BROMISE

1436 Words
อ้อมแขนแข็งแรงวางผู้หญิงร่างเล็กบอบบางลงบนเตียงอย่างเบามือ การันผละตัวออกจากเจ้าหล่อนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะใช้แขนยันตัวเองเอาไว้ คนใต้ร่างของเขาใบหน้าแดงกล่ำแถมขาทั้งสองยังเบียดเสียดเข้าหากันอย่างทรมาน ปากก็พร่ำครางงืมงำอยู่ในลำคอจนเขาต้องเผลอยกยิ้มออกมาอย่างสมเพช “ได้โปรด...” เสียงร้องขอของเธอดังมาอีกครั้งอย่างแผ่วเบาและแหบพร่า การันยกมือขึ้นไปลูบกรอบหน้าของเจ้าหล่อนก่อนที่เขาจะซุกไซ้เข้าหาซอกคอหอมกรุ่นของคนใต้ร่าง “อือ...” เสียงครางหวานกำลังเติมไฟราคะของเขาให้พุ่งทยานสูงขึ้น กลิ่นกายของเจ้าหล่อนยิ่งรุนแรงแต่การันก็ใช้ความเป็นเจ้าของกลบมันเอาไว้ให้เขาได้กลิ่นแต่เพียงผู้เดียว ส่วนกลิ่นตัวของเขาที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้องยิ่งทำให้คนใต้ร่างดิ้นพล่านเพราะเธอจะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว การันเลื้อยจากลำคอของเธอลงมาหาไหปลาร้าของเธอที่นูนขึ้นมาอย่างคนหุ่นสวย เขาใช้ลิ้นโลมเลียมันบางเบาและเชื่องช้าราวกับกลั่นแกล้งให้เธอแทบขาดใจ เสียงหวานเปล่งร้องดังระงมเพราะเธอไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป ก๊อก ๆ ๆ “บอสคะ...” เสียงหวานจากทางหน้าห้องดังเข้ามาพร้อมกับเสียงเคาะประตู คนสวยใต้ร่างยกมือขึ้นมาอุดปากของตัวเองเอาไว้เพื่อกักกลั้นเสียงที่น่าอับอาย แต่คนขี้แกล้งด้านบนกลับยกยิ้มเมื่อนึกไอเดียอะไรดี ๆ ออก “นี่คุณ!” เธอร้องลั่นเมื่ออยู่ ๆ เขาก็พลิกร่างของเธอให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด การันฉีกเสื้อผ้าของหล่อนจนขาดลุ่ยเผยเต้าอวบอิ่มจุกสีชมพูหวาน ทั้งยังดันรั้งร่างของหล่อนให้เอาหน้าแนบชิดกับผนักเอาไว้และจับสะโพกของเธอยกขึ้น การันช้อนตัวมายืนด้านหลังก่อนเขาจะเลิกชายกระโปรงของเธอขึ้นและดึงแพนตี้ตัวน้อยสีหวานให้หลุดลุ่ยลงมา ความปราณีจะไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเขานั้นมันป่าเถื่อนอยู่แล้ว! “คุณจะ...จะทำอะไร!” เสียงหวานเอ็ดไม่ดังมากนักเพราะกลัวว่าคนด้านนอกที่ยังเอ่ยเรียกกันนั้นจะได้ยินมัน “ชู่ว! เดี๋ยวแม่เลขาสาวของเธอก็ได้ยินเอาหรอกเด็กดี” รอยยิ้มเยาะที่ออกมาจากริมฝีปากของเขาทำเอาเธอแทบอยากจะหันไปปาดคอเสียให้รู้รอดไป แต่คนด้านหลังกลับส่งมือบางมาเขี่ยเล่นตรงจุดอ่อนไหวของเธอ จนคำด่าว่าที่ตั้งใจในตอนแรกนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น “เปียกขนาดนี้แล้วงั้นหรือนี่...” “อ้ะ! อื้อ...” อาริสายกมือปิดปากของตัวเองเอาไว้เมื่อความรู้สึกแปลกใหม่กำลังแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเธอ มันคือความรู้สึกที่ดีมาก ๆ จนเธอไม่อยากจะให้เขาหยุดมัน แถมตอนนี้เธอยังทรมานมากกว่าเดิมที่ไม่สามารถเปล่งเสียงที่อัดอั้นนี้ได้ “บอสคะ...” เลขาสาวยังเอ่ยร้องเรียกกันไม่หยุด แล้วถ้าหากเธอไม่ยอมทำอะไรสักอย่างหล่อนคงมาไขกุญแจห้องเธอเป็นแน่ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้เด็ดขาด! “อ้ะ! ฉะ ฉันขอพักสักเดี๋ยว อ้ะ!” เมื่อยามที่เธอเอ่ยปากตอบ คนด้านหลังก็กลับกลั่นแกล้งเธอโดยการที่เขากดไปที่จุดอ่อนไหวของเธออย่างแผ่วเบา และพอเธอหันไปจะต่อว่า เขากลับกดเข้ามาอีกครั้งแถมยังทำหน้ายียวนจนเธอแทบทนต่อไปไม่ไหว “บอสเป็นอะไรไหมคะ! ให้เทลเข้าไปไหมคะ?” “มะ ไม่ต้อง!” เธอรีบปฏิเสธพัลวัน “ฉันฮีทอยู่ ขะ...ขอพักสักงีบนะ” อาริสากัดปากตนเองจนห้อเลือด ตอนนี้คนด้านหลังสอดแทรกนิ้วเรียวยาวเข้ามาในร่างกายของเธอแล้ว และเธอเองก็แทบจะยืนทรงตัวต่อไปไม่ไหว “ได้โปรด...ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” ทันทีที่เสียงประตูหน้าห้องปิดลงเธอก็เอ่ยร้องขอในทันที การันยกยิ้มที่เห็นลูกไก่ในกำมือของเขากำลังดิ้นพล่านและทรมาน เขาจับตัวเธอขึ้นมาอีกครั้งและโยนลงไปบนเตียงอย่างแรงจนอาริสาเผลอจุกท้อง เขาดึงกระโปรงตัวเก่าของเธอออกอย่างรุนแรงจนมันขาดลุ่ยและโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ การันก้มหน้ามามองดอกไม้สีสดสวยที่กำลังมีน้ำฉ่ำเยิ้มอย่างชื่นชมในฝีมือของตน เขาใช้ลิ้นแตะไปที่มันบางเบาแต่คนใต้ร่างกลับสะดุ้งโหยงและส่งมือมากดท้ายทอยของเขาเอาไว้ “อ้ะ! อื้อ...” น้ำเสียงหวานของเธอกำลังทำให้ความรู้สึกของเขาตีกันรวนไปหมด แต่เพียงไม่นานเสียงครางหวานของเธอก็ดังยาวพร้อมกับตัวกระตุกเกร็งอย่างคนที่ถึงจุดหมาย อาริสานอนหมดแรงหายใจหอบถี่ในสภาพที่เปลือยเปล่า ความรู้สึกแปลกใหม่นี้เธอไม่เคยได้รับจากใคร แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก และเธอกำลังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ... “ลุกขึ้นมา...” คำสั่งจากคนด้านบนส่งผลให้คนที่นอนหลับตาพริ้มนั้นเงยหน้าขึ้นสบมอง อาริสาตาเบิกโพลงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอกำลังตั้งค้ำผงาดและกำลังรอการปลดปล่อย เธอเบี่ยงสายตาหลบอย่างไม่กล้าสู้หน้ามันเพราะความเขินอายที่ยังคงมี “เลียมัน...” เสียงคำสั่งของเขาทำให้เธอต้องรีบหันหน้ากลับมาเตรียมจะต่อว่า แต่อัลฟ่าผู้นี้กลับใช้ดวงตาในการกดขี่จนเธอต้องยอมสิโรราบแต่โดยดี “อืม...” ทันทีที่ปลายลิ้นของเธอแตะลงบนสิ่งนั้นเขาก็ครางงึมงำขึ้นมาอย่างพอใจ การันจับหัวของเธอเอาไว้และออกแรงรั้งให้หล่อนเข้ามาชิดใกล้ จากตอนแรกที่นึกรังเกียจแต่แล้วเพราะความที่เขาเป็นเจ้าของเธออย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้เธอกำลังรู้สึกหลงใหลกับมันตามสัญชาตญาณดิบเถื่อน ยิ่งช่วงที่เธอฮีทหนักแบบนี้มันก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นในความรู้สึก พวกโอเมก้าเมื่อยามที่มีรอบฮีทจะทำให้อารมณ์และนิสัยของคน ๆ นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “อืม...เก่งนี่สาวน้อย” เขาเอ่ยชมเธอเสียงทุ้มหนายิ่งทำให้เธออยากปรนนิบัติและเอาใจ อาริสาจับเจ้าสิ่งนั้นและรูดมันขึ้นลง ปากก็ยังทำหน้าที่โลมเลียมันอย่างเอร็ดอร่อยตามสัญชาตญาณของเธอ “อืม...ใกล้กว่านี้” การันพูดทั้งยังจับหัวของเธอให้เข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น เขากดรั้งท้ายทอยของเธอไปมาจนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งออกมารดใบหน้าของเธอจนเปรอะเปื้อน การันโน้มหน้าลงมาหาหล่อนอีกครั้งทั้งยังกดจูบไปที่ริมฝีปากบางนั้นอย่างปลอบประโลม แววตาหวานซึ้งทั้งสองสบกันพร้อมทั้งที่ดวงตาของการันอ่อนลงจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อน “วันนี้พอแค่นี้ก่อน...” เขาว่าจบก็ผละตัวออกจากเธอและลุกขึ้นยืนสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “แล้วคุณจะออกไปยังไง?” “อย่าลืมว่าฉันไม่ใช่พวกอ่อนอย่างเธอ...” การันว่าจบและก็เตรียมจะหันหลังจากไป “เธอคงจะยังไม่ไล่ฉันออกใช่ไหม หืม” เขาถามทั้งที่ยังไม่หันหน้ามาสบมองกัน อาริสามองคนตัวสูงโปร่งที่กำลังจะเดินจากไปด้วยความรู้สึกของเธอที่ตีตื้นขึ้นมา ดวงตาสีเหลืองอร่ามแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มสดใสเมื่อยามที่เธอนั้นตื่นตัวหรือตื่นเต้น ใบหน้าของเขาคุ้นเคยเหมือนกับพี่สาวของเธอในวันวาน ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่พี่รันเคยสบมองเธอมาเสมอฉายชัดขึ้นมาจนหัวใจเต้นระรัว แต่สุดท้ายความคิดของเธอก็ต้องหยุดลงเพราะพี่รันของเธอเป็นคนอ่อนโยนและใจดี ไม่ใช่คนป่าเถื่อนและหัวรุนแรงเหมือนกับเขาคนนี้...  คำสัญญาในวัยเด็กเธอยังจดจำมันได้เสมอ และเธอเชื่อว่าสักวันเราจะได้กลับมาพบกัน และเมื่อถึงวันนั้น...เธอจะไม่ปล่อยให้เขาจากเธอไปไหนอีกเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD