คนเขารู้กันไปจนทั่ว

868 Words
เพ่ยเจินเดินแบกตะกร้าเดินทางกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกขุ่นมัวอยู่เต็มหัวใจ  พร้อมกับก่นด่าซ่งเว่ยหยางไปตลอดทางอย่างนึกหัวเสีย เมื่อเดินทางผ่านตลาด  เพ่ยเจินก็สังเกตเห็นว่าแต่ละคนลอบมองตนด้วยแววตายิ้มๆ  พร้อมทั้งก้มหน้าลงกระซิบกระซาบกันราวกับมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง เพ่ยเจินยังคงเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นมิได้กล่าววาจา อะไรออกมาแม้เพียงครึ่งคำ  เอาแต่รีบเดินจ้ำอ้าวให้ผ่านพ้นไปจากบริเวณตลาดที่คนพลุกพล่านเพียงเท่านั้น  จนกระทั่ง "โอ๊ยยยย!!"  เสียงร้องแสดงถึงความเจ็บปวดดังขึ้น  เพ่ยเจินจึงยกมือเล็กขึ้นมาคลำหน้าผากตนเองป้อยๆ 'ป่านนี้หน้าผากนางคงบวมปูดโนขึ้นมาแล้วกระมัง  ใครกันนะที่เดินไม่ระวังขนาดนี้?'  เพ่ยเจินคิดขึ้นมาในใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองคนผู้นั้นด้วยความสงสัย  ก่อนจะอ้าปากกว้างขึ้นด้วยความคาดไม่ถึงเมื่อพบว่าคนผู้นั้นคือหมียักษ์ประจำหมู่บ้าน  ซ่งเว่ยหยางนั่นเอง "เจ้า!"  เพ่ยเจินกล่าวออกมาเพียงเท่านั้นก็หันหลังขวับรีบเดินจากไปทันที "อ้าวๆ  อะไรจะตัวติดกันขนาดนั้นเล่าหนุ่มสาวสมัยนี้?"  หลี่ซีโมวน้องชายของหลี่หมิงกล่าวเย้าขึ้นด้วยความเอ็นดู "เพ่ยเจินเจ้าช่างโชคดีนัก  ที่จะได้แต่งงานกันกับ เว่ยหยาง  ในหมู่บ้านของเราแล้วเว่ยหยางเขาเป็นคนดีและมีพละกำลังมากมายมหาศาลนัก  สามารถแบกกระสอบข้าวได้คราวละตั้งแปดกระสอบ  ดึงลากเกวียนแทนวัวก็ได้  มีเขาผู้เดียวเท่ากับมีบุตรชายถึงสี่คนในบ้าน  บุรุษที่แสนดีและประเสริฐเช่นนี้สักร้อยปีถึงจะมีสักคนเลยเชียวนะ"  ป้าจางคนข้างบ้านของเพ่ยเจินกล่าวขึ้นน้ำเสียงขึงขัง 'แล้วนางเล่า  นางมิมีอะไรดีเลยเช่นนั้นหรือ?  นางเป็นถึงสาวงามอันดับหนึ่งของหมู่บ้านเลยเชียวนะ  ไม่สินางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของถงเยี่ยนเลยต่างหากล่ะ'  เพ่ยเจินคิดขึ้นมาในใจ  แต่ด้วยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอันใดให้เป็นการต่อความยาวสาวความยืดมากนัก  เพ่ยเจินจึงได้เร่งฝีเท้ามากขึ้นหวังจะได้รีบออกไปจากตลาดนี่เสียที  แต่หูสองข้างก็กลับแอบลอบฟังการสนทนาของซ่งเว่ยหยางกับผู้คนในตลาดต่อไปอีกเล็กน้อยด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เหตุใดเพ่ยเจินจึงได้สวมชุดคลุมของเจ้าเล่าเว่ยหยาง?"  หญิงขายผักเอ่ยถามขึ้นและพรมน้ำลงบนผักของตนไปด้วย "พอดีนางพลัดตกลงไปในน้ำ  ข้าจึงลงไปช่วยและให้นางใส่ชุดคลุมของข้าเอาไว้ขอรับ"  ซ่งเว่ยหยางตอบออกไปด้วยความสุภาพเรียบร้อย "พวกเจ้าคบหาดูใจกันไปถึงไหนแล้วเล่าเว่ยหยาง?"  ชายขายปลากล่าวถามขึ้นมาอย่างเอาใจช่วย ซ่งเว่ยหยางพลันหน้าแดงขึ้นเมื่อคิดถึงตอนที่ตนกับ เพ่ยเจินจุมพิตกันในสายน้ำและตอนที่เพ่ยเจินก้มลงมาหอมแก้มตนแล้วจึงได้แต่มีท่าทีอ้ำๆอึ้งๆ  มิกล้ากล่าววาจาอันใดออกไปให้คนอื่นรู้  ภรรยาของชายขายปลาเห็นดังนั้นแล้วจึงแกล้งเอ็ดสามีของตนไปว่า  "เจ้านี่ช่างถามอันใดมิรู้ความนัก  เว่ยหยางอายจนผิวสีน้ำตาลคร้ามแดดของเขาเป็นสีแดงเข้มขึ้นมาแล้วเห็นหรือไม่?" "เอาล่ะๆ  พวกเจ้าก็อย่าได้พากันซักไซร้เว่ยหยางอันใดไปให้มากความนักเลย"  แม่ค้าขายผ้ากล่าวตัดบท    "แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  เว่ยหยางหากเจ้าจะได้แต่งงานเมื่อไหร่  อย่าลืมแวะมาซื้อผ้าร้านข้าเอาไว้ไปตัดชุดแต่งงานของพวกเจ้าด้วยเล่า  เข้าใจหรือไม่?  ข้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ  อีกทั้งข้ายังจะแนะนำร้านตัดที่ดีที่สุดให้เจ้าด้วย" "ขอบคุณพี่สาวมากนะขอรับ"  ซ่งเว่ยหยางยังคงเป็นคนเรียบร้อยพูดน้อย  และมีกิริยาอ่อนโยนต่อผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์เสมอ เพ่ยเจินแอบเบ้ปากด้วยความขุ่นเคืองใจเล็กน้อยพร้อมกับคิดขึ้นมาในใจว่า  'เพราะอะไร  ด้วยเหตุใดกันนะ  เจ้าหมียักษ์นี่ถึงได้กลายเป็นดาวเด่นและเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านนี้ไปได้?  แต่ช่างเถอะมันก็หาใช่ธุระกงการอะไรของนางไม่  รีบกลับบ้านไปก่อนดีกว่า  ป่านนี้ท่านพ่อและท่านแม่อาจจะกำลังรอคอยนางอยู่ก็เป็นได้' "ลุงหลี่นะลุงหลี่ท่านช่างทำให้ข้าอับอายขายขี้หน้าคนทั่วทั้งตลาดยิ่งนัก  ความแค้นครั้งนี้ข้าจะขอจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจไม่ลืมเลยทีเดียว"  เพ่ยเจินกล่าวกับตนเองน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกจากตลาดไปด้วยความแค้นเคืองใจกับเหตุการณ์ในครานี้  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD