ตอนที่6 เทศกาลอาหาร
ยามโหย่ว (17.00 – 18.59 น) รถม้าของจวนแม่ทัพจอดอยู่หน้าจวนหรูขนาดใหญ่ร่างหนาแต่งตัวสบายๆ ไม่ได้เจ้ายศ หรูฟางเหนียงแต่งตัวด้วยชุดสีเหลืองตัดเขียวเกล้าผมยกสูงเพราะออกเรือนแล้ว ใบหน้าของหญิงสาวแต่งหน้าอ่อน ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากเรือนเพราะมีนัดกับสามีจะไปเทศกาลอาหารเป็นเพื่อนกันยามค่ำคืนนี้
"คารวะท่านพี่เจ้าค่ะ รอนานไหมเจ้าคะ"
"เพิ่งมาเช่นกัน ไปกันเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
รถม้าจวนแม่ทัพแล่นไปตามทางอย่างรวดเร็วไม่นานก็มาถึงถนนที่มีการจัดงานเทศกาลอาหาร รอบทางเต็มไปด้วยโคมไฟส่องสว่าง ทั่วทั้งถนนเต็มไปด้วย ผู้คนมากมาย ทั้งหนุ่มสาว ครอบครัวชาวบ้านต่างเดินเล่นกันอย่างมีความสุข สองร่างมาถึงก็ลงไปเดินเล่นทันที ให้สาวใช้และองครักษ์เดินตามห่าง ๆ
"ถังหูลู่อร่อย ๆ จ้า"
"ขนมเปี๊ยะหลากไส้ เชิญ ๆ"
"เกาลัดคั่วร้อน ๆ ขอรับนายท่าน"
"ถุงหอมขับไล่สิ่งไม่ดี" เสียงตะโกนของเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามากมายดังเต็มไปหมด หรูฟางเหนียงไม่เคยพบกับเทศกาลแบบนี้มาก่อน เพราะนางนั้นอยู่แต่กับบ้านเสียส่วนมาก วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตานัก สิ่งของมากมายบ้างเคยรู้จักแต่ส่วนมากก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ไปกันเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
ร่างหนาชวนหญิงสาวที่ยืนมองเทศกาลอย่างตื่นเต้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับจูงหญิงสาวอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับทำให้คนตัวเล็กใจเต้นระรัวเหมือนกลองศึก
ตึก ตึก ตึก
"เจ้ามีอะไรที่อยากได้หรือไม่"
"ไม่เจ้าค่ะ"
"อืม"
"นายท่านซื้อดอกไม้แห้งให้ภรรยา นางต้องดีใจแน่ ๆ"
"นายท่านนี่คือต่างหูจากกลุ่มชาวบ้าน ซื้อไปฝากภรรยารับรองนางจะต้องรักท่านขึ้นเป็นกอง"
"นายท่านขนมนี่อร่อย ผู้หญิงต่างชอบ"
"นายท่าน......."
"นายท่าน......."
ข้าวของมากมายที่หรูฟางเหนียงแค่ยืนดูหรือสัมผัส ร่างหนาไม่รอช้าซื้อเอา ๆ จนของที่องครักษ์ถือนั้นเต็มมือทั้งสองข้างไปหมด เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่เห็นร่างหนาเอาใจหญิงสาวข้าง ๆ ก็เริ่มยกยออะไรที่ว่าดีต่อหญิงสาว ร่างหนาก็ซื้อหมดทันที ทำให้ร่างบางยืนตะลึงกับข้าวของอันมากมายที่ชายหนุ่มซื้อให้ตนเอง ก่อนจะเอ่ยเตือน….ร่างหนาเป็นนัย ๆ ว่ามันเยอะเกินไป
"ท่านพี่พอแล้วเจ้าค่ะ"
"ก็ได้"
"ไปหาอะไรทานเถอะ น้องหิวแล้ว"
"อืมตามใจเจ้า"
หรูฟางเหนียงยิ้มให้บุรุษตัวโตตรงหน้าอย่างเขินอาย ก่อนจะเดินเคียงคู่ร่างหนาหาโรงเตี๊ยมเพื่อทานอาหาร สองร่างเดินไปไม่นานก็เจอกับโรงเตี๊ยมที่มีผู้คนไม่มากนัก
"ไปร้านนี้เถอะเจ้าค่ะ คนไม่เยอะมาก"
"อืม ไปกันเถอะ"
ร่างหนาเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของโรงเตี๊ยมก่อนจะสั่งอาหารขึ้นชื่อมาประมาณหกอย่าง รอไม่นานนักอาหารก็ถูกนำมาบริการ ทั้งสองคนนั่งทานกันเงียบ ๆ นั่งมองวิวช่วงค่ำของเมืองอย่างเพลิดเพลิน
"หนึ่งเดือนนี้ข้าคงไม่ได้กลับจวนบ่อย ๆ หรือไม่ได้กลับเลย"
"เจ้าค่ะท่านพี่"
"อืม" หยางไป๋หลงเลิกคิ้วอย่างสงสัย ที่สตรีตรงหน้าไม่ถามเรื่องของตนเองว่าหายไปไหน ไปทำอะไรหรือที่กุนซือบอกเกี่ยวกับนิสัยสตรีล้วนโกหก
"นี่ก็มืดค่ำแล้ว กลับจวนกันเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หรูฟางเหนียงยืนส่งสามีกลับค่ายทหารจนลับสายตา ก่อนนางจะเดินกลับไปที่เรือนของตนเองอย่างเหม่อลอย พอไม่มีอะไรให้คิดมากนักนางก็เริ่มนึกถึงเจ้าบุรุษเลวที่กล้าข่มเหงนางจนเกือบตายไปแล้ว
"ถึงเวลาแล้วกระมัง หวังตงชินเจ้าสุนัขสมควรตาย" หรูฟางเหนียงนั่งหน้ากระจกทองเหลือง ตอนนี้นางไม่ใช่เด็กสาวที่อ่อนต่อโลกคนนั้นอีกแล้ว หรูฟางเหนียงคนนั้นได้ตายไปแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงอนุของแม่ทัพ มีเงิน มีอำนาจ ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่จะล้างแค้นคนที่เคยข่มเหงนางจนเกือบตาย
"ถิงถิงไปแจ้งพ่อบ้านว่าข้าอยากไปทำบุญที่วัดบนเขาประมาณสามวัน"
"เจ้าค่ะ นายหญิง"
"ไปเถอะออกเดินทางได้เร็วจะดีมาก"
"เจ้าค่ะ"
ด้วยความที่จวนแม่ทัพไม่เคยมีบุญความแค้นกับใครทำให้พ่อบ้านจัดแค่องครักษ์สองคนคอยเดินทางไปด้วยและสาวใช้อีกสองคน รถม้าถูกเตรียมไว้อย่างดี หรูฟางเหนียงก้าวขึ้นรถม้าอย่างเงียบเชียบก่อนจะออกคำสั่งให้ไปที่ ค่ายทหารรับจ้าง แล้วจ้างทหารมือดีสี่นายคอยคุ้มกันรถ จู่ ๆ ร่างบางก็เปลี่ยนสถานที่กะทันหันจากวัดที่เคยจะไปก็แปรเปลี่ยนไปคนละทิศทำให้องครักษ์รีบส่งข่าวไปบอกพ่อบ้านทันทีโดยที่ร่างบางไม่รู้ตัว
"ไปหมู่บ้านหนิงอัน ข้าอยากจะไปทำบุญที่นั่น"
"ขอรับนายหญิง"
รถม้าเดินทางไปเรื่อยๆ ผ่านหุบเขาลำเนาไพรมากมายก่อนจะมาถึงหมู่บ้านชายแดนที่ห่างไกล รถม้าจอดหน้าวัดหนิงอันอันเงียบสงบและมีขนาดบริเวณที่เล็ก ร่างบางไม่รอช้ารีบขึ้นเขาไปสักการะพระโพธิสัตว์ ก่อนจะให้ทุกคนแยกย้ายไปพักทำธุระส่วนตัว ส่วนนางนั้นนั่งนิ่งอยู่หน้ารูปปั้นนานสองนานก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
.
.
.
"นายท่านอนุหรูนาง"
"นางอะไรหรือ"
"นางไปวัดหนิงอัน เป็นวัดที่อยู่ในหมู่บ้านที่นางเคยอาศัยอยู่ขอรับ"
"ก็ดีแล้วนิ"
"อนุหรูนาง จ้างทหารรับจ้างมือดีสี่นายด้วยขอรับ ข้าเกรงว่านางจะไปล้างแค้น"
"อืม เจ้าออกไปได้"
"ขอรับนายท่าน"
เวลาล่วงเลยถึงปลายยามอู่หลังจากที่ทุกคนพักจนหายเหนื่อยแล้ว ร่างบางก็บอกความประสงค์อยากจะลงเขาไปเที่ยวเล่นให้สาวใช้ถิงถิงติดตามไป และนายทหารรับจ้างทั้งสี่ติดตามอยู่ห่าง ๆ ส่วนคนที่เหลือให้อยู่บนเขาช่วยเจ้าอารามวัดทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ
"นายหญิงทำไมต้องใส่หมวกบดบังใบหน้าด้วยเล่า"
"ก็แค่อยากใส่น่ะอย่าถามให้มากความ"
"บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ"
หรูฟางเหนียงเดินไปที่ตลาดของหมู่บ้านที่มีร้านค้าไม่กี่ร้านก่อนจะตั้งใจ นั่งทานร้านบะหมี่ที่ครอบครัวหวังชอบมาทานเป็นประจำ แต่ไม่เคยจะพานางมาด้วย เดินไปไม่นานก็เจอเข้ากับคู่แค้นของนางอย่างหวังตงชินที่มาพร้อมอนุทั้งสามคนอย่างออกหน้าออกตา
"ดูท่าสวรรค์จะเข้าข้างข้ากระมัง"
หรูฟางเหนียงแต่งกายงดงามเสื้อผ้ามีกลิ่นหอมยิ่งสวมหมวกก็ยิ่งลึกลับ ไม่พ้นหวังตงชินอยากจะได้สาวงามมาครอบครอง เพราะคิดว่าตนเองนั้นเป็นคนมีเงินสามารถทำอะไรก็ได้ ก่อนจะตั้งใจเดินตามหญิงสาวที่งดงามตรงหน้าอย่างโจ่งแจ้งก่อนจะพูดจาอย่างเจ้าชู้ใส่
"แม่นางไม่ทราบท่านชื่ออะไร"
"ข้าหวังตงชิน ข้ามีเงิน มีทองมากมาย"
"แล้วอย่างไรหรือ" หรูฟางเหนียงเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา
"ก็อยากจะจับเจ้าไปเป็นสาวบำเรอไง"