@มหา'ลัย
วันนี้เป็นวันมาเรียนวันแรกของฉัน จริงๆ ก่อนหน้านี้ ตะวันฉายเล่าให้ฉันฟังมาตลอด ว่าโซนไหนเป็นยังไง และมีอะไรเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของฉันบ้าง เอาจริงๆ เขาเทคแคร์ฉันตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาอยู่กับเขาแล้วด้วยซ้ำ
"เดี๋ยวปาย" มือหนาเลื่อนมาคว้ามือฉัน ในตอนที่ฉันดึงสายกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า แล้วตั้งท่าจะลงจากรถ เมื่อฉายมาส่งจนถึงหน้า มหา'ลัย
"เวลาโทรหา รับสาย เวลาไลน์ไป ก็ตอบด้วย"
"รู้แล้ว" ฉันยิ้มให้คนข้างๆ เขาย้ำคำนี้ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วยซ้ำ
"เป็นห่วง มีปัญหาอะไรก็โทรมา ถ้ามีคนแกล้ง ให้รีบบอกทันที"
"อื้อ ใครจะมาแกล้งกันล่ะ โตๆ กันแล้วนะ"
"ไม่รู้แหละ รู้ใช่ไหมว่าที่ย้ำ เพราะห่วงมาก"
"รู้" ฉันรีบพยักหน้ารัวๆ ออกมา อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนเรียนมัธยม ฉันเคยถูกเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ไม่ชอบหน้ากันกลั่นแกล้งอยู่บ่อยครั้ง เขาเลยอาจจะกลัวว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันจะเกิดซ้ำ ถือว่านี่ก็เป็นความน่ารักของตะวันฉาย ที่ยังเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนแปลงเลย
"ไปแล้วนะ เดี๋ยวสาย"
"อื้อ ฉันมีเรียนตอนบ่าย เย็นๆ เจอกันละกัน"
"อื้อ"
"เดี๋ยว"
"อะไร"
"นี่ก่อน..." ฉันกระพริบตามองคนที่ทำหน้าออดอ้อน พลางเคาะปลายนิ้วกับแก้มของตัวเอง
"ฉาย..."
"เร็ว หอมก่อน เมื่อคืนก็อ้างว่าง่วงนอน อย่าใจร้ายแบบนี้นะปาย"
"แล้วใช่เวลามางอแงไหม"
"ไม่รู้แหละ เร็วๆ หอมแก้มก่อน" สีหน้าที่ออดอ้อน และน้ำเสียงอแงที่อีกคนชอบใช้เวลาที่อ้อนฉัน มันทำให้ฉันใจแข็งได้ไม่นาน สุดท้ายก็ยอมโน้มตัวเข้าไปใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆ ที่แก้มของอีกคน
ฟอดด~
"เมียน่ารัก" ฉายยิ้มกว้าง เขามักเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
"ตั้งใจเรียนนะ ตอนเย็นเดี๋ยวกลับพร้อมกัน"
"เค ถ้าว่าง อย่าลืมโทรหาแม่ด้วยนะ"
"ครับผม คิดถึงฉลามน้อยเหมือนกัน"
ได้ยินแค่นั้น มันก็ทำให้ฉันสุขใจ
.
.
.
"สวัสดี เราชื่อเมยี่"
"เราชื่อสปาย" คำทักทายจากเพื่อนใหม่ สร้างความโล่งใจให้ฉันเป็นอย่างมาก นี่เป็นเพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักฉัน และท่าทางของคนที่เข้ามาทัก ก็ดูเป็นมิตรมากจริงๆ
"เราพึ่งมาใหม่ ไม่มีเพื่อนเลย"
"เหมือนกัน เราก็พึ่งเข้ามา"
"ถ้าอย่างนั้น เราเดินด้วยกันนะ เดินคนเดียวมันเหงาแปลกๆ" คนพูดยิ้มแห้งๆ ให้ฉัน เพื่อนคนแรก ฉันสแกนแล้ว เหมือนจะผ่าน ท่าทางใจดี และเป็นมิตรอยู่พอสมควร
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ไม่มีอะไรหรืออุปสรรคใดๆ ทั้งนั้น เมยี่มาเรียนที่นี่ โดยมีเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักมาก่อนหน้านั้น เรามีโอกาสได้พบกัน ฉันจึงเริ่มรู้จักใครหลายๆ คน
เมยี่ อายุจริงๆ คือเป็นน้องฉัน แต่มาเรียนรุ่นเดียวกัน เพราะปีที่แล้วฉันดรอปเรียน
นอกเหนือจากนั้น ก็ได้รู้จักเพื่อนรุ่นพี่ของเมยี่ ชื่อพี่ฟาง รายนั้นอยู่ปีสาม และมีอีกคน ชื่อใบปออยู่ปีสอง ทุกคนน่ารักมาก ดูเป็นกันเองทุกคนเลย
.
.
.
ช่วงที่ฉันเรียนปีหนึ่ง เวลานั้น ทุกอย่างดูราบรื่นมาก ไม่มีอุปสรรคใดๆ เข้ามา ฉันกับฉายในเรื่องความสัมพันธ์มันก็ดีทุกอย่าง เขาไม่เคยทำให้ฉันหนักใจหรือไม่สบายใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
เราเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น ฉายรู้จักกับเพื่อนของฉัน ในขณะที่ฉันเอง ก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนของฉาย
จนกระทั่งเวลาผ่านไป
ฉายเรียนปีสี่ ในขณะที่ฉันเรียนปีสาม ระยะเวลา กับสังคมใหม่ๆ มันทำให้การใช้ชีวิตของเราเริ่มเปลี่ยนไป
"วันนี้เพื่อนชวนกินเหล้า ขอใช้พื้นที่ห้องนะ" คนขอเข้ามาออดอ้อนฉันจากทางด้านหลัง เรื่องดื่มเหล้า ฉายดื่มประจำ แต่ฉันก็เข้าใจว่า มันเป็นวัยของเขา คนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งเพื่อนของฉัน ก็มีพฤติกรรมแบบนี้ มีดื่มแบบนี้ เที่ยวแบบนี้เหมือนกัน
แต่สุดท้ายแล้ว การที่เขาชวนเพื่อนมาดื่มที่ห้อง มันก็ทำให้ฉันสบายใจกว่าการที่เขาออกไปข้างนอกอยู่ดี
"อื้อ ได้ดิ แล้วงานที่ส่งอาจารย์พรุ่งนี้ เรียบร้อยยัง"
"เรียบร้อยแล้วครับ อยู่ในห้อง ตรวจสอบได้เลย"
"ถ้าอย่างนั้นก็โอเค"
"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวเพื่อนมา"
"อะไรล่ะ ไม่เกี่ยวไหม"
"เกี่ยวไง กางเกงสั้นเกินไป เดี๋ยวเพื่อนมอง ไปเปลี่ยนก่อน"
"งอแงตลอดเลยฉาย ฉันกำลังจะทำกับข้าวไง ไม่มีเวลาไปเปลี่ยน"
"ไม่เอาหรอกปาย ถ้าใส่แบบนี้ พวกนั้นมันก็มองดิ หวงเว้ย"
"งอแงตลอด"
"ก็หวงเมียไหมล่ะ ไปเปลี่ยนเลย จะผัดผักใช่ไหม เดี๋ยวทำรอ"
เห็นความพยายามที่จะให้ฉันไปเปลี่ยนกางเกงของเขาแล้ว ฉันก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา
ฉันยอมเข้ามาเปลี่ยนกางเกงตามที่อีกคนร้องขอ ความหวง ความห่วง เป็นที่หนึ่ง เอาจริงๆ กระโปรงนักศึกษาของฉัน หมอนั่นยังไม่ยอมให้ใส่สั้นๆ เลย
ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง~
เหมือนเพื่อนของฉายจะมาถึงในตอนที่ฉันเปลี่ยนกางเกงเรียบร้อยแล้ว และเดินออกมาจากห้องนอนพอดี
"มาแล้วๆ เหล้าเพียบเลย"
"กับแกล้มก็เพียบเลย" กอล์ฟและจีโน่ เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉาย เดินหิ้วของเข้ามาในห้อง สองคนนั้นรู้จักกับฉัน และกล้าคุยหยอกล้อ เพราะความที่รู้จักกันมากขึ้นนี่แหละ
"ปาย ทำไรอ่ะ มานี่ดิ มาดื่มด้วยกัน"
"หยุด นั่นเมียกู ไม่ให้คุยเว้ย" รายนั้นก็ออกอาการใหญ่ เล่นใหญ่ตลอดเลยเช่นกัน
"ไอ้บ้าเอ้ย เมียมึง แล้วคิดว่ากูจะจีบเมียมึงหรือไง กูแค่ชวนมากินลูกชิ้นปิ้งเว้ย กูซื้อลูกชิ้นปิ้งมา" กอล์ฟเป็นฝ่ายชวน และพยายามส่งเสียงรบเร้าออกมาอีกครั้ง ฉันจึงต้องวางมือจากการทำอาหาร แล้วเดินไปนั่งในกลุ่มอย่างเลี่ยงไม่ได้
"นี่เลย ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มเด็ดมาก ซื้อมาเยอะมาก ฝากปายโดยเฉพาะ"
"ขอบใจนะ ทีหลังไม่ต้องลำบากก็ได้" ฉันส่งยิ้มกลับไป เกรงใจในความมีน้ำใจของเพื่อนสามี
"แค่ได้รอยยิ้มสวยๆ กลับคืน แค่นั้นก็คุ้มแล้วครับ"
"เมียกูครับ!" อีกคนมองแรงใส่ แล้วปากล่องทิชชู่ลอยผ่านหน้าฉันไปโดนอีกคน
"โอ๊ย ไอ้ฉาย มึงนะมึง!"
ฉันหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ตอบรับความทะเลาะแบบเด็กๆ ของคนทั้งคู่ เขาก็แค่แซวเล่นไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นตะวันฉายมากกว่า ที่เยอะไปเอง
เวลาผ่านไป
"เมื่อไหร่พวกมึงจะกลับ กูจะไปนอน"
"ทำไมต้องไล่ด้วยวะ นี่เพื่อนนะ"
"แต่นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ กูจะไปนอน"
"ตลอด เอะอะไล่ตลอด"
"ถ้าอย่างนั้น พวกมึงจะกลับกันตอนไหน ปิดไฟให้กูด้วยก็แล้วกัน" จบคำ ฉายก็คว้ามือฉัน แล้วพาไปยังห้องนอน โดยไม่สนเสียงของเพื่อนที่เหมือนจะเมาได้ที่ที่ร้องตาม
"ไม่รอให้เพื่อนกลับก่อนเหรอฉาย"
"ช่างพวกมันเถอะ พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเช้า เดี๋ยวมีเวลาได้อยู่กับเธอแป๊บเดียว"
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง และถูกล็อคเรียบร้อยด้วยมือของตะวันฉาย ท่อนแขนแกร่ง ก็กอดร่างของฉันเอาไว้ทันที
"อยากกอดเมีย"
"ก็กอดทุกวัน" ฉันยกมือโอบบนท่อนแขนแกร่งตอบ กลิ่นหอมจากกายของอีกคน เป็นกลิ่นที่ฉันคุ้นเคย
"วันนี้ขอนะ"
"งอแงตลอด ไหนบอกว่าวันไหนนอนดึกจะไม่กวนไง"
"แป๊บเดียวก็ได้ นะครับ..." ริมฝีปากร้อนและปลายจมูกโด่ง เลื่อนเข้ามาซุกไซร้ไปตามลำคอของฉัน จังหวะการหายใจที่เริ่มแรง บ่งบอกว่าค่ำคืนนี้ เป็นอีกคืนที่ฉายจะไม่ยอมปล่อยให้ฉันนอนอย่างง่ายดาย
ไม่นานด้วยซ้ำ เสื้อผ้าของฉันก็ถูกถอดออกไป ตามด้วยการหันไปจัดการตัวเอง จนเปลือยเปล่าไปด้วยกัน
ที่ผ่านมา ฉันไม่เคยขัด เพราะคิดว่า ยังไงก็สามีภรรยากันอยู่แล้ว นอกจากความรัก เห็นจะเป็นลูก ที่ทำให้ฉันคิดว่า เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไป
"รักปายนะ รักปายที่สุดในโลก" คนที่คลอเคลียอยู่กับซอกคอของฉันเอ่ยออกมา
"ปายเป็นรักแรก และปายก็เป็นรักเดียวของฉาย"
และคำพูดนั้น ก็เหมือนจะเป็นคำหวานที่หล่อเลี้ยงหัวใจของฉันได้เป็นอย่างดี
"ปายก็รักฉาย ฉายเป็นรักแรก และเป็นรักเดียวเหมือนกัน"