“โปรดมาที่นี่ได้ยังไง!” ปัณณิกาถามเสียงดังและลดเสียงทันทีน้องชายทำมือทำไม้บอกให้เงียบ
“ก็แก้มไม่สบาย แถมโทร. มาก็ไม่ยอมรับสาย โปรดเลยตามพิกัดในแอปพลิเคชันมาเนี่ย!” ปาณัฐขอให้พี่สาวต่างมารดาพาไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ปัณณิกาจึงเลือกร้านกาแฟร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมิเนียมนัก เธอถือวิสาสะสั่งนมชมพูให้กับน้องชาย ส่วนตัวเองเลือกเอาช็อกโกแลตปั่นตามความชอบ
“แก้มไม่เป็นอะไรแล้ว” มือหนาทาบลงบนหน้าผากของพี่สาว ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว แต่เรื่องแม่อ่ะ โปรดรู้แล้วนะว่าแม่ตีแก้ม”
“นานเป็นเดือนแล้วล่ะ แก้มไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แล้วทำไมไม่บอก นี่ถ้าพ่อยังอยู่นะ โปรดคงถูกพ่อตีตายโทษฐานไม่ดูแลพี่แก้ม”
“แหม ทีนี้ล่ะมาเรียกพี่ สงสัยจะต้องทำตัวให้น่าเป็นห่วงบ่อย ๆ ละ”
“ตลก! เรียกครั้งเดียวนี่แหละ แล้วนี่แก้มอยู่กับใคร อย่าบอกนะว่าอยู่กับเพื่อน เพราะเพื่อนของแก้มทุกคน โปรดโทร. ตามหมดแล้ว”
ปัณณิกามีเพื่อนแค่สองสามคนและไม่ได้สนิทอะไรมาก เรื่องจะให้ไปขอความช่วยเหลือกันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
“คือ… แก้มอยู่กับเพื่อนของพี่ลิตาน่ะ”
“แก้มโกหกไม่เนียนอีกละ” ปาณัฐส่ายหน้า ก่อนจะถอดแว่นกันแดดจ้องตาจับผิดพี่สาวของตัวเอง
“โปรด… แก้มอยู่กับแฟน แต่แก้มไม่กล้าบอก แก้มกลัวถูกแม่ด่าน่ะ”
“จริงเหรอแก้ม… แล้วเขาดีกับแก้มไหม”
“โปรดไม่โกรธแก้มเหรอ”
“แก้มแก่แล้วนะ สมควรจะมีแฟนได้ตั้งนานแล้ว โปรดแค่ห่วงว่าเขาจะดูแลแก้มไม่ดี ส่วนเรื่องแม่แก้มไม่ต้องห่วงนะ เพราะโปรดไม่มีทางบอกแม่แน่ ๆ” ปาณัฐต้องกลับไปถ่ายงานต่อที่ภูเก็ต เขารู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยพี่สาวก็ไม่ต้องถูกแม่ทำร้ายร่างกายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก
“นี่กล้าหลอกด่าแก้มว่าแก่เหรอ เดี๋ยวจะโดนดี!”
“ตัวเท่าลูกหมาทำเป็นเก่ง! เอาเป็นว่าดูแลตัวเองดี ๆ นะ แล้วก็หัดรับโทรศัพท์บ้าง เทคโนโลยีการสื่อสารน่ะรู้จักไหม”
“พอเลย ๆ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”
“ล้อเล่นนิดเดียวทำหน้าอย่างกับยักษ์วัดแจ้ง แก้มลุกเถอะเดี๋ยวโปรดจะไปส่งกลับห้อง แล้วนี่ปวดเอวหรืออะไร ทำไมเดินแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“นั่งทำงานนานไปหน่อย เดี๋ยวยืดเส้นยืดสายก็หายแล้วล่ะ” ปัณณิกาขยับหมวกของน้องชายเพื่อซ่อนความหล่อไม่ให้คนจับได้ว่าเขาเป็นใคร ก่อนจะเดินนำกลับคอนโดมิเนียมที่เธอโกหกว่าเป็นของแฟนทันที
“ถ้ามีปัญหาอะไร แก้มรีบโทร. หาโปรดเลยนะ”
“รู้แล้วน่า พูดซ้ำ ๆ อยู่ได้ นี่ถ้ายังไม่หยุดพูด แก้มจะปิดแอปพลิเคชันไม่ให้ตามตัวได้แล้วนะ” ปัณณิกามองน้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขากดนู่นกดนี่อยู่ไม่ถึงนาที เงินก้อนหนึ่งก็เด้งเข้าบัญชีของเธอทันที
“โปรดโอนมาทำไมเยอะแยะ”
“แค่สองหมื่นไม่เยอะหรอก เอาไปซื้อของบำรุงตัวเองเยอะ ๆ นะ ดูสภาพแล้วอย่างกับซากผีเดินได้ นี่ถ้ายังไม่รู้จักดูแลตัวเอง โปรดตัดออกจากกองมรดกไม่รู้ด้วย” ปาณัฐดึงร่างบอบบางเข้าไปกอดแน่น
เขาห่วงพี่สาวมาก เพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็ถูกแม่ตีอยู่เรื่อย ๆ ตอนเด็กเขาทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากปลอบใจและวิ่งไปฟ้องพ่อ พอโตแล้วจึงตั้งใจว่าจะปกป้องพี่สาวให้ดีที่สุด
ภาพดาราหนุ่มหล่อที่สาว ๆ กำลังคลั่งไคล้ โดยเฉพาะลูกสาวที่ชอบพร่ำเพ้อพูดถึงอยู่ที่บ้านทำให้ธัญญ์อารมณ์เสียอย่างหนัก เขาคงไม่รู้สึกอะไรถ้ามันกำลังกอดคนอื่น ทว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนคือของเล่นที่เขาจ่ายมาในราคาแพงและยังใช้ไม่คุ้มเสียด้วยซ้ำ
เจ้าของร่างสูงยืนรอจนกระทั่ง ‘โปรด ปาณัฐ’ เดินออกจากล็อบบีแล้วจึงกลับขึ้นห้องที่ซื้อเอาไว้เป็นสถานที่พักผ่อน หลังจากยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ธัญญ์ก็บอกกับตัวเองว่าผู้หญิงชั่วคราวของไม่ได้ทำผิดอะไร
กฎข้อสามคือห้ามนอกกาย ไม่ใช่ห้ามนอกใจสักหน่อย
“คุณ” เธออ้าปากน้อย ๆ และพอได้สติก็รีบยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
“ทำอะไรอยู่เหรอแก้ม”
“แปลเอกสารค่ะ ขอแก้มเก็บของแป๊บเดียวนะคะ”
“ไม่ต้องเก็บหรอก เธอไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปรอที่เตียง”
“ค่ะ…” ปัณณิการีบรับคำสั่ง หันหลังเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม แต่พอเธอหยิบเสื้อตัวหลวม เขาก็บอกว่าเปลี่ยนใจอยากให้เธอสวมชุดลูกไม้แทน
‘คุณ’ ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี และหน้าที่ของเธอคือทำให้เขาอารมณ์ดี
“วันนี้ออกไปข้างนอกมาเหรอ เหมือนฉันจะเห็นเธอขึ้นลิฟต์ก่อนหน้ากันแค่นิดเดียว”
“ค่ะ แก้มมีธุระนิดหน่อย แก้มขอโทษนะคะที่เตรียมตัวช้า” ธัญญ์ยิ้มหยันเพราะเข้าใจไปว่าธุระของเธอก็คือดาราหนุ่มรูปหล่อที่สาว ๆ บอกว่ากำลังมาแรง
“เริ่มเถอะ หวังว่าเธอคงจะพอทำได้แล้วนะ”
“ค่ะ แก้มทำได้” เธอค่อย ๆ คลานขึ้นไปหาผู้ชายที่นั่งพิงอยู่บนเตียง กลิ่นน้ำหอมของเขาทำให้เธอรู้สึกประหม่าจนอยากจะดื่มเหล้าปลอบใจตัวเอง
“วันนี้ฉันรีบ คงใจเย็นไม่ไหว” กล่าวจบธัญญ์ก็พลิกตัวผู้หญิงที่ทำให้เขาว้าวุ่นจนเกือบตั้งสมาธิทำงานไม่ได้ลงไปนอนอยู่ใต้ร่าง ทว่าทันทีที่ทาบริมฝีปากลงบนซอกคอหอมกรุ่น ธัญญ์ก็จำหยุดตัวเองลงกลางคัน
“เธอตัวร้อน ไม่สบายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“แก้มไม่เป็นไรค่ะ คุณทำต่อเถอะนะคะ”
“แก้มหวาน…” ธัญญ์ส่ายหน้า ดูอยากถอยมากกว่ารุก
“แก้มทำได้ค่ะ” ปัณณิกายิ้มหวานหยดย้อย หัวใจของเธอพองโตกับความห่วงใยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขามอบให้กัน ยิ่งเขามองมาด้วยความห่วงใย เธอก็ยิ่งลืมตัวปล่อยใจให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ธัญญ์กดริมฝีปากหยักได้รูปซ้ำ ๆ จนทั่วร่าง เว้นแค่เพียงริมฝีปากบางน่าจูบเอาไว้ที่เดียว แรกเริ่มเขาตั้งใจว่าจะไม่ฝากฝังรอยอะไรเพิ่มเติม แต่พอนึกถึงหน้าหล่อ ๆ ของดาราหนุ่ม โทสะก็พลันครอบงำ เกิดอาการหวงของเล่น เร่งทำเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของทันที
ความรุนแรงเพิ่มระดับตามความโกรธ ทว่าแก้มหวานที่หวานไปทั้งตัวของเขาไม่เคยปริปากบ่น เธอครางเสียงหวานยามเสียดเสียวเกินทนและนิ่วหน้ายามเขาทำอะไรที่หนักจนเกินควร
“เธอรู้ใช่ไหมว่าห้ามยุ่งกับใครในขณะที่อยู่กับฉัน”
“ค่ะ แก้มเป็นของคุณคนเดียว คุณก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่เหรอคะ” เธอหอบเบา ๆ ขณะเอียงคอถามอย่างน่ารัก
“อืม ฉันรู้แล้ว” ธัญญ์ชำแรกความใหญ่โตเป็นครั้งที่สามของค่ำคืนอันยาวนาน พลางมองเธอกัดปากข่มอารมณ์หวามไหว เขาไม่รู้ว่าแก้มหวานเจ็บหรือว่าอะไรกันแน่ แต่พอเสียงหวานหลุดรอดออกจากริมฝีปากน่ากัด เขาก็รีบเร่งรัวจังหวะเอาแต่ใจตัวเองทันที
“คุณค่ะ แก้มหายใจไม่ทัน”
“ทนอีกนิดนะแก้มหวาน… อีกนิดเดียว” ของเล่นชิ้นนี้ทำเขาเปลืองทั้งแรงและเวลา ทว่าธัญญ์กลับรู้สึกหลงใหลจนยากจะถอนตัว
“ค่ะ… แก้มยังไหว” ธัญญ์เอาแต่ใจตลอดคืนและปล่อยให้เธอพักผ่อนราว ๆ ตีสอง เขาเองก็เหนื่อยมากไม่แพ้กัน จึงตัดสินใจว่าจะงีบสักสองสามชั่วโมงก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน
พอถึงเวลาที่ตั้งใจเอาไว้ หนุ่มใหญ่ก็ตื่นขึ้นมาและกดจูบลงบนแก้มของเธอเบา ๆ ทว่าความร้อนบนผิวนุ่มกลับทำให้เขาผละร่างออกแทบจะในทันที
แก้มหวานของเขาทนไม่ไหวซะแล้ว…