แรกพบ

1661 Words
บทที่ 2 แรกพบ และถึงแม้ว่าแขกภายในร้านจะมองเห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นกันแทบจะทุกคน แต่ก็ไม่มีใครเลยสักคนที่จะรวบรวมความกล้าเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายตรงหน้า เพราะรู้ดีว่ากลุ่มอันธพาลตรงหน้านี้เป็นถึงลูกน้องของมาเฟียโหดในแถบย่านนี้ที่ขึ้นชื่อถึงความโหดร้ายมากแค่ไหน และนั่นก็ยิ่งทำให้จอแดนและพรรคพวกของเขาฮึกเหิมมากขึ้นทุกวัน เขาทะนงตัวเองว่าเป็นใหญ่เหนือทุก ๆ คน และหมายมั่นว่าจะต้องได้ทุกสิ่งที่ต้องการไม่เว้นแม้กระทั่งเธอ             “เก็บเงินสกปรก ๆ ที่ได้มาจากการรีดไถคนไม่มีทางสู้ของคุณไปเถอะ ฉันไม่ต้องการ และอีกอย่างที่คุณต้องรู้เอาไว้คือฉันไม่ได้ขายตัว” ขวัญชีวาตอกย้ำถึงสถานะที่ตัวเองกำลังยืนหยัดอยู่ออกไปในทันที รู้สึกถึงความเกลียดชังที่เธอเริ่มมีต่อคนตรงหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ครั้นพอพยายามที่จะผลักเขาออกไปให้ไกลตัวอีกฝ่ายกลับยิ่งโน้มหน้าเข้ามาหากันเรื่อย ๆ ราวกับจะแกล้งกัน และแม้ว่าตอนนี้ระหว่างเธอกับเขาจะมีเคาน์เตอร์บาร์คั่นกลางเอาไว้อยู่ แต่ท่าทีคุกคามที่เขากำลังทำอยู่นั้นก็อันตรายเกินกว่าที่เธอจะยอมอยู่เฉย ๆ ให้เขารังแกกันได้ง่าย ๆ เหมือนอย่างที่ชอบทำกับคนอื่น ๆ             “นี่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ปล่อย!” ยิ่งปากของเธอเอ่ยร้องห้ามมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งดูเหมือนจะยิ่งยั่วยุให้อีกฝ่ายได้ใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะแทนที่เขาจะยอมปล่อยกลับยิ่งจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ และจุดหมายปลายทางของมันนั้นก็ไม่ใช่ที่ไหนนอกจากริมฝีปากที่กำลังร้องห้ามของเธอ             ขวัญชีวาไม่อาจจะทนรับสัมผัสที่หยาบคายจาบจ้วงจากผู้ชายสารเลวตรงหน้านี้ได้ง่าย ๆ เขามันน่าขยะแขยงจนหญิงสาวต้องรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีสะบัดจนตัวเองสามารถหลุดพ้น ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าที่เพิ่งจะชงเสร็จใหม่ ๆ สาดเข้าที่ใบหน้าของเขาเต็มแรง             ความเงียบที่น่าอึดอัดแพร่กระจายไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว จนหญิงสาวได้ยินเสียงกรีดร้องของใครสักคนภายในร้านได้อย่างชัดเจน       และสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมานั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากจะให้มันเกิดขึ้นเลยจริง ๆ ทั้งหมดนั้นมันเป็นเพราะเขาเป็นฝ่ายเริ่มที่จะคุกคามกันก่อน หนำซ้ำยังไม่มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วย เธอจึงต้องหยุดเขาด้วยตัวของเธอเอง และใครเลยจะคิดว่าสิ่งที่หัวหน้าแก๊งอันธพาลตรงหน้านี้จะทำต่อจากนี้มันคืออะไรกันแน่             “กล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้หานังบ้า!” คนถูกกระทำที่เงียบนิ่งไปนานตวาดดังลั่นด้วยอารมณ์คุกรุ่นได้ที่ ก่อนจะเงื้อมมือสุดกำลังเตรียมจะฟาดมันลงบนหน้าหวานเพื่อเอาคืนนังตัวดีตรงหน้าให้ได้สำนึก             ขวัญชีวาผวาด้วยความตกใจ ครั้นจะถอยหนีก็ไม่ทันการ เธอจึงหลับตานิ่งรอฝ่ามือหนัก ๆ ที่กำลังตวัดลงมาใกล้ด้วยความกลัวสุดขีด ทว่าทุก ๆ อย่างกลับเงียบนิ่งไปเสียเฉย ๆ ความเจ็บปวดที่น่าจะเกิดขึ้นจากการถูกมนุษย์ใจทรามที่ซึ่งไม่เคยมีคำว่า ‘จิตใต้สำนึกที่ดีงาม’ ให้ได้เห็นเลยสักครั้งตวัดตบก็ไม่มีให้ได้สัมผัสเลยแม้แต่น้อยนิด             และนั่นจึงเป็นเหตุทำให้หญิงสาวรวบรวมความกล้าค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะโล่งใจอย่างถึงที่สุดเมื่อพบเข้ากับเอ็ดเวิร์ด การ์ดหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันประจำร้านที่กำลังกำข้อมือของจอแดนเอาไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว อีกทั้งยังจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน             “ปล่อยฉัน! นี่แกกล้าดียังไง ไม่รู้เหรอว่าพวกฉันเป็นคนของใคร” จอแดนตวาดขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะไม่คิดว่าจะมีใครสักคนในร้านกล้าเสี่ยงเข้ามาช่วย แม้ว่าอีกฝ่ายจะตัวโตกว่า และดูน่ากลัวกว่า แต่อย่างไรก็ยังฝืนตัวเองอวดเก่งต่อไป             “คุณจะเป็นคนของใครหรือยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ช่าง แต่ ณ เวลานี้ผมเป็นการ์ดของที่นี่ และคุณกับพรรคพวกของคุณก็กำลังสร้างความรำคาญใจให้แก่ลูกค้าภายในร้านของเราเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเลือกมาสิครับคุณลูกค้า ว่าคุณกับพรรคพวกของคุณจะยอมเดินออกไปจากร้านของเราด้วยขาทั้งสองข้างดี ๆ หรือว่าจะให้ผมเป็นฝ่ายลากคอคุณกับพวกของคุณทุกคนออกไปด้วยตัวเอง” เอ็ดเวิร์ด พันเลอร์ หัวหน้าการ์ดของร้าน อีกทั้งยังเป็นถึงอดีตนายทหารอเมริกันชื่อดัง ที่ตอนนี้นั้นปลดประจำการมาได้สามปีกว่ากำราบขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เอาจริงเอาจังเสียจนอีกฝ่ายยังรู้สึกกลัวขึ้นมา             แววตาของเขาดุดันแข็งกร้าวและไม่ได้มีท่าทีที่จะหวาดกลัวคนตรงหน้าของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งอีกฝ่ายกำลังทำท่าว่าจะทำร้ายผู้หญิงด้วยแล้วเขาก็ยิ่งทนดูอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เข้าไปกันใหญ่ และมันคงไม่ใช่นิสัยของเขาแน่ ๆ ที่จะมองเลยผ่านเรื่องแบบนี้ไป      โดยไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดพวกมัน             “นี่แก!”             “หรือพวกคุณจะให้ผมเป็นคนเลือก” คำพูดที่เรียบเฉยแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยมารยาทให้ได้เห็นบ้าง เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนอกเสียจากระงับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของแขกนิสัยเสีย ซึ่งนั่นตามกฏของร้านแล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะโยนคนพวกนี้ออกไปได้ทุกเมื่อ             สิ่งที่การ์ดตัวโตกระทำลงไปนั้นดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้จอแดนกับพรรคพวกทวีความไม่พอใจอย่างหนัก แต่ครั้นจะพากันกรูเข้าไปหาอีกฝ่ายนั้นก็กลับมีการ์ดคนอื่น ๆ อีกสี่คนเดินเข้ามาประชิดตัวเข้าซะก่อน ทำให้คนทั้งหมดชะงักค้างไปนานก่อนหัวโจกจะเป็นฝ่ายตวาดขึ้นเมื่อเห็นดีแล้วว่าตนเองและพวกสู้การ์ดของร้านไมได้แน่ ๆ             “ฝากเอาไว้ก่อนเถอะโรส พวกแกเองก็ด้วย ระวังตัวเอาไว้ให้ดี ๆ เรื่องวันนี้มันไม่มีทางจบง่าย ๆ แน่ ไป! พวกเราถอย” สิ้นเสียงที่ดังก้องไปทั่วร้านทั้งหมดก็พากันเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว             คนที่เพิ่งจะถูกคาดโทษเอาไว้หมาด ๆ ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้อัศวินที่แสนจะมีน้ำใจตรงหน้าในทันทีที่คนพวกนั้นเดินออกไป             “ขอบคุณมากนะคะเอ็ดเวิร์ด ถ้าไม่ได้คุณกับพวกเข้ามาช่วยฉันเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าพวกนั้นจะทำอะไรบ้าง” หญิงสาวเอ่ยปากขอบคุณคนตรงหน้าจากใจจริง อย่างน้อย ๆ สถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนแล้งน้ำใจนี้ก็ยังพอจะมีคนดี ๆ ให้เธอมีโอกาสได้สัมผัสอยู่บ้าง    อย่างน้อย ๆ ก็คนตรงหน้านี้แล้วหนึ่งคน             “ผมก็แค่ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น ว่าแต่พวกมันต้องไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่ คุณต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะครับ ถ้ายังไงคืนนี้ให้ผมไปส่งที่พักก็ได้เอาไหมา” อีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจอะไรในความขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่น เขายังคงคิดและพยายามหาทางช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น จะเอาพละกำลังที่ไหนสู้รบตบมือกับพวกมาเฟียเจ้าถิ่นพวกนั้นได้             เพราะไม่ว่ายังไงสุดท้ายแล้วคนที่กล้าเข้าไปมีเรื่องกับพวกมัน     หากไม่ตายบางรายก็อาจจะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย             “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้ฉันก็ไม่รู้จะขอบคุณพวกคุณยังไงแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ ที่พักของฉันก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น” แม้ใจจะยังรู้สึกเป็นห่วงบาร์เทนเดอร์สาวอยู่ไม่น้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนกรานกลับมาเช่นนั้นเขาก็ต้องยอมรับมันอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งหมดอยู่พูดคุยกันไม่นานก็พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองตามเดิม จะมีก็แต่ขวัญชีวาที่ได้แต่นิ่งอยู่กับที่ ภายในหัวเต็มไปด้วยคำพูดสุดท้ายของเอ็ดเวิร์ด             มันจริงอย่างที่เขาว่ามาทั้งหมด จอแดนที่มีดีกรีเป็นถึงลูกน้องของมาเฟียเจ้าถิ่นคงไม่มีทางตัดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ไปง่าย ๆ แน่ เขาที่ถูกเธอหักหน้าต่อหน้าคนทั้งร้านจะต้องหาทางเอาคืนเธอเมื่อมีโอกาส แต่จะด้วยวิธีไหนนั้นหญิงสาวไม่อยากจะคิดถึงมันเลย             “เฮ้อ! ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้นะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ายังมีสายตาของใครบางคนกำลังจ้องมองมาอยู่ ใครบางคนที่นั่งดื่มวิสกี้อ่อน ๆ อยู่ที่โต๊ะริมสุดของร้าน ใครบางคนที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรกเริ่ม และเขาคงได้กลายเป็นอัศวินของหล่อนไปแล้วหากการ์ดตัวโตคนนั้น   ไม่เดินเข้ามาแย่งบทบาทที่ว่านั้นไปครองเข้าซะก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD