอดเวลาหลายปีในวงการเจ้าพ่อมาเฟียมันทำให้รู้ได้ว่าพวกที่ไว้ใจได้จริงๆนั้นน้อยมากและเขามีถึงสามคน
ครามอายุยี่สิบห้าปีเขาเป็นคนส่งเสียตั้งแต่อยู่บ้านเด็กกำพร้าจนเรียนจบและรับมาทำงานด้วยให้เงินเดือนเหมาะสมกับความสามารถเสมอหลายครั้งที่เพิ่มโบนัสเพราะความขยันหมั่นเพียรในการทำงาน
อัลบ้าอายุยี่สิบเจ็ดปีเป็นเด็กกำพร้าชาวสเปนที่เขาชุบเลี้ยงเหมือนกันแต่รับมาอยู่ด้วยตั้งแต่เด็กๆแล้ว ครอบครัวเขาเป็นคนอุปการะจนเห็นบางอย่างในตัวถึงรับให้มาทำงานด้วยกันและทุกอย่างก็เป็นไปได้ดี
มาร์ตินคนที่เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนน้องชายและยังเป็นคนเดียวที่กล้าติเตือนเขาอย่างไม่เกรงกลัวใดๆเพราะคำว่าเพื่อนที่อยู่มาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนโตแม้ฐานะจะต่างกัน
ครามยิ้มกว้างมองไปยังพวกทรยศเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินตามบอสออกไปแต่หางตาเห็นมันหนึ่งคนขยับตัวจับปืนชี้มาที่บอสสัญชาตญาณสั่งให้เขาหยิบปืนยิงใช้ตัวบังบอสที่ยังไม่รู้ตัวให้ปลอดภัย
“บอสระวัง!!” ทันทีที่ยิงออกไปความเจ็บปวดก็เล่นงานไม่ต่างกัน
ปัง! ปัง!
“คราม!!” โรมหันกลับมารับร่างลูกน้องที่ถูกยิงแล้วยิงสวนไอ้คนที่ยังไม่ตายจนกระสุนหมด เลือดไหลออกมาจากท้องไม่หยุดเปื้อนเต็มมือเขาไปหมด
“แกต้องไม่เป็นไรนะคราม แกจะไปพักผ่อนไงอดทนไว้สิ” เขากดแผลห้ามเลือดที่ไหลออกมาอย่างหนักแต่ครามกลับมาจับมือเขาไว้มองด้วยรอยยิ้มในเวลาแบบนี้
“บอส…ผม…ฝากข้าวด้วย!” ครามบอกอย่างอ่อนแรงก่อนจะหลับตาทิ้งทุกอย่างไปพร้อมกลับลมหายใจ
“ไม่นะคราม…ไม่!!” ขอบตาร้อนผาวไปหมดก่อนที่หยดน้ำอุ่นจะไหลอาบแก้มเสียใจแต่ก็ทนไว้ เขารักครามเหมือนคนในครอบครัวและเอ็นดูมากแต่สุดท้ายก็ต้องมาจากไปเพื่อปกป้องตัวเขา
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลน้องสาวนายให้ดีที่สุด” คนที่ซื่อสัตย์ไม่ควรจะจากไปแบบนี้เลย เขาจะไม่ยอมให้มือขวาต้องตายฟรีๆแน่นอน เขาจะชุบเลี้ยงดูแลน้องสาวครามให้ดีที่สุด
งานศพผ่านไปจนถึงวันสุดท้ายบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าของแขกที่น้อยจนแทบจะไม่มีเลย โรมเดินเข้ามาหลังจากที่หายตัวไปสองวันเพื่อจัดการหลายอย่างให้เรียบร้อย
“ทุกอย่างเรียบร้อยครับบอส” มาร์ตินรายงานด้วยเสียงเรียบๆเพราะนี่คืองานศพของเพื่อนสนิท
“ครามันรักน้องสาวมากถ้าบอสดูแลมันคงจะดีใจ” อัลบ้าบอกเสียงเบามั่นใจว่ายังไงบอสต้องดูแลอยู่แล้วแต่จะเป็นแบบไหนอีกเรื่องหนึ่งนะ
“นั่นเหรอข้าวน้องสาวคราม?”
“ครับบอส นั่นน้องข้าว”
“บอสปลอบใจหน่อยดีไหมครับ”
“หนูข้าว…” ในจังหวะที่เขามองแม่หนูน้อยก็หันมามองจนเผลอสบตากันหัวใจก็สั่นแปลกๆเหมือนคุ้นเคยทั้งที่พึ่งเคยเจอ แรงดึงดูดบางอย่างทำให้เขาทำอะไรอย่างไม่รู้สึกตัวแต่เมื่อได้สติก็มายืนตรงหน้าสาวน้อยน่ารักคนนี้แล้ว
“นับจากนี้ไปฉันจะดูแลหนูเอง ฉันสัญญา”
หนึ่งปีผ่านไป…
ข้าวนั่งเล่นกับมาร์ตินและอัลบ้าเพราะช่วงนี้ปิดเทอมอยู่เธอเลยค่อนข้างว่างมากและคุณป๋าโรมก็อนุญาตให้อยู่คอนโดด้วย
เธอเรียกคุณโรมว่าป๋าโรมเพราะเขาซื้อทุกอย่างให้ใหม่หมดหลังจากพี่ชายเสียชีวิตไป เขาให้เงินเดือน เขาส่งเรียนมหาลัยดีๆแทนการไปอเมริกาเพราะมีปัญหาบางอย่างที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ
เขาเข้ามามีบทบาทในชีวิตเธอมากขึ้นแต่ไม่เคยล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวเลย วันนี้เธอฉลองสอบใบขับขี่ผ่านเลยมาหาพวกพี่ๆที่บ้านพักใกล้บ้านใหญ่
“เก่งจังเลยน้องข้าวแล้วนี่บอสซื้อรถให้เหรอสวยเชียว” มาร์ตินมองไปยังรถสีขาวมุกเงาวับที่ข้าวขับมาหาวันนี้
“ใช่ค่ะ ป๋าซื้อให้สักพักแล้วแต่หนูพึ่งได้ใบขับขี่มาเอง” รถเธอไม่ได้แพงเหมือนป๋าโรมเลยนะแต่ก็สวยมากแถมขับสบายที่สุดเลย
“บอสเอ็นดูน้องข้าวมากนะแล้วนี่จะไปไหนรึเปล่าค่ำแล้วนะ” อัลบ้าถามบ้างเพราะว่าปรกติถ้าค่ำแบบนี้น้องข้าวมักจะขอนอนที่นี่แทนการกลับไปคอนโดแต่ตอนนั้นยังไม่มีรถนะ
“ดื่มขนาดนี้จะไปไหนได้ละคะ ข้าวขอนอนด้วยนะ”
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปบอกแม่บ้านให้จัดห้องนอนรอนะ” อัลบ้าดื่มเหล้าอีกครั้งให้หมดแก้วก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเพื่อบอกแม่บ้าน
ความจริงมันก็เป็นความรู้สึกแปลกๆมาสักพักใหญ่แล้วที่บอสทุ่มเทเพื่อน้องข้าวขนาดนี้ ความจริงอาจจะรู้สึกผิดที่ครามตายไปแต่ทุกอย่างที่ให้มันดูจะมากเกินไปนะ
คอนโดหรูราคาสามสิบกว่าล้าน บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินและล่าสุดก็รถเบนซ์ราคาห้าล้านกว่าที่สำคัญถ้าน้องข้าวจะค้างคืนก็ต้องนอนที่บ้านบอสเท่านั้นไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
“หนูข้าวมาเหรออัลบ้า?” โรมยืนกอดอกมองผ่านหน้าต่างถามออกไปโดยที่ไม่มองลูกน้องสักนิด
“ครับบอส น้องข้าวดื่มด้วยเลยขอนอนที่นี่บอสคง…” อัลบ้ายังพูดไม่จบก็ได้รับคำสั่งมาแล้ว
“ให้นอนห้องติดกับฉันเหมือนเดิม” เขาไม่ต้องการให้ข้าวอยู่ใกล้ใครทั้งนั้นแหละ เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มาเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรแต่พอรู้สึกตัวมันอีกทีมันก็มากขึ้นจนแทบหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว
“ครับบอส ป่านน้องโดนไอ้มาร์ตินมอมแล้วมั้ง!” อัลบ้าพูดติดตลกแต่มันเรื่องจริง
เขารู้ว่าลูกน้องสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแบบนี้ เขาให้ข้าวเรียกตามใจชอบและซื้อทุกอย่างเพื่อความสบายให้กับเธอ แล้วผู้ชายที่ตามมาติดพันล้วนต้องเจ็บตัวแบบที่ข้าวไม่เคยรู้มาก่อนสักครั้ง
เขาทำทุกอย่างเพื่อป้องกันคนแย่งเธอไป
ข้าวเอียงตัวซบไหล่พี่มาร์ตินนัยตาเยิ้มไปด้วยความเมา เธอร้องเพลงเบาๆตามที่พี่มาร์ตินเล่นกีต้าร์แต่กลับรู้สึกว่าแทบจะลืมตาไม่ขึ้นอยู่รอมร่อ
“น้องข้าวพี่พาไปนอนดีกว่านะ” มาร์ตินเห็นท่าจะไม่ดีจากผู้ชายใบหน้าบึ้งตึงที่เดินตรงมาอย่างรวดเร็วมาก
“บอสมาวะมึง กูว่า…” ยังพูดไม่ทันจบบอสก็มาหยุดยืนตรงหน้ามองพวกเขาอย่างคาดโทษ บอดี้การ์ดหน้าตาดีเลยทำได้แค่ส่งยิ้มแหย่ๆไปให้เท่านั้น
บอสจะเล่นงานกูไหมเนี่ย!
“ทำไมไม่ห้ามปล่อยให้กินขนาดนี้ได้ไงวะ?” เมาแล้วนั่งยิ้มให้แบบนี้ก็ได้เลยยัยหนูข้าว เขาจะอุ้มไปแต่ว่าเธอกลับจับมือแล้วลุกขึ้นมาหาซะงั้น
“ป๋าโรมของหนูมาแล้ว…คิดถึงจังเลยไม่ตั้ง…หนึ่งอาทิตย์แหนะ” เธอยิ้มออกมาพยายามพูดให้รู้เรื่องทั้งที่ทุกอย่างมันหมุนไปหมดเลย เธอนึกอะไรบางอะไรบางอย่างออกแล้วหยิบออกมาให้เขาดู
“หนูสอบใบขับขี่ได้แล้วนะ หนูเก่งไหมคะป๋าโรม?”
“เก่งมากแต่ตอนนี้หนูต้องไปนอนได้แล้ว” ยัยเด็กขี้อวดแค่ใบขับขี่เองนะ เขาจัดการอุ้มเธอแล้วเดินไปไม่ลืมจะหยิบกระเป๋าเธอไปด้วยเลย
“มึงว่าไงวะมาร์ติน กูว่าท่าจะไม่ดีนะ” อัลบ้าถอนหายใจเล็กน้อยเพราะบอสแทบไม่เคยมีความรักเลยแต่ว่าครั้งนี้มันเริ่มยังไงไม่มีใครรู้เลยแม้แต่น้องข้าวก็คงไม่รู้เหมือนกัน
“แต่บอสหวงนะพี่อัลบ้า วันก่อนบอสไปเฝ้าที่ร้านอาหารที่น้องข้าวนัดกับเพื่อนไปกิน”
“หลังจากนี้ท่าจะสนุกวะ เตรียมยาแก้ประสาทรอได้เลย”
“แล้วน้องข้าวละ?”
“ไม่รู้วะ แต่กูว่าน้องข้าวน่าจะยังไม่รู้อะไรหรอกบอสเก็บเงียบขนาดนี้” น้องข้าวบอกไม่เจอหนึ่งอาทิตย์ก็จริงนะแต่ว่าบอสน่ะเจอน้องข้าวเกือบทุกวันเลย
พวกเขาไม่อยากจะพูดอะไรมากแต่ว่าทุกเรื่องในชีวิตน้องข้าวมีบอสอยู่เบื้องหลังตลอด ผู้ชายทุกคนที่ตามมาจีบก็ถูกกระทืบไม่เลี้ยงฟื้นอีกทีโรงพยาบาลนู้นเลย บอสหวงน้องข้าวชนิดที่พวกเขายังถูกมองแรงบ่อยๆแถมยังถูกใช้งานหนักข้อหาดึงความสนใจน้องข้าวอีกนะ
บอสแม่งโครตเก็บอาการแต่มารอดูว่าจะทนได้อีกนานขนาดไหน โคแก่จะยอมมองหญ้าอ่อนเฉยๆเหรอคงไม่มีทาง!