“คืนดีกันนะ?”
“!!?” ไพลินเริ่มคุมสติไว้ไม่อยู่ พอได้ยินคำพูดที่เคยคาดหวังเอาไว้ ก็เริ่มไปไม่เป็น ความรู้สึกของเธอมันตีกันไปหมด เธอไม่รู้ว่าควรจะให้คำตอบกับเขายังไงดี
“ถ้ายอมคืนดี พี่จะยอมเล่าทุกอย่างที่เธออยากรู้”
“ฉัน…”
“...”
“ฉันเชื่อใจพี่… ได้จริงๆเหรอ?” คำถามของไพลิน ทำให้เสือไปต่อไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงหนักแน่นกับความรู้สึกของตัวเอง
“เชื่อได้สิ เธอเชื่อใจพี่ได้เสมอ” คำยืนยันจากปากของเขา ทำให้หญิงสาวเริ่มเกิดความหวังเล็กๆ ขึ้นในหัวใจ ตลอดหลายปีที่เหมือนถูกทุกคนทิ้งเอาไว้กลางทาง มันทั้งเหงาและเปล่าเปลี่ยว พอได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง เธอถึงสัมผัสได้ว่าความรู้สึกระหว่างเธอกับเขายังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย…
ใบหน้าหวานซบลงบนอกข้างซ้ายของเขา น้ำตารื้นขอบตาพลันไหลออกมาในไม่ช้า ร่างเล็กสั่นเทาไปทั้งตัวก่อนจะปล่อยโฮออกมาเต็มที่ ราวกับความรู้สึกที่ถูกเก็บเอาไว้มานานหลายปีได้ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กเอาไว้ตลอดเวลาที่เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
กระทั่งไพลินร้องไห้จนเผลอหลับไปทั้งที่ยังซบอกของเขาอยู่จึงพาเธอไปนอนที่เตียง
สายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนลอบมองใบหน้าหวานที่เปื้อนคราบน้ำตา ปลายนิ้วเรียวแตะบนใบหน้าของหญิงสาวเบาๆ เขารู้สึกผิดไม่น้อยที่ปล่อยให้เธอเผชิญหน้ากับเรื่องราวร้ายๆมาตลอดหลายปี
ต่อจากนี้เขาอยากจะเป็นคนปกป้องเธอเอาไว้ เขาจะเอาคืนคนที่ทำให้ไพลินต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ให้ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเขาจะไม่อยากช่วยเหลือเธอ เพียงแต่เขาขี้ขลาดเกินกว่าที่จะเข้าไปช่วยต่างหาก
“ต่อจากนี้ พี่จะดูแลเธอเอง”
ดวงตาที่บวมทั้งสองข้างของไพลิน ทำให้เธอรู้สึกอายเล็กน้อยที่จะต้องเผชิญหน้ากับแจ่มจันทร์ เพราะอีกฝ่ายคงรู้ว่าเธอร้องไห้แน่ๆ พอตื่นขึ้นมาเสือก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว มีเพียงเธอนอนอยู่ในห้องของเขาเพียงคนเดียว จึงรีบวิ่งกลับมาที่ห้องของตัวเองก่อนที่เขาจะกลับมา
“คุณหนู เมื่อคืนร้องไห้เหรอคะ” ทันทีที่แจ่มจันทร์เห็นหน้าของไพลินก็เอ่ยขึ้นทันที เหมือนที่หญิงสาวรคิดเอาไว้ไม่มีผิด
“พอดีว่าหนูอินกับซีรี่ส์ไปหน่อยค่ะ” ไพลินบ่ายเบี่ยง
“งั้นก็โล่งอกไป นึกว่าคุณเสือทำให้คุณหนูร้องไห้ซะอีก”
“เปล่าหรอกค่ะ” แจ่มจันทร์เชื่อคำพูดของไพลินอย่างสนิทใจ ก่อนจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้กับหญิงสาวเพียงที่เดียว
สายตาของเธอกวาดมองไปทั่ว หันซ้ายที หันขวาที จนแจ่มจันทร์พอจะรู้ว่าหญิงสาวเป็นอะไร
“คุณเสือออกไปจัดการเรื่องที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
“เอ่อ… ค่ะ” ไพลินที่ถูกจับได้ก็รีบทำเป็นไม่สนใจ และตักข้าวใส่ปากกลบเกลื่อนสีหน้าของตัวเองที่เผลอหลุดออกไปก่อนหน้านี้
ตลอดทั้งวันไพลินเอาแต่เหม่อลอย ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเลยสักนิด เธอไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เสือกำลังคิดยังไงกันแน่ เขาจะเชื่อใจเธอเหมือนกับที่เธอเชื่อใจเขาหรือเปล่า แต่ถึงยังไงเธอก็ยังไม่ได้ให้คำตอบเขาเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนเลยสักนิด วันนี้ยังไงเขาก็ต้องมีทวงถามคำตอบกับเธอแน่
“ไม่ได้ๆ ฉันยังไม่พร้อมเจอนาย” ไพลินโพล่งขึ้นมา ระหว่างที่กำลังนั่งตรวจเอกสารในออฟฟิศ ก่อนจะเห็นรถยนต์ที่คุ้นเคยกำลังมุ่งหน้ามาทางออฟฟิศจึงเริ่มตื่นตระหนกทันที
“ให้ตายสิ นายนี่ตายยากชะมัด”
“คุณหนูจะไปไหนคะ”
“หนูจะไปเดินเล่นสักหน่อยค่ะ” ไพลินรีบวิ่งออกไปให้ห่างจากออฟฟิศ ก่อนจะขึ้นไปหลบอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังสวนผลไม้ที่เธอชอบมานั่งบ่อยๆ
แจ่มจันทร์งงกับไพลินตั้งแต่เช้าจนตลอดวันนี้เธอก็ยังงุนงงไม่หาย ว่าคุณหนูของเธอทำไมถึงได้เหม่อลอยและลุกลี้ลุกลนแบบนั้น กระทั่งรถยนต์มาจอดที่หน้าออฟฟิศ
คนที่แจ่มจันทร์คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณหนูของเธอแปลกๆไป เดินลงมาจากรถและตรงเข้ามาหาเธอเมื่อไม่เห็นไพลินอยู่ในออฟฟิศ
“ป้าแจ่มครับ ไพลินล่ะครับ”
“คุณเสือทำอะไรคุณหนูของป้าหรือเปล่าครับ” เสือถึงกับผงะเมื่อโดนแจ่มจันทร์ถามพลางทำน้ำเสียงดุใส่เขา
“ทำไมป้าถามผมอย่างนั้นล่ะครับ ไพลินเป็นอะไรเหรอครับ”
“ก็คุณหนูของป้าเอาแต่เหม่อลอย ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรสักอย่าง”
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณหนูของป้าเลยครับ” ชายหนุ่มยืนกรานความบริสุทธิ์ของตัวอย่างหนักแน่น แจ่มจันทร์จึงวางใจลงและบอกความจริงกับเสือไป
“คุณหนูเดินไปทางโน้นเมื่อกี้ค่ะ บอกว่าจะไปเดินเล่น”
“ขอบคุณครับ” เสือรู้ว่าตอนนี้คนตัวเล็กกำลังพยายามจะหลบหน้าเขาอยู่ แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องการคำตอบจากเธอภายในวันนี้ เรื่องทุกอย่างจะได้ไม่ค้างคาต่อไปอีก
“ไพลินๆ”
เสือตะโกนเรียกชื่อของหญิงสาว ระหว่างที่กำลังเดินตามหาเธอ
ไพลินที่หลบอยู่บนต้นไม้ก็นั่งปิดปากเงียบไม่ยอมขานรับ แม้จะได้ยินเสียงของเสือกำลังเรียกเธออยู่ กระทั่งเสียงตะโกนเรียกชื่อของเธอเงียบไปสักพัก เธอจึงกระโดดลงมาจากต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว
“หลบหน้าพี่ทำไม” ร่างสูงโผล่มาตรงหน้าเธอทันที ไพลินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวผงะถอยห่างจากเขาอัตโนมัติ