สายลม สายน้ำ ขุนเขา และแสงแดดในยามเช้าทำให้ดรุณีน้อยผู้หนึ่งที่กำลังแบกตะกร้าขึ้นเขาฮึมฮัมบทเพลงในลำคอออกมาด้วยความสบายอารมณ์
แต่อยู่ๆตะกร้าที่แบกมาด้วยนั้นกลับรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ร่างเล็กจึงรีบหันขวับไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะเบิกตาโตขึ้นอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อพบว่าหมียักษ์ประจำหมู่บ้าน
ซ่งเว่ยหยาง กำลังหยิบผลไม้บ้าง หน่อไม้ป่าบ้างใส่ลงในตะกร้าของนางจนเกือบเต็ม
"หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมียักษ์ชั่ว"
เพ่ยเจินพูดพร้อมส่งสายตาไม่พอใจให้คนตัวโตตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่บุรุษตรงหน้าดูเหมือนจะหูตึงหรือแกล้งทำหูทวนลมก็มิอาจทราบได้ หลังจากวางผลไม้และหน่อไม้ป่าใส่ลงในตะกร้าของนางแล้ว ยังวางดอกไม้ป่าช่อโตใส่ลงไปในตะกร้าของนางด้วย
"ข้าบอกให้หยุดได้ยินมั้ยเล่า?"
เพ่ยเจินพูดพร้อมกับหยิกหมับเข้าที่หน้าท้องของซ่งเว่ยหยางเข้าไปในทันที อีกทั้งยังยกกำปั้นน้อยๆขึ้นทุบเข้าที่แผงอกแกร่งเพื่อระบายความโมโห
"เจ้าไม่พอใจที่ข้าให้ของกับเจ้าหรือ?"
ซ่งเว่ยหยางเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบ
"ข้าหนักจะตายอยู่แล้ว ยังมีหน้ามายิ้มร่าได้อยู่อีก?"
เพ่ยเจิน กระแทกเสียงตอบ
"เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าแบกตะกร้ากลับบ้านดีหรือไม่?"
โดยไม่รอฟังคำตอบซ่งเว่ยหยางได้ปลดสายตะกร้าออกมาจากหลังของเพ่ยเจินอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแบกตะกร้าขึ้นหลังของตนด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
"อย่ามายุ่งกับของของข้านะ"
เพ่ยเจินพูดขึ้นอย่างเหลืออดพร้อมทั้งพยายามยื้อยุดฉุดกระชากเอาตะกร้าของตนกลับคืนมาให้จงได้
"เอ้าๆ พวกเจ้าสองคนพากันมาพลอดรักที่ตีนเขาลูกนี้ตั้งแต่เช้าเลยเชียวหรือ?"
หลี่หมิงชายวัยกลางคนที่เดินผ่านทางมาพอดีกล่าวเย้าน้ำเสียงสนุก
'ท่านมันบ้าไปแล้วลุงหลี่ มิทราบว่าท่านเอานัยน์ตาที่ตรงไหนมอง ข้ากำลังจะฆ่าไอ้หมียักษ์หน้าไม่อายคนนี้รอมร่ออยู่แล้ว ท่านกลับมองว่ามันเป็นการพลอดรักไปได้อย่างไร?'
เพ่ยเจินกรีดร้องอยู่ภายในใจด้วยความคาดไม่ถึง
"พอดีก่อนข้าจะเดินทางมายังเขาลูกนี้ ได้เดินทางผ่านบ้านของนางมาก่อน บิดามารดาของนางบอกว่านางกำลังจะขึ้นเขามาหาผลไม้ ข้าจึงได้รีบตามมาและแบ่งผลไม้กับหน่อไม้ป่าให้กับนางขอรับ"
ซ่งเว่ยหยางเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปากกระชากใจขึ้นมาหนึ่งที
เพ่ยเจินกัดริมฝีปากจนห้อเลือดไปหมด ก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าหลีกไปอีกทางหนึ่งอย่างนึกหัวเสีย
"หมดกันวันอากาศดีที่แสนสบายของข้า เจ้าหมียักษ์บ้านั่นทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของข้าไปจนหมดสิ้นแล้ว!"
เพ่ยเจินบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งด้วยความอารมณ์เสีย ก่อนจะหวีดร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อโดนซ่งเว่ยหยางอุ้มตนขึ้นมาพาดบ่าได้ในเสี้ยววินาที
"ปล่อยข้าลงไปเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมียักษ์"
เพ่ยเจินพูดพลางทุบกำปั้นรัวไปที่แผ่นหลังของซ่งเว่ยหยางโดยไม่ยอมออมแรงเลยแม้แต่น้อย
"เจ้าไม่หนักหรืออย่างไรกันนะคนบ้า?"
เพ่ยเจินทั้งดิ้นไปมาทั้งทุบหลังของซ่งเว่ยหยางจนเจ็บมือไปหมดแต่คนตัวโตดั่งยักษ์ปักหลั่นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ
"เจ้าจะพาข้าไป ณ ที่ใดกัน?"
เพ่ยเจินถามขึ้นอย่างเหลืออด
"น้ำตก"
"ข้าไม่ไป ปล่อยข้านะ ปล่อยข้าลงไปเดี๋ยวนี้!"
"เรามีเรื่องต้องคุยกัน" ซ่งเว่ยหยางตอบออกมาด้วยความสงบนิ่ง
"ข้าไม่คุย" เพ่ยเจินกล่าวเน้นย้ำทีละคำอย่างไม่เกรงกลัว
"เทศกาลอ้ายเสินของหมู่บ้านเราในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี้ เจ้าจะไปหรือไม่?”
ซ่งเว่ยหยางพูดพลางวางเพ่ยเจินให้นั่งลงบนโขดหินอย่างระมัดระวังและวางตะกร้าไว้ข้างตัวเพ่ยเจินตามมาติดๆ
"ข้าไม่ไป" เพ่ยเจินตอบออกมาทันทีโดยมิต้องคิด
"ข้าจะรอให้เจ้ามาคล้องมาลัยให้กับข้า ส่วนข้าจะมอบส้มผลที่งดงามที่สุดให้กับเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะปักถุงผ้ารอ"
ซ่งเว่ยหยางเอ่ยออกมาน้ำเสียงหนักแน่น
"เจ้าพูดพอหรือยัง?" เพ่ยเจินเลิกคิ้วถาม
"ข้ามิได้มีอารมณ์มาฟังเจ้ากล่าววาจาไร้สาระนานหรอกนะ"
เพ่ยเจินพูดพร้อมทั้งยกตะกร้าขึ้นมาไว้บนหลัง แต่ด้วยต้องเดินผ่านโขดหินที่ทั้งก้อนใหญ่และลื่น เพ่ยเจินจึงพลัดตก
ลงไปในสายน้ำ
ซ่งเว่ยหยางเห็นดังนั้นจึงรีบร้อนกระโดดน้ำลงไปช่วยในทันที ใช้เวลาเพียงไม่นานนักก็พาเพ่ยเจินขึ้นฝั่งมาได้สำเร็จ
"เป็นเพราะเจ้าแท้ๆ ที่ใส่ของเข้ามาในตะกร้าข้าจนเต็ม
ทำให้ข้าหนักจนแทบจะเดินไม่ไหว"
เพ่ยเจินพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว หายใจเข้าออกแรงขึ้นจนหน้าอกสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
ซ่งเว่ยหยางมองภาพความสวยงามตรงหน้าตาปรอย ในใจคิดอยากจะเข้าไปละเลียดชิมความงามนั้นนัก แต่ก็ทำได้แค่เพียงลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบาก และเดินไปหยิบเสื้อคลุมของตนมาส่งให้กับเพ่ยเจินด้วยความเป็นห่วง
"ข้าจะไม่ยอมใส่เสื้อผ้าของเจ้าเป็นอันขาด"
เพ่ยเจินพูดพร้อมทั้งโยนเสื้อคลุมของซ่งเว่ยหยางลงไปในสายน้ำด้วยความโกรธจัด
ซ่งเว่ยหยางเห็นดังนั้นจึงได้กระโดดน้ำลงไปเอาเสื้อคลุมของตนกลับคืนมาได้ในชั่วขณะ เป็นจังหวะเดียวกับที่เพ่ยเจินรีบร้อนแบกตะกร้าขึ้นหลังเดินจากไปในทันที
"เพ่ยเจินอย่าไป"
ซ่งเว่ยหยางพูดพลางยื่นมือใหญ่ของตนขึ้นมาจับกับมือเล็กของเพ่ยเจินเอาไว้ ทำให้ทั้งคู่ตกน้ำตกท่าไปด้วยกันแล้วในยามนี้
"กรี๊ดดด"
เพ่ยเจินกรีดร้องขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับกอดคอของ
ซ่งเว่ยหยางเอาไว้แน่น
"เจ้าหมียักษ์ชั่ว น้ำตรงนี้ลึกนัก ข้าว่ายน้ำไม่เป็น
เจ้าแกล้งข้าจะให้ข้าจมน้ำตายใช่หรือไม่?"
เพ่ยเจินตะเกียกตะกายพยายามเอื้อมมือไปจับโขดหินเอาไว้ด้วยหมายจะได้ปล่อยคอของซ่งเว่ยหยางเสียที แต่ดูเหมือนบุรุษตรงหน้าจะรู้ทันจึงได้ลอยตัวให้ไหลไปตามสายน้ำลึกยิ่งขึ้นอีก
"เจ้าหมียักษ์ เจ้าแกล้งข้า!" เพ่ยเจินพูดพลางรัวกำปั้นทุบเข้าไปที่ไหล่ของซ่งเว่ยหยางไม่ยั้ง ก่อนจะรู้สึกตกใจแทบสิ้นสติเมื่อซ่งเว่ยหยางฉกริมฝีปากร้อนๆเข้ามาจุมพิตตนเอาไว้ในทันที เนิ่นนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ซ่งเว่ยหยางจึงยอมถอนจุมพิตของตนออกมาได้
"เอ้านั่น พวกเจ้าดูจะรักใคร่กันดูดดื่มเสียจริงนะ แม้แต่
การพลอดรักกันในสายน้ำพวกเจ้าก็ยังกล้าทำกันด้วยหรือ?"
ลุงหลี่เจ้าเก่าเจ้าเดิมตะโกนเย้าขึ้นมาด้วยความเอ็นดู
"เทศกาลอ้ายเสินที่จะมาถึงนี้ พวกเจ้าก็อย่าลืมคล้องมาลัยดอกไม้และมอบผลส้มให้กันด้วยเล่าจะได้เข้าพิธีแต่งงานกันเสียที" หลังกล่าวจบหลี่หมิงก็ก้าวขาเดินจากไปในทันที
"ท่านลุงหลี่ห้ามไปบอกใครนะเจ้าคะ ว่าพบเจอกันกับข้าอยู่กับเจ้าหมียักษ์นี่" เพ่ยเจินร้องตะโกนตามหลังไปด้วยความหวั่นใจ
"เจ้าวางใจได้เลยเพ่ยเจิน" หลี่หมิงตอบกลับมาเสียงดังฟังชัดไปทั่วทั้งสายน้ำ
'ระดับข้าหลี่หมิงแล้ว ข้ารู้เท่ากับโลกรู้แน่นอน’
หลี่หมิงคิดขึ้นมาในใจพร้อมกับหัวเราะกับตนเองขึ้นมาอย่างเบิกบานใจ
เทศกาลอ้ายเสิน แปลตรงตัวว่ากามเทพ เป็นเทศกาลการจับคู่กันของหนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงาน (ผู้เขียนคิดขึ้นมาเองไม่ได้อ้างอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใด)