พิษสวาท | ตอนที่ 6 | ตะวันอับแสง

1630 Words
พิษสวาท | ตอนที่ 6 | ตะวันอับแสง TA-WAN’ S PART • ณ บ้านพักรวมแม่บ้าน • ขณะที่ตาล สาววัย 26 ปีกำลังยืนรีดผ้ากองโตของบรรดาเจ้านายเพื่อเตรียมสำหรับนำไปแขวนใส่ตู้เสื้อผ้าให้กับพวกคุณ ๆในวันรุ่งขึ้น ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก่อนที่ประตูห้องจะค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ "กลับมาแล้วค่ะ" เด็กสาววัย 16 ย่างเข้า 17 ปีเดินสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่เข้าห้องพร้อมกับเอ่ยทักทายพี่สาวของเธอเหมือนเช่นทุกวัน "อืม" ตาลพยักหน้ารับคำทักทาย แต่เธอก็ไม่มีเวลาใส่ใจน้องสาวมากเท่าไหร่นัก เพราะต้องใช้สมาธิในการรีดผ้าต่อไปจนกว่าจะเสร็จ เนื่องจากเสื้อผ้าของพวกเจ้านายล้วนเป็นแบรนด์เนมหรูทั้งนั้น ราคาตั้งแต่หลักพันหลักหมื่น บางตัวนี่แสนกว่าบาทเลย ดังนั้นจึงจะรีดแบบลวก ๆ ส่ง ๆ ไม่ได้ ถ้าจับจีบได้ไม่ดี คุณป้าหัวหน้าแม่บ้านก็จะเรียกไปตำหนิทันที เมื่อเห็นว่าน้องสาวของเธอเอาแต่นั่งมองหน้า ทว่าก็ไม่พูดไม่จาอะไร ผู้เป็นพี่จึงเป็นฝ่ายไถ่ถามขึ้นก่อน "มีอะไรหรือเปล่าตะวัน?" ตาลวางเตารีดร้อนลงกับโต๊ะรีดผ้าและเงยหน้าถามตะวันที่นั่งมองเธอทำงานอยู่ไม่ไกลมากนัก "คือว่า... ตะวันอยากจะขอยืมเงินพี่ตาลไปเรียนพิเศษหน่อยจะได้ไหมจ๊ะ?" สาวน้อยเดินเข้ามาหาพี่สาวพร้อมกับเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา "ยืม 2,000 บาทเท่านั้น เดือนหน้าตะวันได้เงินค่าพาร์ตไทม์แล้วจะคืนให้เลยจ้ะ" เธอยกมือไหว้ขอด้วยท่าทีอ้อนวอน "เรียนพิเศษ?" พี่สาวต่างวัยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอพับโต๊ะรีดผ้าเก็บและเตรียมเสื้อผ้าที่จะนำขึ้นไปไว้ที่ตู้เสื้อผ้าบรรดาเจ้านายแต่ละคนก่อนจะแขวนเสื้อผ้าของเจ้านายเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง "คือมีบางวิชาที่หนูพยายามอ่านเองแล้ว แต่มันไม่เข้าใจจริง ๆ และอาจารย์ไม่ค่อยอธิบายในห้องเรียน เอาแต่ไปติวให้กับพวกที่เรียนพิเศษแทนน่ะ" ขณะที่พี่สาวทำงาน ตะวันก็เริ่มอธิบายเหตุและผลที่คิดไว้ แม้จะรู้ดีว่าพี่เธอไม่เห็นด้วยกับการเรียนต่อสักเท่าไหร่ แต่เธอไม่มีที่พึ่งอื่นจริง ๆ ปั่ก! เสียงเตารีดผ้าร้อน ๆ กระแทกลงที่โต๊ะรีด "พี่ไม่เข้าใจเลยตะวัน! แกจะฝืนเรียนต่อไปทำไม?" ตาลเงยหน้ามองน้องสาวนิ่ง ๆ "จริง ๆ เรียนจบแค่ม.3 มันก็ควรจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ?" ก่อนหยุดทำงานและหันมาคุยกับน้องสาวด้วยท่าทีจริงจัง "ถ้าพี่ตาลไม่มีก็ไม่เป็นนะจ๊ะ" ตะวันยิ้มเจื่อน ๆ ตอบกลับไป "เรื่องเงินน่ะ พี่พอมีและให้แกได้เลยไม่ต้องหามาคืนหรือยืมอะไร" ผู้เป็นพี่ถอนหายใจก่อนจะควักเงินในกระเป๋าเสื้อของตัวเองและยัดใส่มือของน้องสาวไปทันที "แต่ที่พี่ไม่เห็นด้วยเลยคือ... เราจะเรียนสูง ๆ ไปเพื่ออะไร?" "แกเองก็น่าจะรู้ตัวดีที่สุด... ว่าเรียนไม่เก่งเลยสักวิชา" เธอพูดตอกย้ำไปตามจริง "เออ ถ้าแกสอบได้ทุนการศึกษามาตลอด หรือได้เกรด 4 ทุกวิชาจนได้เรียนฟรี พี่จะไม่ว่าเลยนะ นี่ยังดึงดันเรียนต่อไปเพื่ออะไร?" ตาลตั้งใจเอ่ยออกไปตรง ๆ เพราะไม่ว่าจะเตือนจะสอนน้องสาวกี่ครั้ง ตะวันก็ยังคงดิ้นรนหาทางเรียนต่อ "หนูรู้ว่าหนูโง่แถมหัวช้ากว่าคนอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะพยายามและพัฒนาตัวเองต่อไปให้มากที่สุด" ตะวันน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย "หนูอยากเรียนมหาลัย อยากจบสูง ๆ อยากมีงานดี ๆ ทำ เพื่อให้เราสองคนได้กินอยู่สุขสบายกว่านี้" เด็กสาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "แล้วอาชีพคนใช้มันไม่สบายตรงไหน?" ตาลสวนกลับน้องสาวของเธอทันที "บ้านก็มีให้อยู่ ข้าวก็มีให้กิน น้ำไฟไม่ต้องจ่าย พี่ไม่เห็นว่าเราจะเดือดร้อนจนต้องกระเสือกกระสนอะไรอีกเลย" หญิงสาวพูดพลางเก็บเตารีดผ้าและเตรียมจะเอาเสื้อผ้าที่คัดแยกแล้วไปอีกห้องหนึ่งแทน "พี่ตาล... ตะวันแค่ไม่อยากเห็นพี่ทำงานนะ… (หนัก) " ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบพี่สาวก็หันกลับมามองหน้าของเธออีกครั้ง "คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายมีพระคุณต่อเรามากแค่ไหนแกรู้บ้างไหม?" "ในวันที่พ่อแม่เราเสียไป นอกจากท่านทั้งสองคนจะช่วยเรื่องค่าทำศพแล้ว ยังรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไร้ประโยชน์อย่างพวกเราเอาไว้ด้วย" "ตอนนั้นพี่ยังเด็กมาก ช่วยงานอะไรแทบไม่ได้เลยแต่ท่านก็ให้เงินเดือน ที่อยู่อาศัย ส่วนแกที่เป็นเพียงแค่เด็กทารกหัดคลานท่านจึงให้พวกป้า ๆ แม่บ้านช่วยเลี้ยงดูจนเติบโตมาได้ ค่านม ค่าแพมเพิส ค่าหมอ ค่ายา ท่านไม่เคยทวงบุญคุณกับเราเลยสักบาทเดียว" ตาลพูดย้ำถึงบุญคุณพวกเจ้านาย เนื่องจากกลัวน้องสาวของเธอจะลืมกำพืดว่าตัวเองมีทุกวันนี้ได้เพราะใคร "สำหรับพี่ ถ้าแกอยากจะเรียนสูง ๆ เพื่อที่ดีดตัวเองออกไปจากที่นี่ ก็ไปคนเดียวเถอะนะ" พูดจบจึงหยิบเสื้อผ้าของเจ้านายที่รีดเสร็จแล้วมาถือไว้ "เพราะสำหรับพี่แล้ว ต่อให้ต้องเป็นคนใช้บ้านนี้ไปทั้งชาติ พี่ก็ยังไม่รู้จะทดแทนบุญคุณพวกท่านได้หมดรึเปล่า" เธอเอ่ยทิ้งท้าย "พี่ตาล ตะวันไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ" ตะวันยังไม่ทันจะเอ่ยอธิบายอะไร พี่สาวของเธอก็เลือกที่จะเดินออกไปจากห้องทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น และที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะอารมณ์กันมากกว่านี้ นับวันทั้งสองพี่น้องก็ยิ่งคุยกันได้น้อยลง ยิ่งตะวันโตมากขึ้น เธอก็ยิ่งเห็นแตกต่างจากตาลไปเสียทุกเรื่อง ปัง!! เมื่อเสียงประตูห้องพักปิดลง เด็กสาววัย 16 ปียืนกำเงินในมือเอาไว้แน่น เธอซับน้ำตาตัวเองแบบลวก ๆ แม้จะไม่อยากร้องไห้ แต่มันก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ "หนูก็แค่ไม่อยากให้พี่ต้องทำงานหนักแบบนี้" เด็กน้อยน้ำตาไหลอาบสองแก้ม "หนูอยากให้พี่สบายกว่านี้ก็เท่านั้นเอง" เธอปาดน้ำตาของตัวเองที่มันไหลออกมาไม่หยุดเลยหลังจากนั้น "การที่หนูอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้ มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ?" ตะวันมองไปที่หนังสือเรียนกองโตที่เธอนั่งอ่านและฝึกทำแบบฝึกหัดแทบจะทุกคืน ถึงเธอจะหัวช้าไปบ้าง แต่ก็เอาความขยันเข้าสู้มาโดยตลอด ความฝันเดียวในตอนนี้ของเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง คือการได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย รีบเรียนให้จบแล้วหางานดี ๆ ทำเลี้ยงดูตัวเองและพี่สาวได้ก็เท่านั้น อีกฝ่ายทำงานที่นี่มาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป พี่ตาลถือเป็นแม่บ้านประจำที่คุณผู้หญิงไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดคนหนึ่งเลย เธอเป็นคนที่ต้ังใจทำงานมาก ๆ ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานบ้านทุกอย่าง จนบางทีแทบไม่ได้พักเลย พี่ตาลไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเอง ทั้งไม่ยอมหยุดงานแม้แต่วันเดียว แม้จะมีวันหยุดก็ตาม ตะวันตัดสินใจคืนเงิน 2,000 บาทใส่กระเป๋าสตางค์ของพี่สาวเธอไป เพราะคำพูดนั้นมันก็ทำให้เธอไม่กล้าจะไปเรียนพิเศษแล้วแหละ สาวน้อยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อหยุดร้องไห้และรีบอาบน้ำเตรียมตัวกลับมานั่งอ่านหนังสือต่อทันที ความที่เธอไม่ได้เงินเหลือมากพอจะเรียนพิเศษเหมือนกับคนอื่น ๆ ทำให้ต้องอ่านหนังสือและทบทวนให้ได้มากกว่าคู่แข่งจากทั่วประเทศ เพื่อเตรียมสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย RUNWAY’ S PART บนรถ หลังจากที่พิต้าลงจากรถและเดินตรงไปยังคลินิกนั้น ซึ่งมันก็คือคลินิกทำแท้งเถื่อนที่รันเวย์โทรมานัดกับหมอเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงไม่กี่นาทีก่อนจะขับรถมาถึง สายตาคมกริบจ้องตามแผ่นหลังของผู้หญิงแพศยาคนนั้น สองมือกำพวงมาลัยรถเอาไว้แน่น ปลายเท้าแตะที่คันเร่งก่อนจะกระทืบเหยียบซ้ำ ๆ จนมิด ทว่ารถสุดหรูมันยังคงไม่ขยับไปไหนเพราะว่าเขาได้ดับเครื่องยนต์นานแล้ว "ถ้าฆ่าคนตายแล้วไม่ผิด มึงจะเป็นคนแรกเลยที่กูจะทำ" รันเวย์กัดฟันมองพิต้าด้วยความแค้นใจและไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงต่อจากนี้ดี ที่ชายหนุ่มเริ่มลนลานก็เพราะกลัวว่าแฟนจะรู้เรื่องอีกฝ่ายเข้าสักวัน แน่นอนว่าคนที่แสนดีอย่างหนึ่ง ถ้าเธอรู้ว่ารันไปทำคนอื่นท้องต้องรับไม่ได้แล้วบอกเลิกกันแน่ ๆ ซึ่งมันจะเป็นแบบนั้นไม่ได้! "โธ่เว้ย ๆ ๆ ๆ" เขากระแทกหัวตัวเองเข้ากับพวงมาลัยรถซ้ำ ๆ เพื่อระบายความเครียดหลังหาทางออกไม่ได้เลย ชีวิตรัก 7 ปีจะมาพังเพราะผู้หญิงแพศยาอย่างพิต้าไม่ได้!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD