บทที่ 18ขายสบู่

2101 Words
สุดท้ายเฉินตงก็ปฏิเสธพี่สาวไม่ได้ เขาเดินนำเข้าตลาดมืดอย่างคุ้นเคย เฉินเฟิ่นอี้เดินตามหลังไปโดยไม่ได้สนใจสีหน้าที่กระอักกระอ่วนของเขา หากเฉินไห่หลิวคุยง่ายเธอจะให้เขามาแทน เฉินเฟิ่นอี้เตรียมพร้อมอย่างดี หมวกไม้ไผ่สานถูกมัดแน่น ยากที่จะแกะออกหากไม่ใช่เธอที่แกะเอง มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบสบู่หอมออกมาหนึ่งก้อน รอบนี้เธอไม่สามารถแยกจากเฉินตงได้เลย เขาตามติดเฉินเฟิ่นอี้ตลอดไม่ละสายตา วันนี้บรรยากาศภายในตลาดมืดยังเป็นเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าการเข้ามาในตลาดมืดมันง่ายกว่าครั้งแรกที่มา อาจเป็นเพราะเธอเคยมาแล้วจึงไม่ได้เกร็ง เฉินเฟิ่นอี้เดินตามแผงขายของไปเรื่อยๆ เธอไม่ได้เลือกร้านค้า แต่กำลังมองหาลูกค้าที่เหมาะกับสินค้าของเธอ ผู้หญิงหากถูกใจแล้วไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ต้องได้ของสิ่งนั้น สบู่ที่เฉินเฟิ่นอี้กดแลกมามันมีกลิ่นที่หอมมาก เธอมั่นใจได้ว่ามันจะขายได้ในราคาที่สูง ระหว่างเดินทางมาที่ตลาดมืดเฉินเฟิ่นอี้ถามราคาสบู่ในสหกรณ์กับเฉินตง เขาบอกว่ามันราคาสี่หยวนต่อหนึ่งก้อน และในความทรงจำของเธอสบู่มันไม่ได้หอมติดผิวกาย ซึ่งถ้าขายในตลาดมืดราคาต้องมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัวเพราะไม่ได้ใช้คูปอง เฉินเฟิ่นอี้หยุดเดินมองร้านค้ารอบๆ ผู้คนเดินผ่านสวนไปมาอย่างไม่สนใจกัน ใครๆ ก็ไม่ต้องการที่จะเข้ามานาน ได้ของที่ต้องการก็รีบกลับออกไป “พี่สาวคะ ต้องการอะไรเหรอคะ เผื่อฉันมีของที่พี่สาวต้องการ” เฉินเฟิ่นอี้เดินเข้าไปหาผู้หญิงที่มองซ้ายขวาอยู่ เธอไม่เห็นใบหน้าของหล่อนเพราะอีกฝ่ายใช้ผ้าปิดหน้าไม่ต่างจากเธอ “อ้อ ฉันรอสามีน่ะ” ผู้หญิงตรงหน้าส่ายหน้าปฏิเสธ เฉินเฟิ่นอี้พยักหน้าเล็กน้อย แม้จะเสียดายที่ไม่ใช่คนที่เธอตามหา แต่เธอไม่ถอดใจหรอกนะ เข้ามาที่นี่ทั้งทีอย่างน้อยต้องขายอะไรได้ เฉินเฟิ่นอี้จับสบู่ในมือขึ้นมาก่อนจะขยับหนีคนที่เธอเข้ามาทัก “เดี๋ยว” “คะ?” “เมื่อครู่ฉันได้กลิ่นหอมๆ ของอะไรสักอย่าง ใช่ของที่มาจากเธอหรือเปล่าจ๊ะ” หล่อนถามพลางชี้ไปยังสบู่หอมในมือของเฉินเฟิ่นอี้ที่ถืออยู่ “นี่สบู่หอมค่ะ ฉันเพิ่งได้รับจากญาติที่เอามาเยี่ยมบ้าน” เฉินเฟิ่นอี้อธิบาย เรื่องนี้เธอลืมคิดไว้เลยว่าจะบอกว่าเอาสบู่มาจากไหน แต่เดี๋ยวค่อยกำชับเฉินตงไม่ให้เอาไปพูด “โอ้ น้องสาว เธอมีเยอะหรือเปล่า แบบว่าเอ่อ… พอจะแบ่งให้ฉันได้สักก้อนหรือเปล่า” หล่อนจ้องมองสบู่อย่างคาดหวัง กลิ่นสบู่หอมมาก! ไม่รู้ว่าถ้าใช้อาบน้ำแล้วกลิ่นมันจะหอมมากแค่ไหน หล่อนใช้สบู่ในสหกรณ์แต่มันก็ไม่ได้กลิ่นหอมเลย “เอ๋ แบ่งหรือคะ ฉันมีแค่สามก้อนเองค่ะ ไม่รู้ว่าญาติของฉันจะนำมาให้อีกเมื่อไร เขามาหาปีละไม่กี่ครั้งเองค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้ตอบ อีกมือก็ล้วงเอาสบู่ออกมา ของดีอยู่กับตัวมากจะเป็นผลเสียสำหรับเธอ เฉินเฟิ่นอี้ไม่คิดจะนำออกมาขายให้แค่คนเดียว ดูเหมือนอีกฝ่ายใกล้จะกลับแล้ว เธอจึงนำออกมาแค่สามก้อน “น้องสาวต้องการแลกอะไรหรือเท่าไหร่เหรอจ้ะ” “ฉันไม่เคยใช้สบู่ค่ะ ไม่รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่ พี่สาวพอจะรู้หรือเปล่าคะ” เฉินเฟิ่นอี้ถามเพื่อลองใจ หากหล่อนให้ราคาที่ต่ำกว่าในสหกรณ์เธอจะไม่ขายให้ ของดีขนาดนี้จะราคาน้อยได้ยังไง “ฉันให้ก้อนละสิบหยวน! เธอขายให้ฉันทั้งหมดได้หรือเปล่า คือว่าสามีของฉันเขาเป็นทหารน่ะ นานๆ กลับบ้านทีฉันก็อยากตัวหอมบ้าง” ประโยคหลังหล่อนกระซิบเฉินเฟิ่นอี้อย่างเขินอาย “ได้ค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้ไม่เสียเวลาเธอตอบตกลงทันที ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะให้ราคาที่สูง หล่อนเป็นคุณนายทหารที่รอสามีอยู่ที่บ้าน เงินต่างๆ ของสามีจึงตกอยู่ที่หล่อนหมด “ขายได้ขนาดนั้น!” เฉินตงอุทาน ตอนแรกเขากระตุกแขนเสื้อพี่สาวที่บอกไม่รู้ราคา ทั้งๆ ที่เพิ่งถามเขาก่อนเข้ามาที่นี่ “อืม นายก็อย่านำเรื่องนี้ไปพูดกับใคร โดยเฉพาะพี่ชายของนายไม่อย่างนั้นฉันจะไม่พามาอีก” เฉินเฟิ่นอี้เตือน “คะ…ครับ” ระหว่างหาลูกค้ารายใหม่เฉินเฟิ่นอี้ก็มองผู้หญิงที่ซื้อสบู่ของเธอไปด้วย หลังจากเธอเดินออกมาก็มีผู้ชายเดินไปหาน่าจะเป็นสามีของหล่อน ทั้งสองหยุดสนทนากันครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินออกไป เฉินเฟิ่นอี้เปลี่ยนที่ยืน เธอเดินมาห่างจากจุดเดิมพอสมควร จากนั้นจึงหยิบสบู่ออกมาสองก้อน วันนี้เธอจะขายแค่นี้ก็พอ วันหลังค่อยเข้ามาขายใหม่ ยิ่งที่นี่ไม่ได้ห่างจากบ้านพักมาก การที่จะทำอะไรจึงสะดวก “น้องสาวๆ” ระหว่างที่เฉินเฟิ่นอี้กำลังหาลูกค้ารายใหม่ ด้านหลังของเธอกลับมีผู้หญิงเข้ามาสะกิด เฉินเฟิ่นอี้รีบหันไปมองอย่างหวาดระแวง เฉินตงที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับเอาตัวมาบังพี่สาว “เอ่อ ฉันแค่จะสอบถามอะไรหน่อย” หล่อนสะดุ้งตกใจเดินถอยหลังไปหลายก้าว เฉินเฟิ่นอี้ถอนหายใจ พยักหน้าให้เฉินตงถอย ที่นี่คือตลาดมืด ถึงเธอจะยืนเหม่อแต่ก็ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เฉินเฟิ่นอี้กระชับกระเป๋าสะพายแน่นมองคนตรงหน้าที่เอ่ยปากพูด “ก่อนหน้านี้ฉันเห็นเธอแลกสบู่กับผู้หญิงคนหนึ่งไป น้องสาวยังพอมีอยู่หรือเปล่า ฉันอยากได้น่ะ” หล่อนรีบพูดทันที ก่อนหน้านี้หล่อนมองอยู่ตลอดแต่ไม่กล้าเข้าไปทัก “มีค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้หยิบสบู่หอมสองก้อนออกจากกระเป๋าผ้า เพียงแค่มันออกจากกระเป๋าผ้าก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ เฉินเฟิ่นอี้แบมือให้อีกฝ่ายมอง สบู่ก้อนหนึ่งสำหรับเฉินเฟิ่นอี้สามารถใช้ได้หลายเดือน เพราะฉะนั้นสำหรับคนในอำเภอถือว่ามันคุ้มมาก พวกเขาไม่ได้ทำงานตากแดดและเหงื่อไม่ได้เยอะ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่อาบน้ำเยอะ อีกทั้งแค่โดนน้ำก็มีฟองแล้ว “น้องสาวของฉันหล่อนกำลังจะแต่งงาน ฉันอยากได้สบู่เป็นของขวัญแต่งงาน เธอแบ่งให้ฉันสักก้อนได้หรือไม่” น้องสาวของหล่อนเป็นคนชอบสบู่มาก หากหล่อนได้ใช้สบู่ก้อนนี้คงจะมีความสุขและคิดถึงเธอเสมอ “ผู้หญิงคนนั้นให้ฉันสิบหยวนค่ะ” หล่อนชะงักเมื่อรู้ราคาสบู่ อันที่จริงตอนแรกก็รู้ว่าราคามันแพงมาก แต่หล่อนไม่คิดว่าราคามันจะสูงขนาดนี้ วันนี้หล่อนนำเงินมาแค่สิบหยวน หากไม่ซื้อเอาไว้มันคงจะหมดแน่ “ฉัน ฉันมีแค่สิบหยวน” “ฉันแบ่งขายได้ค่ะ” ดีซะอีกเธอจะได้กลับบ้านก่อนขายครบ อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้เงินเกินเป้าหมายที่อยากได้แล้ว “ได้” เฉินเฟิ่นอี้ทำการแลกเปลี่ยนเงินและสบู่หอม วันนี้ใช้เวลานานกว่าวันแรกที่เข้ามาขายคูปอง แต่ก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีมาก สบู่หอมก้อนที่ห้าถูกขายไปในราคาสิบห้าหยวน รวมเป็นสี่สิบห้าหยวนพอดี ซึ่งมันใช้ได้อีกราวๆ หนึ่งเดือน หลังจากย้ายเข้ามาพักในอำเภอเธอค่อยมาขายก่อนเปิดเทอม เมื่อขายของเสร็จเฉินเฟิ่นอี้ก็เดินดูของที่น่าสนใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรติดมือกลับ เพราะถูกเฉินตงห้ามเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง อย่างแอปเปิลที่เคยซื้อหนึ่งหยวน ที่นี่ขายสามหยวนซึ่งราคามันต่างกันเป็นเท่าตัว ก่อนจะไปร้านอาหารที่นัดกันเอาไว้เฉินเฟิ่นอี้แวะสหกรณ์ในอำเภอ นมผงของเฉินชิงชิงหมดแล้ว วันนี้ได้โอกาสเข้ามาในอำเภอเธอจึงต้องรีบซื้อ อีกอย่างของแห้งบางอย่างในบ้านก็หมด ซึ่งก่อนจะแยกกันเธอก็บอกทุกคนไปแล้วว่าอาจกลับไปรวมตัวช้า “เด็กสมัยนี้มีลูกเร็วกันจริงๆ” เฉินเฟิ่นอี้กำลังเลือกนมผงถึงกับชะงัก เธอหยิบนมผงใส่ตะกร้าที่เฉินตงถือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพนักงานที่เธอไม่คุ้นหน้า “คุณคุยกับฉันเหรอคะ” “เธอร้อนตัวเองนะ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” พนักงานหญิงหัวเราะก่อนจะเดินไปหาเพื่อนร่วมงาน “ฉางลี่เฟย น้องสาวสามีของพี่สาวรอง” เฉินตงกระซิบบอก ไม่แปลกที่เฉินเฟิ่นอี้จะไม่คุ้นหน้า วันแต่งงานของพี่สาวรองฉางลี่เฟยไม่ได้อยู่บ้าน เฉินเฟิ่นอี้พยักหน้า ถึงว่าพี่สาวรองบอกหล่อนจะไปได้นานมากแค่ไหน ตอนนี้หล่อนยังกล้าค่อนแคะเธอที่เป็นลูกค้า ถ้ารู้ว่าเป็นน้องสาวของพี่สะใภ้หล่อนคงไม่ใช่ด่าเธอหรอกนะ ของแห้งที่เคยซื้อถูกหยิบลงตะกร้า ผลไม้ที่ไม่มีในสหกรณ์ตำบลเช่นเดียวกันที่ถูกเฉินเฟิ่นอี้เลือกซื้อ อะไรที่หาได้ในสหกรณ์ตำบลเธอก็ไม่ได้ซื้อไปให้หนัก “ทั้งหมดสิบสองหยวนค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้ยื่นเงินและคูปองให้พนักงานหญิงอีกคนที่เคยขายให้เธอรอบก่อน โดยมีฉางลี่เฟยยืนทำปากขมุบขมิบอยู่ข้างๆ ของทั้งหมดถูกห่อด้วยกระดาษอย่างเป็นระเบียบ “ที่นี่มีผู้จัดการหรือเปล่า?” เฉินเฟิ่นอี้ถามระหว่างรับเงินถอน ไม่ใช่ว่าต้องการให้อีกฝ่ายออกจากงาน แต่เธอต้องการให้หล่อนต้อนรับลูกค้าดีๆ “คุณลูกค้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ แจ้งฉันได้เลยค่ะ เดี๋ยวจัดการให้” พนักงานหญิงรีบก้มหัวขอโทษ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันกลัวว่าถ้าปล่อยไว้นานสหกรณ์อำเภอจะถูกมองไม่ดี พนักงานหญิงคนนั้นพูดว่าฉัน คุณพอจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการสื่อหรือเปล่าคะ” เฉินเฟิ่นอี้ชี้ไปยังฉางลี่เฟยที่พอถูกชี้กลับชักสีหน้าใส่ลูกค้าอย่างไม่ยอม “ฉางลี่เฟย! เธอเสียมารยาทกับลูกค้ารีบขอโทษเร็ว” พนักงานหญิงรีบกระซิบบอกด้วยความหวังดี เฉินเฟิ่นอี้ไม่ยอมเดินออกจากสหกรณ์ประจำอำเภอ โชคดีที่เวลานี้ไม่มีลูกค้า เธอจึงไม่กลัวว่าจะเกะกะและทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษค่ะ แค่อยากให้ทางสหกรณ์อบรมพนักงานหน่อย ฉันเป็นลูกค้านะคะไม่ใช่ขอทานถึงจะมาพูดอะไรก็ได้ ไม่ใช่สิ ต่อให้ฉันเป็นขอทานหล่อนก็พูดแบบนี้ไม่ได้” เฉินเฟิ่นอี้ส่ายหน้า “หล่อนไม่ต้องการคำขอโทษ เธอก็เห็นแล้วนี่ น่ารำคาญ” ฉางลี่เฟยบ่นเพื่อนร่วมงานที่หวังดีกับหล่อน ก่อนจะเดินออกจากจุดชำระเงินไปอย่างอารมณ์เสีย “ฉันต้องขออภัยแทนหล่อนด้วยนะคะ หล่อนคงอารมณ์เสียที่ถูกดุน่ะค่ะ” พนักงานหญิงยิ้มแห้ง เฉินเฟิ่นอี้ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เพื่อนร่วมงานก็ดีขนาดนี้ฉางลี่เฟยก็คิดไม่ได้ อีกทั้งเงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ สิ่งที่เธอเป็นห่วงที่สุดก็คือพี่สาวรอง หากฉางลี่เฟยถูกไล่ออกจากงาน บ้านฉางต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่แน่คนที่ให้หล่อนไปทำงานอย่างพี่สาวรองก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD