“เป็นอะไรไป” อาการที่มือข้างหนึ่งของเธอจับที่อกซ้าย ในขณะที่อีกข้างก็กุมที่เบ้าตาด้วยความเจ็บปวด ทำเอาเขาร้อนใจจนแทบบ้า “เสี่ยวก้วยเจ้าเป็นอะไรไป ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่” ฮูหยินฝูรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง “แค่นี้เล็กน้อยนะขอรับ ข้าน้อยมิได้เป็นอะไรมาก แค่ช่วงนี้อาจจะพักผ่อนน้อย ก็เลยเจ็บป่วยบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงก็ขออภัยที่ทำให้ฮูหยินต้องเป็นห่วง” หลังจากที่อาการเริ่มดีขึ้น เธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาค้อมศีรษะให้ผู้อาวุโสตรงหน้า โดยมีฝูฟาหยางคอยประคองไม่ห่าง กระทั่งเมื่อประคองเธอมานั่งได้แล้ว เขาจึงเหลือบไปมองลูกแก้วที่ซูเซียวถืออยู่ ก่อนจะหันกลับมาสบตากับคนข้างๆ โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ ออกมา พวกเขาก็ราวกับรู้ใจซึ่งกันและกัน “ลูกแก้วนั่นช่างงามแปลกตานัก จะว่าอะไรไหม หากว่าข้าจะขอชมใกล้ๆ” หวงซูเซียวได้ยินถึงกับยิ้มกว้าง ก่อนจะทำท่าชมดชม้อยชำเลืองสายตา แล้วเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบนา