ตอนที่ 9 แค่เอ็นดูนางเหมือนน้องสาวก็เท่านั้น

1109 Words
“เอ่อ เป็นเช่นนั่น ข้าลืมไปแล้วจริงๆ ว่าข้ามีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว ขอบใจท่านมากที่ช่วยเตือนสติข้า" พร้อมกับส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนไปให้ เหมยฮวาจ้องตาเขาไม่ยอมถอยเช่นกัน “นี่เจ้า" องค์ชายเก้าลี่เฟิงหง ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินถ้อยคำของนาง “เอ เผอิญว่าข้าความจำสั้นยิ่งนัก ท่านมีนามว่าอันไหนนะเจ้าคะ" ในเมื่อเขาก็ไม่ได้ประกาศตนเองตั้งแต่แรกว่าเขาคือองค์ชาย เพราะฉะนั้น นางจึงไม่จำเป็นที่นางจะต้องพูดคําราชาศัพท์ หรือเปิดเผยตัวตนของเขาให้กับผู้อื่นได้รับทราบ "เจ้าไปคุยกับข้าให้มันรู้เรื่อง" พูดเสร็จองค์ชายเก้าลี่เฟิงหงก็ไม่รอให้เหมยฮวาได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาจับข้อมือของนางไว้ และลากนางขึ้นไปที่ชั้นบนของโรงเตี๊ยมในทันที “ข้าเดินเองได้เจ้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องจับข้อมือของข้าก็ได้" พร้อมใช้สายตาบีบบังคับเขาให้ปล่อยมือของเธอ ‘เฮ้ยนี่มันอะไรคะ ถ้าจะจับแรงขนาดนี้ ไม่บีบข้อมือฉันให้หักไปเลยคะ ไม่รู้เหรอผู้หญิงเขามีไว้ให้ทะนุถนอมค่ะ ไม่ใช่จะลากถูกันแรงขนาดนี้ ฮึ้ย หมดกันแฟนคลับฉ๊าน ดูสิตาโตอ้าปากค้างกันหมดแล้ว' ถังคุนหลันได้แต่มอง เหมยฮวาถูกลากขึ้นชั้นบนของโรงเตี้ยมไปอย่างทำอะไรไม่ถูก “เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะคู่หมายของนาง อย่างนั้นหรือ นี่นางมีคู่หมายแล้วเช่นนั้นหรือ" ยังไม่ทันที่จะได้ปลูกต้นรักก็ต้องอกหักเสียแล้ว เมื่อขึ้นมาชั้นบนของโรงเตี๊ยม เขาก็ลากนางเข้าไปในห้องส่วนตัว และให้องครักษ์เฝ้าอยู่ที่หน้าประตู โดยไม่ให้สาวใช้ของนางตามเข้าไปด้วย “หม่อมฉันคิดว่า บุรุษและสตรีอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพังนั้น หม่อมฉันเห็นว่าดูจะไม่เหมาะสม หม่อมฉันขอประทานอนุญาตให้พระองค์นำสาวใช้ของหม่อมฉันเข้ามาด้านในด้วยเพคะ" “เปิ่นหวาง เห็นว่าไม่จำเป็น ถึงอย่างไร เจ้าก็คือคู่หมั้นของเปิ่นหวางจะอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองต่อสองในห้อง จะเป็นเรื่องอันใดได้เล่า อีกไม่นาน เจ้าก็ต้องแต่งให้เปิ่นหวางอยู่แล้ว เรื่องเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่มิสมควรไม่" “แต่หม่อมฉันไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยเพคะ ถึงอย่างไรตอนนี้หม่อมฉันก็เป็นเพียงคู่หมั้นคู่หมายของพระองค์ ยังมิได้ตกแต่งให้พระองค์แต่อย่างใด ถ้ามีคนเอาไปนินทาในทางที่ไม่ดี ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของหม่อมฉันเท่านั้นที่จะเสียหาย แต่ยังทำให้เสื่อมเสียไปถึงวงศ์ตระกูลของหม่อมฉันอีกด้วย หม่อมฉันจึงเห็นควรขอให้พระองค์ทรงพิจารณาใหม่อีกครั้งด้วยเถอะเพคะ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน พระองค์เคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่ บางทีแค่เพียงหมั้นหมายอาจจะมีสักวันที่หม่อมฉันและพระองค์มีเหตุจำเป็นที่จะต้องถอนหมั้นกันก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องเหล่านี้เอาไว้ก่อนดีกว่า" เหมยฮวาได้แต่จ้องตาเขานิ่งเพื่อค้นหาคำตอบ นี่เขาคิดจะทำอะไรของเขากันแน่ “เมื่อได้พบหน้าพระองค์ในวันนี้ก็ดีเหมือนกัน หม่อมฉันจะได้ถือโอกาส ที่จะได้พูดในสิ่งที่ค้างคาใจของหม่อมฉันเสียที หม่อมฉันขอไม่อ้อมค้อม ในเมื่อพระองค์กับน้องสาวของหม่อมฉัน เยี่ยไป๋หลันพึงใจต่อกัน หม่อมฉันก็จะขอหลีกทางให้กับพระองค์และน้องสาวของหม่อมฉันได้สมหวังกัน พระองค์เห็นเป็นเช่นใดเพคะ" เหมยฮวาจ้องหน้าเขานิ่ง ถ้อยคำทุกถ้อยคำที่นางพูดออกไปนั้น ล้วนแล้วแต่เสียงดังฉะฉานแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในสิ่งที่นางนั้นได้กล่าวออกไป 'จากสายตาแล้วเนตรบอกเลยค่ะแม่ว่ามันไม่ยอมถอนหมั้นแน่ เนตรมองคนไม่เคยพลาดจากการเรียนจิตวิทยามา ซึ่งมันบรรจุอยู่ในหลักสูตรของพยาบาลศาสตร์ ชัวร์ค่ะมันจะเอาทั้งพี่ทั้งน้อง ไอ้สัตว์เอ๋ย แตะผ่าหมากมันเลยได้ไหมแม่' “เจ้าเอาเรื่องเหลวไหลอันใดมาพูดกัน เปิ่นหวางมิได้พึงใจต่อน้องสาวของเจ้าแม้แต่น้อย เปิ่นหวางแค่รู้สึกเอ็นดูนางเหมือนน้องสาวเพียงเท่านั้น" ‘อะไรนะท่านพูดใหม่สิ รักเหมือนน้องสาว แล้วพี่กับน้องเขารักกันแล้วจำเป็นต้องเอากันไหมคะ แถ ค่ะ นี่เขาเรียกแถ หน้าด้านๆ เลย หนังหนาทำมาจากคอนกรีตเสริมใยเหล็กมาเหรอคะ จะหน้าหนาเกินไปแล้ว แต่เอ๊ะ ถ้าหนูเยี่ยไป๋หลันมาได้ยินประโยคนี้เข้ามันจะเป็นยังไงนะ ฮ่า ฮ่า มีเรื่องสนุกให้ทำแล้วสิ' เมื่อคิดได้ดังนั้นเหมยฮวาจึงเปลี่ยนคำพูดและกริยาของตนเองใหม่ เพื่อที่จะวางกับดักให้ปลาตัวใหญ่มาติดเบ็ดของเธอ "เป็นเช่นนั้นหรือเพคะ" พร้อมทั้งส่งสายตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าให้ดูน่าสงสารสุดๆ ไปให้เขา “แต่... แต่เท่าที่หม่อมฉันทราบมันไม่ได้เป็นเยี่ยงนั้นเลยนี่เพคะ ถ้าพระองค์พึงใจต่อน้องไป๋หลันจริง หม่อมฉันก็พร้อมที่จะหลีกทางให้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องโกหกหม่อมฉันเพื่อให้หม่อมฉันสบายใจเลย และอีกอย่างตอนนี้น้องรองยัง... หม่อมฉันจะพูดมันออกไปได้อย่างไรเพคะ หม่อมฉันไม่อยากเป็นผู้ไปทำลายครอบครัวของผู้ใดเพคะ” ในขณะที่พูดไปนั้นเหมยฮวาก็พยายามแกะมือที่เขาจับข้อมือของนางไว้ออก พร้อมกับทำหน้าตาเศร้าสร้อยเสียใจปานจะขาดใจ เมื่อองค์ชายเก้าลี่เฟิงหง ได้เห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้าก็ทำให้ใจของเขาอ่อนยวบเจ็บปวดตามนางไปด้วย เขาเลื่อนมือของตนจากที่จับข้อมือนางอยู่นั้น มาจับมือนางและกระชับให้แน่นขึ้น มองใบหน้าหวานที่มีหยาดน้ำตาคลอเบ้าอยู่นั้นอย่างเจ็บปวด เขาก็ไม่รู้ว่าเหตุใดในตอนแรกเขาถึงได้โกหกนางเรื่องน้องสาวของนางเช่นกัน เพียงแค่เขาได้ยินว่านางจะถอนหมั้นกับเขา เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถยอมรับได้ เขาต้องการนาง มันคือความปรารถนาอย่างรุนแรงที่เขาไม่เคยรู้สึกกับสตรีใดมาก่อนแม้แต่กับเยี่ยไป๋หลันที่เป็นคนรักของเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD