“ได้ค่ะ ถ้าคุณพี่แขต้องการเช่นนั้น” จันทร์เจ้าโพล่งออกไป ถ้าหิรัญทำแบบนั้นกับรัศมีแขจริงๆ เธอก็จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขา ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแค่เรื่องฉาบฉวยจนต้องตกกระไดพลอยโจนถึงขั้นแต่งงานกันเช่นนี้
“งั้นคืนนี้แกก็เปิดโอกาสให้ฉันได้อยู่กับเขา รับรองว่าเขาจะต้องติดใจฉันมากกว่าแก เพราะผู้หญิงจืดชืดไร้รสนิยมแบบแกน่ะเขาไม่เอาทำเมียหรอก ถึงเอาก็เคี้ยวได้ไม่นาน เขาเบื่อจนต้องรีบคายทิ้ง”
“ค่ะ จันทร์เจ้าจะปล่อยให้คุณพี่แขอยู่กับอาหิน” รัศมีแขเหยียดยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในเวลาอาหารเย็น ทุกคนนั่งรับประทานอาหารพร้อมกัน จันทร์เจ้ารู้สึกใจลอยอย่างบอกไม่ถูก ในขณะที่หิรัญนั้นดูตึงเครียดหมางเมิน แต่กลับพูดคุยกับรัศมีแขมากกว่าเก่าก่อน จิตใจของจันทร์เจ้าห่อเหี่ยวจนกลืนข้าวแทบไม่ลง จันทร์เจ้ารีบเข้าห้องนอนของตนเองในทันทีที่อาหารเย็นสิ้นสุดลง ใครจะทำอะไรกันเธอจะไม่รับรู้เด็ดขาด คำว่าบุญคุณท่วมหัวที่ครอบครัวของรัศมีแขดูแลเลี้ยงดูเธอมาชดใช้ยังไงก็ไม่หมด เธอจึงไม่อยากเป็นคนอกตัญญู
รัศมีแขอาบน้ำประพรมน้ำหอมเป็นอย่างดี ก่อนจะสวมใส่ชุดนอนวาบหวิวเดินออกมาจากห้อง เป้าหมายคือห้องนอนของหิรัญ คืนนี้เธอจะต้องเผด็จศึกเขาให้ได้ ก็ให้รู้กันไปว่าเขาจะไม่ยอมมีอะไรกับคนสวยเซ็กซี่แบบเธอ ผู้ชายก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เธอจะแสดงให้จันทร์เจ้าได้รู้ว่าผู้หญิงคนไหนหิรัญก็เอา แค่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้มีโอกาสเข้าหาเขาแบบนี้เท่านั้นเอง
ประตูห้องไม่ได้ล็อก รัศมีแขยิ้มย่องในใจ เธอมองเตียงนอนกว้างในความมืดสลัวที่มีร่างร่างหนึ่งนอนอยู่อย่างหมายมั่น
“พ่อเลี้ยงคะ นอนแล้วเหรอคะ” เสียงของรัศมีแขหวานหยด เธอค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปสัมผัสเนื้อตัวเจ้าของห้องในทันที
“พ่อเลี้ยงขา ทำไมนอนเร็วแบบนี้ล่ะคะ” รัศมีแขมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มของชายหนุ่มก่อนจะกระซิบถาม หอมแก้มเขา ซุกไซ้เล้าโลมหนักขึ้น ยังไงคืนนี้เธอก็ต้องพิชิตเขาให้จงได้
“มาเถอะค่ะ แขจะทำให้พ่อเลี้ยงมีความสุขจนลืมนัง จันทร์เจ้าจอมจืดชืดไปเลย” ร่างกายเบื้องล่างที่เธอนอนคร่อมทับอยู่ส่ายหนี ทำให้รัศมีแขต้องตามไปตะครุบจนร่างนั้นตกเตียง เธอรีบวิ่งไล่ร่างที่วิ่งหนีไปทั่วห้อง
“พ่อเลี้ยงอย่าหนีแขสิคะ อ้อ... พ่อเลี้ยงชอบอะไรตื่นเต้นแบบนี้เหรอคะ ได้สิคะ” เธอกระโจนเข้าใส่ แต่ร่างสูงในความมืดรีบกระโจนหนี
“พ่อเลี้ยงคะ แขเหนื่อยแล้วนะคะ”
“เหนื่อยก็เลิกวิ่งไล่จับผู้ชายสักทีสิ ดึกๆ ดื่นๆ คนจะหลับจะนอน” เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่เสียงของหิรัญ ทำให้รัศมีแขต้องรีบวิ่งไปเปิดไฟ เธอได้แต่อ้าปากค้างเมื่อคนคนนั้นคือหัสดิน
“เป็นนายได้ยังไง กรี๊ด! ไอ้บ้า” รัศมีปัดไปตามเนื้อตัวคล้ายกับรังเกียจสัมผัสเมื่อครู่ที่ได้แนบชิดกับหัสดิน
“ฉันต่างหากควรจะถามว่าเป็นเธอได้ไงที่วิ่งแร่เข้ามาหาฉันในห้องและคิดจะปลุกปล้ำฉันทำผัว”
“ใครจะปล้ำนายทำผัวกันฮะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต”
“หาผัวไม่ได้หรือไงถึงต้องเข้ามาลักหลับผู้ชายถึงในห้องนอน หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นะ”
“กรี๊ดด!! ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า” รัศมีแขกรีดร้องตรงเข้าทุบตี หัสดินรวบมือของหล่อนเอาไว้ ก่อนจะผลักไสแล้ววิ่งหนีออกมาจากห้องนอนของผู้เป็นอา หิรัญแอบได้ยินรัศมีแขคุยกับจันทร์เจ้า ก็เลยให้เขาเข้ามานอนในห้องแทน ดีนะที่อาของเขารู้แผนการยายนี่ก่อน ไม่อย่างนั้นคงโดนปล้ำ จันทร์เจ้าก็กระไรอนุญาตให้ญาติตัวเองเข้ามาปล้ำว่าที่เจ้าบ่าวได้ แต่ก็อย่างว่าครอบครัวนี่ กดขี่ข่มเหงจันทร์เจ้าแต่เด็ก พอโดนข่มขู่เข้าจันทร์เจ้าคงไม่อยากมีปัญหาด้วย เขาเข้าใจว่าจันทร์เจ้าเป็นคนไม่ชอบขัดใจใคร
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“หยุดให้โง่เหรอ” เสียงโวยวายที่ดังไปทั่วบ้านทำให้จันทร์เจ้ารีบออกมาดู เธอนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องหิรัญกับรัศมีแขเลยทำให้ได้ยินเสียงโวยวายชัดเจน พอออกมาจากห้องก็เห็นว่ารัศมีแขกำลังวิ่งไล่ตามหัสดินพร้อมด่าว่าอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำหยาบคาย ขว้างปาข้าวของใส่เหมือนคนบ้า
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณพี่แข” จันทร์เจ้าเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก ในขณะที่หัสดินหนีไปอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟา รัศมีแขนั้นพยายามจับตัวของอีกฝ่ายให้ได้ สีหน้าจริงจังคล้ายกับว่าถ้าจับตัวได้จะถลกหนังหัวหัสดินให้หายแค้น
“ก็ไอ้หมอนี่มานอนแทนพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงไปไหน”
“อาของผมเขารู้ว่าจะมีผู้หญิงไร้ยางอายบุกไปปล้ำเลยรีบหนีไปนอนที่กระท่อมริมน้ำตกเรียบร้อยแล้ว”
“กรี๊ด!!! แกหาว่าใครไร้ยางอายฮะไอ้บ้า”
“ใครอยากรับก็รับไปสิครับ ผมไม่ได้ระบุชื่อเสียหน่อย คุณร้อนตัวทำไมกันครับ ผู้หญิงอาร๊าย พอผู้ชายรู้ว่าจะเข้าหาก็รีบวิ่งหนีจนป่าราบ”
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต นังจันทร์เจ้าแกรู้เห็นเป็นใจกับมัน แล้วบอกให้พ่อเลี้ยงหนีไปใช่ไหม” รัศมีแขหันไปเล่นงานจันทร์เจ้าในทันที
“โอ๊ย! อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ผู้ชายหนีเข้าป่าไปแบบนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอแม่คุณ เป็นผมก็วิ่งหนีป่าราบแหละเจอผู้หญิงไร้ยางอายแบบคุณ”
“ไอ้ ไอ้ ไอ้ปากสุนัข ไอ้สารเลว แกว่าฉันเหรอ นังจันทร์เจ้าไหนแกบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณฉันไง นี่เหรอคือสิ่งที่แกทำ แกบอกให้พ่อเลี้ยงหนีไปใช่ไหม แกบอกมาเลยนะ” รัศมีแขโมโหเลยหันไปลงกับจันทร์เจ้า เธอเริ่มทุบตีทำร้ายจนหัสดินต้องรีบเข้าไปห้ามเอาไว้
“นี่คุณ เลิกบ้าเสียทีเถอะ ผู้ชายเขาไม่เอาก็ดึงสติกลับมาได้แล้ว ถ้าเขาเอาไม่ต้องแก้ผ้าวิ่งไปปล้ำเขาหรอก แค่ใส่ชุดแม่ชีเขาก็เอา”
“ไอ้ปากหมา ไอ้ปากสุนัข ไอ้บ้า” หัสดินเข้าล็อกร่างของรัศมีแขเอาไว้ ในขณะที่หญิงสาวดิ้นรนจะเตะถีบจันทร์เจ้าเพราะคิดว่าญาติผู้น้องรู้เห็นเป็นใจให้หิรัญหนีไปในค่ำคืนนี้
“จันทร์เจ้าเปล่านะคะ หลังอาหารเย็นก็ไม่ได้คุยกับอาหินอีกเลย”
“แกโกหกอีตอแหล”
“โอ๊ย! ผู้ชายเขาไม่เอาก็ยังบ้าได้อีก” หัสดินดึงร่างของ รัศมีแขเอาไว้เต็มแรงก่อนจะเหวี่ยงไปอีกด้าน เธอแรงเยอะจนเขาถึงกับหอบ รัศมีแขทำท่าจะเข้าทำร้ายจันทร์เจ้าอีก แต่หัสดินขวางเอาไว้ ตรงเข้าผลักไสจนหล่อนเซไปอีก
“แกสองคนรวมหัวกันใช่ไหม”
“เหอะ! ยังคิดไม่ได้อีกนะป้า”
“นายเรียกใครป้า”
“คุณไง ตอนนี้นะหน้าของคุณน่ะแก่งักเลย ทั้งเหี่ยว ทั้งตีนกาขึ้น หน้าเกลียดน่ากลัว ลองไปส่องกระจกดูสิเวลาทำหน้าโมโหคนอื่นแบบนี้”
“กรี๊ด! ไอ้บ้า ไอ้ปากหมา”
“จริงๆ คุณก็สวยนะ ทำหน้าแบบนี้ยิ่งแก่ยิ่งเหี่ยว นึกว่าแม่มดกลับชาติมาเกิด”
“ไอ้ปากหมา”
“ผมไม่ได้ปากหมา ผมพูดความจริง ดูแต่งตัวเข้าสิ ขนาดคุณแก้ผ้าผมยังไม่เอาคุณเลย แล้วอาผมจะเอาคุณเหรอ ตื่นเถิดครับคุณป้า ผมโคตรเวทนาคุณจริงๆ”
“ไอ้บ้า! ไอ้บ้า! ไอ้บ้า!” รัศมีแขอับอายขายขี้หน้าเป็นที่สุด เธอกรีดร้องสุดเสียงเพื่อระบายอารมณ์ จนต้องวิ่งหนีเข้าห้องไปในทันที หัสดินเห็นดังนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาจากปากแทบจะทันทีเช่นกัน
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะพี่ดิน”
“พี่ต่างหากต้องถามเรา คิดยังไงยกสามีตัวเองให้คนอื่น”
“เอ่อ...” คนถูกถามกลับถึงกับพูดไม่ออกอึกๆ อักๆ ในทันที
“อาหินหนีไปนอนในไร่แล้วเห็นไหม” หัสดินพูดแล้วกอดอกมองหน้าคนที่เอาแต่พูดไม่ออก
“คุณพี่แขเขารักอาหิน เขาอยากได้อาหิน”
“เขาอยากได้แล้วเราก็ยกให้นี่นะ” หัสดินทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเพื่อพักเหนื่อย วิ่งหนีรัศมีแขจนเหงื่อโชกไปหมด
“จันทร์เจ้าไม่รู้จะทำยังไง ครอบครัวของคุณพี่แขมีบุญคุณกับจันทร์เจ้านี่คะ”
“เขาเลี้ยงจันทร์เจ้ามาก็จริง แต่จันทร์เจ้าก็ตอบแทนบุญคุณพวกเขาโดยการทำงานงกๆ ชดใช้เขาแล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายทุกอย่างแม้กระทั่งส่งเรียนหนังสืออาหินก็เป็นคนออกให้ทั้งหมด