"ตัวข้านั้นมีนามว่า เยี่ยเหมยฮวา เป็นบุตรีของท่านแม่ทัพใหญ่เยี่ยอู๋ซวน เจ้าค่ะ" พร้อมกับส่งยิ้มหวานละลายใจบุรุษไปให้
ถังคุณหลัน ถึงกับมองรอยยิ้มนั้นอย่างโง่งม
“เอ่อ คุณชายถังท่านจะจ้องหน้าข้าอีกนานหรือไม่เจ้าคะ "
พร้อมกับทำหน้าเขินอาย ดั่งหญิงสาววัยแรกแย้มก็มิปาน ท่าทางเยี่ยงนี้ยิ่งทำให้น่ามองเป็นยิ่งนัก ถังคุณหลันมิสามารถละสายตาออกจากนางได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาไม่คาดคิดเลยว่าในเมืองหลวงนั้นจะมีสตรีที่งดงาม ดั่งบุปผาวัยแรกแย้ม ถูกซ่อนเร้นเอาไว้ได้จากสายตาของเขา ไม่ใช่แค่เพียงถังคุณหลันเท่านั้นที่เหม่อมองใบหน้างามนั้น แต่ยังมีบุรุษในโรงเตี๊ยมเหล่านี้ที่กำลังจ้องมองคุณหนูเหมยฮวาด้วยสายตาตกตะลึง ไม่ว่านางจะทำกิริยาเช่นใดก็ล้วนตกอยู่ในสายตาของพวกเขาทั้งสิ้น ทุกกิริยาที่นางทำนั้นช่างน่ามองยิ่งนัก ทำให้พวกเขาไม่สามารถละสายตาออกจากนางได้ และเมื่อยิ่งได้ทราบว่านางเป็นผู้ใดแล้ว พวกเขาต่างก็คิดว่า ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป พวกเขาจะต้องรีบเร่งให้แม่สื่อเข้าไปสู่ขอหญิงสาวนางนี้มาเป็นของตนให้จงได้ ทุกคนล้วนแล้วแต่อิจฉา คุณชายถังคุณหลัน ที่กล้าเข้าไปพูดคุยกับนางและสามารถได้ใกล้ชิดนางมากกว่าผู้ใด
และในชั้นสองของโรงเตี๊ยมตอนนี้ ก็ได้มีสายตาของบุรุษผู้นึง กำลังจ้องมองมาที่นางอย่างดุดัน เขาขบกรามแน่น ข่มโทสะที่กำลังจะระเบิดขึ้นในตอนนี้ ตั้งแต่ที่นางก้าวเข้ามาในโรงเตี๊ยมนี้นั้น เขาก็ใคร่อยากรู้ยิ่งนักว่านางเป็นผู้ใด กิริยาอ่อนช้อยงดงามใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มนั้นทำให้เขาเหมือนต้องมนต์สะกด เขาไม่สามารถละสายตาออกไปจากนางได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ยิ่งเมื่อเห็นว่ามีบุรุษเข้าไปพูดคุยกับนาง ยิ่งทำให้จิตใจของเขานั้นเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองมากขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อได้ทราบว่านางเป็นผู้ใดแล้ว เขาก็ยิ่งต้องบันดาลโทสะมากขึ้นไปอีก จนแทบจะระเบิดออกมา จนไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้อีกต่อไป เยี่ยเหมยฮวา เขาได้แต่เอ่ยชื่อของนางในใจ และเกิดความสงสัยเป็นยิ่งนัก สิ่งที่เขาได้รู้มากับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน เยี่ยไป๋หลัน น้องสาวของนาง หรือก็คือคนรักของเขาในตอนนี้ ได้บอกแก่เขาว่า นางเป็นสตรีที่อัปลักษณ์และมีใจคอโหดเหี้ยมชอบทำร้ายทุบตีบ่าวไพร่ ขี้อิจฉาริษยาใบหน้าของนางนั้น มีแผลเป็นลึกที่ไม่สามารถเปิดเผยให้กับผู้ใดให้ได้เห็นได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนางถึงไม่เคยออกไปนอกจวนให้ผู้ใดได้เห็นโฉมหน้าของนางเลย และเขาก็ได้เชื่อเช่นนั้นมาโดยตลอด เขาจึงไม่พอใจยิ่งนัก กับการหมั้นหมายในครั้งนี้
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุรุษเขาก็ต้องชมชอบกับสิ่งที่สวยงามเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อทราบว่าคู่หมายของตนเองนั้นเป็นหญิงสาวที่อัปลักษณ์และเป็นคนที่มีจิตใจเหี้ยมโหด เขาจึงพยายามคัดค้านทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ถอนหมั้นกับนาง และหมั้นหมายกับเยี่ยไป๋หลัน ซึ่งเป็นน้องสาวของนางแทน แต่สิ่งที่ทำให้เขาได้รู้ในวันนี้คือทุกสิ่งที่เขารู้มาทั้งหมดนั้น มันไม่เป็นความจริง
ไฉนเลยนางจะมีจิตใจคอเหี้ยมโหดได้ สิ่งที่นางคุยกับสาวใช้ตอนบังคับให้สาวใช้ร่วมโต๊ะด้วยกับตนเองนั้นเขาได้ยินอย่างชัดเจน จะมีเจ้านายผู้ใดที่อนุญาตให้บ่าวรับใช้นั่งโต๊ะเดียวกันกับตนเองเวลารับประทานอาหาร นั่นก็สามารถทำให้เขาทราบได้แล้วว่าจิตใจของนางนั้นเป็นเช่นใด แถมใบหน้าของนางยังไม่ได้อัปลักษณ์แต่อย่างใด นางยังมีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพเซียนมาจุติก็ไม่ปาน ยิ่งรอยยิ้มที่นางมอบให้กับบุรุษอื่นนั้น ทำให้เขาขุ่นเคืองใจยิ่งนัก เขาจะต้องทำให้นางรู้เสียแล้วว่า นางไม่ควรยิ้มให้กับบุรุษใดนอกจากเขาผู้ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่า เป็นคู่หมายของนางนั่นเอง
ในขณะที่เหมยฮวากำลังรับประทานอาหารกับสาวใช้อย่างเอร็ดอร่อย โดยมีคุณชายถังนั่งร่วมโต๊ะพูดคุยด้วยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น ก็มีบุรุษเข้ามาเชิญนางให้ไปพบยังชั้นสองของโรงเตี้ยม
"เรียนคุณหนูเหมยฮวา เจ้านายของข้าต้องการที่จะเชิญท่าน ขึ้นไปสนทนากันสักเล็กน้อย คุณหนูได้โปรดตามพวกเรามาด้วย"
เหมยฮวาได้แต่จ้องมองไปยังผู้ที่มาใหม่อย่างไม่เข้าใจ นี่มันเป็นประโยคคำสั่งหรือ ประโยคบอกเล่ากันนะ หรือเธอจะเข้าใจ อะไรผิดไป เธอไม่เคยรู้จักกับบุรุษตรงหน้ามาก่อน แล้วทำไมเขาถึงจะต้อง มาเชิญนางให้ไปพูดคุยกับเขาด้วย หรือว่าเจ้านายที่พวกเขาพูดถึงนั้นรู้จักกับเหมยฮวาซึ่งเป็นเจ้าของร่างนี้กัน
“พี่ชายข้าขอโทษด้วย ข้ารู้จักกับเจ้านายของพวกท่านหรือไม่ ท่านพอจะเอ่ยนามเจ้านายของพวกท่านให้ข้าทราบได้หรือไม่ ว่าเขาเป็นผู้ใดกัน ถ้าเป็นบุคคลที่ข้าพอจะรู้จัก ข้ายังจะสามารถพูดคุยกับเขาได้ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่ข้าไม่รู้จักแล้วไซร้ เหตุใดข้าจะต้องตามพวกท่านไปด้วย"
เหมยฮวาพูดออกไปอย่างฉะฉานชัดเจนทุกถ้อยคำ
'มีผู้ชายอยากคุยด้วย แล้วฉันต้องไปไหมคะแม่จะบ้าหรอ อยากคุยกับคนอื่นแต่ไม่ยอมลงมาคุยกับเขา บ้าบอคอแตก ผู้ชายสมัยนี้นี้นี่มันยังไงกัน'
“ขอโทษด้วยแม่นางข้าไม่สามารถที่จะเอ่ยนามเจ้านายของข้าให้แม่นางทราบได้"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่มีความจำเป็นอันใด ที่จะต้องไปพบกับคนที่ข้าไม่รู้จัก และข้าก็ยังมีเรื่องจะต้องทำอีกตั้งมากมาย ขออภัยพี่ชายท่านนี้ด้วย"
พูดเสร็จนางก็กำลังจะลุกขึ้นและเดินจากไป ณ ที่ตรงนั้น แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อมีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาจับที่ข้อมือของนาง
"ข้าก็คือคู่หมั้นคู่หมายของเจ้าอย่างไรเล่าเยี่ยเหมยฮวา"
บุรุษที่คว้าข้อมือของนางนั้นตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำให้ได้ยิน ชัดเจนทั่วทั้งโรงเตี๊ยม
ทุกคนในโรงเตี๊ยมล้วนแต่ตกตะลึงอ้าปากค้างกับสิ่งที่ตนได้ยิน ไม่แม้กระทั่ง เหมยฮวาที่ตอนนี้ได้แต่ จ้องมองเขาอย่างตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เมื่อตั้งสติได้แล้ว นางจึงถามเขาไปอีกครั้ง
“ห๊า ท่านว่าอะไรนะ ท่านเป็นผู้ใด"
"ข้าคือคู่หมั้นคู่หมายของเจ้า ผู้ที่เจ้าจะต้องใช้ชีวิตด้วยกันไปจนแก่เฒ่าย่างไรเล่า" เขาจ้องมาที่นางด้วยความขุ่นเคือง
'สายตานี้มันคืออะไรคะคุณพี่ หึง หวง โกรธ อร๊ายค่ะ เนตรไม่เข้าใจ แต่ก่อนไม่เคยจะเห็นหน้าแต่พอตอนนี้ คุณต้องการอะไรจากสังคมคะ เนตรขอสะบัดบ๊อปใส่ได้ไหมคะ แล้วจะพูดเสียงดังทำไมกันค๊า เขาได้ยินกันทั้งโรงเตี๊ยมแล้ว รู้ไหมคะทำแบบนี้แฟนคลับหนูตกใจหมดแล้ว กำลังจะเช็คเรทติ้งค่ะ โอ๊ย โผล่มาตอนไหนไม่โผล่ดันโผล่มาตอนนี้ ไม่ได้ดั่งใจเลยค่ะแม่'