ไพลินขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียวตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของเธอเลยสักอย่าง แต่หากจะลงไปตอนนี้ก็กลัวว่าจะต้องเจอเสือแน่นอน
"คุณหนูคะ คุณเสือให้มาตามไปทานข้าวค่ะ" แจ่มจันทร์ที่ได้รับคำสั่งจากเสือมาอีกที ก็รีบมาตามคุณหนูของเธอด้วยความเป็นห่วง
“หนูไม่หิวค่ะ”
“แต่คุณหนูยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าเลยนะคะ”
“...”
“งั้นป้ายกขึ้นมาให้แล้วกันนะคะ”
แจ่มจันทร์เดินลงมาข้างล่างด้วยสีหน้าไม่สู้ดี พลางทำหน้าไม่พอใจใส่เจ้านายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่โต๊ะอาหาร
“ไพลินล่ะครับ”
“เธอบอกว่าไม่หิวค่ะ เดี๋ยวป้าจะเอาขึ้นไปให้เธอบนห้อง”
“ไม่ต้องครับ ไม่หิวก็ไม่ต้องกิน”
“แต่…”
“ป้ากลับไปพักได้แล้วครับ” ต่อให้อยากจะขัดคำสั่งขนาดไหน แต่แจ่มจันทร์ก็ต้องยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอกและกลับไปบ้านพักของตัวเอง
ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารหลังจากที่แจ่มจันทร์ออกไป มุ่งตรงไปยังห้องนอนบริเวณริมซ้ายของบ้าน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ลงมากินข้าว”เสือเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ
“...”
“ถ้าไม่ออกมา พี่จะโทรไปบอกคุณน้าคุณอา”
“อย่ามายุ่ง!”ไพลินไม่ชอบใจนักที่เขามักจะเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่เธอเสมอ แต่คราวนี้เธอจะไม่ยอมทำตามรคำสั่งของเขาอีกต่อไป ฟ้องพ่อแม่แล้วจะทำอะไรเธอได้ พ่อแม่ของเธอก็แค่ปล่อยเธอไว้ที่นี่ต่อไปเท่านั้นเอง
“ออกมานะไพลิน”
“ไม่”
“ได้” สิ้นเสียงตอบรับของเสือ ทุกอย่างก็เงียบลงจนไพลินคิดว่าเขาคงขี้เกียจบังคับเธอและกลับห้องไปแล้ว แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเมื่อจู่ๆกลอนประตูห้องที่เธอล็อกเอาไว้จากด้านในเหมือนจะถูกไขออกจากด้านนอก
“ไพลิน”เสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามา
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
“ลงไปกินข้าว” ชายหนุ่มรีบข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ ไม่ให้เผลอโมโหใส่อีกฝ่ายเพราะความเป็นห่วง
“ออกไป”
“จะเดินลงไปดีๆ หรือจะให้พี่โมโหเธอก่อน”
“เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม” เธอคิดตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่แล้ว ว่ายังไงจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ก็เพราะเสือเป็นแบบนี้ตลอด เธอเลยไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่
“...” จู่ๆทุกอย่างรอบตัวก็เงียบลงหลังจากที่ไพลินพูดประโยคนั้นจบ ทั้งสองยังคงอยู่ในห้อง เพียงแต่ไม่มีใครพูดอะไรหลังจากนั้น
เสือมองดูหญิงสาวที่ยังคงดื้อดึงเพราะยังคงโกรธเขาอยู่ แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองก็มีส่วนผิดหรือในสายตาของไพลิน เขาอาจจะเป็นคนผิดเต็มๆ
ร่างสูงเดินเข้าไปถึงตัวของหญิงสาวก่อนจะฉวยโอกาสช้อนคนตัวเล็กขึ้นโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวทัน
“ปล่อย มาอุ้มฉันทำไม”
“ไปกินข้าวไง” เขาเอ่ยตอบ พลางทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่หญิงสาวที่กำลังพยายามจะดิ้นหนีแต่ก็กลัวจะร่วงตก ส่วนสูงของเขาก็ราวๆร้อยแปดสิบห้า ถ้าร่วงตกก็น่าจะเจ็บอยู่เหมือนกัน
ไพลินนั่งอีกฝั่งของโต๊ะอาหารตรงข้ามกับเสือ ทว่าความรู้สึกหลายอย่างในใจของเธอถูกถ่ายทอดออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่ายแทน
"พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานเองในไร่ เพราะฉันมีเคสผ่าตัดวันพรุ่งนี้ อาจจะกลับมาช่วงดึกๆ" เสือเอ่ยขึ้นระหว่างที่ต่างฝ่ายต่างกำลังทานอาหารมื้อเย็น ไพลินตอบรับด้วยการพยักหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดหรือเถียงอะไรอย่างที่เขาคิดเอาไว้เลย
การทานอาหารด้วยกันในรอบหลายปีระหว่างทั้งสองคน ผ่านพ้นไปด้วยความเงียบเฉียบ ถ้าหากใครมาเห็นเขาก็คงจะดูออกหมดว่าทั้งสองกำลังมีเรื่องบางอย่างที่กำลังผิดใจกันอยู่
"พรุ่งนี้เธอต้องไปดูบัญชีของไร่ จากนั้นเช็คของที่ต้องสั่งซื้อเพิ่ม และจำนวนปุ๋ยที่เหลืออยู่" เขาอธิบายงานที่หญิงสาวจะต้องทำในวันพรุ่งนี้ทั้งหมด ก่อนจะเป็นฝ่ายเก็บถ้วยจานไปล้างเอง
ไพลินรีบแยกตัวกลับมาที่ห้องทันที เพราะไม่อยากจะมองหน้าเขาแล้วเกิดความขุ่นเคืองใจขึ้นมาอีก พอได้ฟังงานที่เขาบอกแล้ว ก็ถือว่าไม่คณามือสักเท่าไหร่…
วันต่อมา
ไพลินตื่นนอนแต่เช้าเพื่อเข้างานให้ทันก่อนแปดโมงเหมือนกับคนงาน อาหารเช้าถูกเสิร์ฟไว้บนโต๊ะทันทีที่เธอเดินลงมา ข้าวต้มหมูส่งกลิ่นหอมกรุ่นโชยมาเตะจมูกของเธอ หน้าตาที่ดูน่ารับประทาน ทำให้เธออดไม่ไหวที่จะลิ้มลองอาหารเช้าฝีมือของแจ่มจันทร์ ที่เธอนั้นไม่ได้ลิ้มรสมานานหลายปี
"ป้าจันทร์คะ ข้าวต้มน่ากินจังเลยค่ะ"
"ป้าทำเพื่อคุณหนูโดยเฉพาะเลยนะคะ ทานเลยค่ะ ระวังร้อนด้วยนะคะ" หญิงสาวไม่รอช้ารีบตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าสองสามครั้งก่อนจะกินเข้าไป
"หืม อร่อยมากเลยค่ะป้าจันทร์"ไพลินชมแจ่มจันทร์จากใจจริง
"อร่อยก็ทานเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวป้าขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ทานเสร็จแล้วก็วางถ้วยไว้ตรงนี้แหละค่ะ เดี๋ยวป้ามาเก็บให้"
ไพลินนั่งกินข้าวต้มไปเรื่อยๆ จนหมดถ้วย ก็พบว่าใกล้เวลาทำงานแล้ว เธอจึงขี่จักรยานไปออฟฟิศซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปสามกิโล ใช้เวลาสักพักก็มาถึงออฟฟิศ ตอนนี้คนงานเข้าไปทำงานในไร่หมดแล้ว จะเหลือก็แต่แม่ครัวกับแม่บ้านอีกห้าหกคน
ไพลินเดินสำรวจโรงอาหารของคนงานและบริเวณรอบนอกอย่างเงียบๆ เพราะกลัวจะไปทำให้คนงานเสียสมาธิในการทำงาน
"นี่! แกเป็นใคร คนงานใหม่หรอ"