ต้องรักตัดสินใจที่จะหยิบผ้าบาติกผืนสี่เหลี่ยมผืนกว้าง ที่เธอตั้งใจว่าจะเอามาผูกเอว เดินเลียบชายหาด ชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน หากแต่วันนี้เธอเลือกที่จะนำมันมาประยุกต์เป็นเดรส เพราะความตัวเล็กทำให้เธอได้เปรียบ หญิงสาวกางผ้าออกพันรอบตัวและโค้งกลับไปผูกปมไขว้โชว์แผ่นหลัง ทิ้งขอบชายของผ้าสั้นเหนือหัวเข่า โดยข้างในสวมกางเกงขาสั้นเอาไว้
ต้องรักยิ้มให้ตัวเองกับหน้ากระจกอย่างพอใจ หยิบแว่นกันแดดมาเสียบไว้ที่ผม จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์เดินกรีดกรายลงมาด้านล่าง
หญิงสาวเลือกที่จะเดินไปนั่งบนเตียงผ้าใบริมหาด สั่งมะพร้าวน้ำหอมเย็นๆ มาจิบ มือเล็กของเธอเลื่อนหยิบแว่นที่เสียบอยู่บนเรือนผมลงมาปิดเปลือกตาเอาไว้ และทิ้งตัวลงนอนบนเตียงผ้าใบ มองพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ในขณะที่ลมพัดเย็นสบายกำลังดีใต้ทิวมะพร้าวที่ทอดยาวตามริมหาด
“ชุดแบบนี้มันเหมาะกับเด็กอย่างเธอหรือไง” เสียงคุ้นหูทักขึ้นมาในขณะที่หญิงสาวกำลังจะเคลิ้มหลับ
ต้องรักยกมือถอดแว่นออกและดันตัวลุกขึ้นจากที่นั่งหันกลับไปเงยหน้ามองคนพูดที่ยืนห่างจากเตียงผ้าใบของเธอไม่ไกล
“เจ้าของรีสอร์ทต้องมาตามจิกแขวะลูกค้าทุกคนเลยหรือไงกัน” หญิงสาวค้อนกลับอย่าหงุดหงิด คำว่าเด็กของเขาเหมือนมีดที่คอยกรีดแทงหัวใจของเธอให้เป็นแผลเหวอะหวะ ถ้าเป็นคนอื่นพูดเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจมากขณะนี้มาก่อน ตอนนี้หญิงสาวก็ไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองเหมือนกัน
“เธอต้องการอะไรกันแน่” ชายหนุ่มถามย้ำอีกประโยค
“คุณหมายถึงเรื่องอะไรล่ะ”
“ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ป่านนี้ผู้ปกครองเป็นห่วงแย่แล้ว”
“เข้าใจว่าที่นี่เป็นรีสอร์ทและกระบี่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยว ฉันกำลังคิดว่า...ฉันเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า” ชายหนุ่มอึ้งไปกับคำยอกย้อนของเธอ
“ถึงจะเป็นรีสอร์ทและที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ฉันก็ไม่สนับสนุนให้เด็กใจแตก”
“เอาเป็นว่าฉันมาพักผ่อนใช้เงินของตัวเอง จัดการชีวิตตัวเองได้ และที่สำคัญฉันไม่ได้พิศวาสคุณอย่างที่คุณเข้าใจ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันก็บอกไปแล้วว่าฉันต้องการช่วยเท่านั้น” หญิงสาวบอกยาวอย่าหงุดหงิด แม้ประโยคท้ายๆ จะไม่ใช่ความจริง จากนั้นเธอก็เลื่อนแว่นกันแดดขึ้นมาปิดบังดวงตาและทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม
“นี่เธอ” ชายหนุ่มทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ อยากจับเด็กดื้อตรงหน้าตีก้น
“ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าคุณบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเย็นนี้ ค่อยลดความเป็นส่วนตัวลงบ้างก็ได้” หญิงสาวบอกทั้งที่ยังไม่เปิดเปิดตาขึ้นมอง
ชายหนุ่มส่ายหน้าอมยิ้มขำให้กับมุขหลอกกินตื้นๆ ของเธอ ทั้งที่บอกตัวเองว่าไม่ชอบ แต่เขากลับอยากตอแยกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่อย่างนั้น
“หากินง่ายไปนะ” ชายหนุ่มเยาะเบาๆ ล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับใช้ขาอีกข้างของตัวเองเกลี่ยไปบนพื้นทรายเบาๆ
“ฉันก็ไม่ได้บังคับให้ใครเลี้ยงสักหน่อย ถ้าไม่รับข้อเสนอก็เชิญออกไปจากตรงนี้ ก็ไม่แน่...หลังจากคุณเดินออกไปอาจจะมีคนเสนอตัวมาเลี้ยงฉันก็ได้”
“แก่แดด! ทำตัวแบบนี้จะให้คนอื่นเขาคิดว่าเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน” ชายหนุ่มบอกอย่างเข่นเขี้ยว เมื่อเห็นการแต่งตัวของเธอตอนนี้เขาก็อยากจับเธอไปเปลี่ยนชุดใหม่
“ก็แบบที่ฉันเป็นนั่นแหละ ว่าแต่เมื่อไหร่คุณจะไปสักที มายืนกั๊กอื่นอยู่ได้”
“อยากกินอะไรล่ะ ตัวแค่นี้จะกินสักเท่าไหร่เชียว แล้วก็ลุกไปเปลี่ยนชุดใหม่ได้แล้ว” ชายหนุ่มบอกเป็นเชิงสั่ง หญิงสาวรีบถอดแว่นและลุกขึ้นนั่งเงยหน้ามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“พูดแบบนี้แสดงว่าหวงใช่ป่ะ”
ชายหนุ่มใช้มือหนาของตัวเองยีศีรษะของหญิงสาวแรงๆ ก่อนจะผลักออกเบาๆ “ยัยเด็กแก่แดดเอ้ย!”
“แล้วหวงใช่มั้ย” หญิงสาวยังเย้าต่อ เธอจับอาการอายจากสีหน้าของชายหนุ่มได้ ใบหน้าของเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ชายหนุ่มทำหน้าดุกลบเกลื่อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นข้างในของตัวเอง เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรกับผู้หญิงตรงหน้ากันแน่ บางทีก็อาจจะแค่สงสารผู้ปกครองของเธอ
“ลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้มขึ้นพร้อมกับคว้าข้อมือของหญิงสาวและฉุดให้เธอลุกขึ้นลากเดินเข้าไปด้านใน
“เราจะไปดินเนอร์ที่ไหนกันดี ร้านหรูหรือเปล่า ฉันต้องแต่งตัวแบบไหน จริงๆ แล้วฉันชอบอาหารอิตาเลี่ยนมากที่สุดนะ” หญิงสาวบอกตามหลัง ในขณะที่มือของเธอยังถูกมือหนาของเขากุมเอาไว้และขาก็ต้องรีบก้าวตามแรงฉุดลากของชายหนุ่มไป
ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าและหันกลับมามองคนพูดเสียงเจื้อยแจ้วตามหลัง ในขณะที่หญิงสาวที่เดินตามหลังเบรคไม่ทันเดินชนกับหน้าอกของเขาโครมใหญ่ มือหนาอีกข้างของเขายกขึ้นโอบแผ่นหลังของเธอเอาไว้อย่างอัตโนมัติ ในขณะที่มืออีกข้างยังจับมือสาวเอาไว้แน่น ทันทีที่หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนชนก็สบตากับดวงตาคู่คมของเขาจ้องมาอยู่ก่อนหน้า
เขาปล่อยมือจากข้อมือของเธอและยกมือหนาเขกหน้าผากของเธอเบาๆ
“ไม่มีดินเนอร์หรูหรา ไม่มีอาหารอิตาเลี่ยน แล้วก็ไม่ต้องแต่งตัวดีเลิศหรู ที่สำคัญไม่ต้องแต่งตัวโป๊แบบนี้อีก”
หญิงสาวทำปากจู๋อย่างแสนงอน “อ้าว! ไหนคุณบอกว่าคุณจะเลี้ยงข้าว”
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าฉันจะไม่เลี้ยงข้าวเธอ แต่กำลังจะบอกว่าฉันจะเป็นคนทำอาหารเลี้ยงเธอเอง” คำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ ใจชื้นขึ้นมาบ้าง แม้ไม่ได้ดินเนอร์หรูกับเขาในร้านอาหาร เปลี่ยนเป็นเก็บภาพการทำอาหารสองคนกุ๊กกิ๊กในครัวก็ไม่เลวนะ
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็รีบเสนอตัวเข้าไปช่วยเขาในครัว ทั้งที่ครัวเป็นเขตหวงห้ามของเธอจากทุกสถาบันที่อยู่ร่วมกัน ทั้งที่บ้านและเพื่อนที่ทำงาน จะไม่มีใครยอมให้หญิงสาวเข้าครัวเด็ดขาด
“งั้นฉันช่วย”
“ไม่เอาหรอกเกะกะเด็ก” ชายหนุ่มตอบกลับทันที
หญิงสาวย่นหน้าอย่างไม่พอใจ “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก” เธอเดินออกไปก่อนอย่างแสนงอน พรางบ่นพึมพำแต่ระดับเสียงก็ดังมากพอที่จะทำให้คนข้างหลังได้ยินชัดเจน “ฉันแค่กลัวว่าคุณจะวางยาในอาหารต่างหากล่ะ ดูคุณเกลียดฉันจะตายไป อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ ถ้าจะเลี้ยงจริง ทำเสร็จแล้วก็ช่วยให้คนยกขึ้นไปให้ที่ห้องแล้วกัน”
ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆ เดินไปดักหน้าคนแสนงอน
“นี่งอนเหรอ...”
“เปล่า” หญิงสาวบอกด้วยใบหน้าราบเรียบไม่ต่างจากน้ำเสียง เบี่ยงตัวหลบจากชายหนุ่มและเดินไปอีกทาง
“โอเคๆ ให้ช่วยก็ได้” ชายหนุ่มบอกตามหลัง
หญิงสาวแอบซ่อนยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจในผลงานของตัวเอง อย่างน้อยการทำงานในสถานีโทรทัศน์ก็ช่วยในเรื่องแอคติ้งของเธอได้อย่างดี จากที่เธอแอบจำมากับนักแสดงในช่องหลายคน
แต่หญิงสาวหันกลับมาตอบชายหนุ่มอีกอย่าง ไว้ท่าดึงคุณค่าของตัวเองให้สูงขึ้น “ไม่เอาล่ะ ขี้เกียจ เบื่อคนแก่ ข้าวมื้อเดียวสั่งที่รีสอร์ทขึ้นไปกินบนห้องดีกว่า ไม่อยากให้ใครต้องมานั่งลำเลิกบุญคุณทีหลัง”
“เธอว่าใครแก่!”
“ก็คนที่เรียกฉันว่าเด็กนั่นแหละ คงอยากเป็นคนแก่เหมือนกันถึงได้ยัดเยียดความเป็นเด็กให้คนอื่นอยู่ร่ำไป”
“ฉันขี้เกียจเถียงเธอแล้วล่ะ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับฉุดข้อมือเล็กของเธอให้เดินกลับไปที่บ้านพักของตัวเองด้านหลังของรีสอร์ท โดยที่ไม่ให้หญิงสาวเปลี่ยนชุดเหมือนอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก
“คุณจะลากฉันไปไหน” หญิงสาวขืนตัวเอาไว้และถามชายหนุ่ม
“ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารแล้ว ฉันเริ่มหิว เธออยากช่วยไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ให้ฉันเปลี่ยนชุดก่อนหรือไง” หญิงสาวออดเสียงเบาตามหลัง ทั้งที่แอบยิ้มอย่างพอใจกับผลงานการเล่นละครของตัวเอง
“ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว อยู่กับฉันสองคนคงไม่มีใครเห็น สำหรับฉัน...ชุดที่เธอสวมอยู่นี่คงไม่ทำให้ฉันเห็นอะไรมากเกินกว่าที่เห็นวันก่อน” เขามองเธอด้วยสายตาวิบวับ
“อี๋” หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาทันที แววตาของเขาทำให้เธอนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในคืนก่อน ประโยคที่ออกจากปากของเขาคงหมายถึงตอนที่ชุดของเธอเลื่อนหลุดลงในขณะที่เธอยังไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มยักคิ้วหัวเราะขำ ดึงมือของเธอให้เดินตามเข้าไปในบ้านที่อยู่ด้านหลังและหลังสุดท้ายของรีสอร์ท