เพล้ง ปัง ปึง
“ มันเป็นใครกล้าดียังไงมาทำ ให้อาคมกูออ่นกำลังลงได้ว่ะ “ หมอผีเข้มพังข้าวของที่อยู่บนหิ้งวางของมืดดำของตัวเอง โดยเฉพาะหัวกระโหลกของผีที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะเครื่องรางของขัง ด้วยความโมโหของหมอผีเข้มเขาจัดการฟาดงวงฟาดง่า อย่างบ้าคลั่ง
“ ไม่ว่ามึงจะเป็นใครกูจะจัดการกับมึง “ หมอผีเข้ม กัดกรามแน่นพร้อมกับพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น ด้วยความที่ตากล่ำก่อนแกตายแกเป็นหมอผีที่เก่งที่สุด จากนั้นเมื่อตายตาเข้มลูกศิษย์ทรยศของหมอผีกล่ำก็ได้ปลุกวิญญาณของตากล่ำและก็ปอบที่แกเลี้ยงเอาไว้ เมื่อความมักใหญ่ใฝ่สูงบวก กับความโลภของหมอผีเข้มเลยทำให้เขา เนรคุณคนที่สอนให้เขามีวิชาเมื่อปลุกวิญญาณของอาจารย์ บวกปอบที่ถูกกดเอาไว้ให้มาร่วมผสมโรงกัน นั้นเยทำให้ปอบตัวนี้ดุดันและก็ร้ายกว่าปอบตัวอื่น หมอผีคนไหนก็ไม่สามารถปราบได้นอกจากหมอผีที่เป็นคนปลุกเท่านั้น แต่เมื่อหมอผีเข้มสัมผัสได้ถึงพลังงานของอาคมตนที่ออ่นกำลังลงนั้นเลบยทำให้ หมอผีเข้มรู้สึกโมโหและก็โกรธมาก
ทางด้านบลู และ สิง
เช้าวันาต่อมา
หลังจากที่บลูรอดชีวิตมาได้ในค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเลยทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ขจรที่สั่งให้หมอผีเข้มไปจัดการบลู เมื่อเขาโดนเยียบจมูกเพราะลูกน้องที่หลุดปากออกมาดว่าพวกมัน6คนสู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ บวกกับเธอเคยทำร้ายชบาลูกสาวคนเดียวของเขาด้วยนั้นเลยทำให้ผู้ใหญ่ขจรโมโหมาก ก็เลยได้สั่งให้หมอเข้มส่งปอบไปจัดการกับหญิงสาว โดยเขาได้สังเวยชีวิตคนเร่ร่อนที่นอนตามข้างถนน เพื่อไม่ให้ใครสังเกตุแล้วก็สืบหาว่ามีคนหายออกจากหมู่บ้าน เพราะคนที่เขาฆ่าเป็นแค่คนเร่ร่อน ชาวบ้านหรือว่าใครก็เลยไม่สนใจ
“ นี้มันรอดมาได้ยังไงว่ะ ไอ้หมอผีมันหลอกเรารึเปล่าครับนาย “ ลูกน้องคนสนิทผู้ใหญ่บ้านขจร กระซิบข้างหูเจ้านายด้วยความสงสัย มันกลัวว่าหมอผีเข้มที่คุยโวนัก คุยโวหนาว่าตัวเองเก่ง แต่กับคนที่เขาสั่งฆ่ากับมาเดินขายของลอยหน้าลอยตาอยู่ที่นี้ ผู้ใหญ่เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็รี่ตาลงพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวที่หาบอาหารมาขายตามปกติของเธอ บลูเมื่อเห็นผู้ใหญ่บ้านเธอก็หาบอาหารของเธอเดินเข้าไปหาทันที ด้วยสัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าพวกมันกำลังสงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่ได้ตาย บลูเธอก็เลยคิดว่าจะเข้าไปบอกมันสะหน่อยเอาบุญ
“ ผู้ใหญ่คะช่วยอุดหนุน หน่อยสิคะ “ บลูเธอพูดจบก็วางหาบลง ผู้ใหญ่ที่เห้นแบบนั้น ด้วยความที่ท่าทางของบลูที่เข้าหาผู้ใหญ่ขจรอย่างคนไม่รู้เรื่อง ผู้ใหญ่ขจรเมื่อเห็นว่าสายตาของลูกบ้านมองมาทางเขากับลูกน้อง นั้นเลยทำให้ผู้ใหญ่บ้านต้องดึงสีหน้าและก็ท่าทางให้เป็นปกติ
“ อื่ม ว่าแต่วันนี้เอ็งขายอะไรละ มาข้าจะช่วยซื้อเผื่อเอ็งร้อนเงิน “ ผู้ใหญ่ พูดออกมาด้วยท่าทางเหมือนกับเป็นคนใจดีทั้งที่ในใจร้อนรุ่มแทบระเบิดออกมาแล้วเพราะศัตรูของเขาเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นแต่กับจัดการคนของเขาได้ถึง6คนด้วยมือเปล่า
“ แม่หนูนี้เอ็งไม่ได้เป็นอะไรเหรอ เมื่อคืนข้าเห็นปอบไปที่บ้านเอ็ง // ข้าเคยเตือนเอ็งแลบ้วว่าถ้าตะวันตกดินเอ็งอย่าเสียงดัง ปอบมันจะได้ยิน “ ชาวบ้านขาเสือกเมื่อทนความสงสัยของตนไม่ได้แล้ว ก็เลยเดินเข้ามาถามบลูด้วยความอยากรู้ทันที
“ จ๊ะป้าหนูก็ไม่ได้เป็นอะไรนี้คะ เอ้อ ผู้ใหญ่คะว่าแต่เรื่องปอบอ๊ะคะผู้ใหญ่ช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหมคะ หนูคิดว่าชาวบ้านหน้าจะเข้าใจผิดแล้ว ตามวิทยาศาสตร์แล้วคนที่กินของสด ของดิบ ของคาว หรือว่าของสกปรก เขาต้องเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทแน่ๆเลยคะ “ บลูเธอ มองหน้าของผู้ใหญ่พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา เธอแกล้งพูดให้เป็นเสียงดังเพราะเธออยากให้ชาวบ้านหายกลัว ด้วยความที่เธอสัมผัสกับตากล่ำเมื่อคืนนี้แล้ว เธอรู้สึกสงสารแกมากเลยเธอคิดว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ ผู้ใหญ่เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำท่าจะอ้าปากพูดแต่ก็ไม่ทันเพราะลูกบ้านพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ผีปอบที่เอ็งเห็นน่ะมันเป็นปอบอาคมเลยนะ เมื่อก่อนมันเป็นหมอผีที่หมู่บ้านนี้แหละแล้วก็เป็นสัปเหรออีกด้วย แต่เพราะมันโดนปอบที่เลี้ยงเอาไว้กินตาย มันก็เลยเป็นปอบเองนะสิ นังหนูดีแค่ไหนที่เอ็งไม่โดนมันควักตับไตใส้พุงออกมากิน เหมือนสัตว์เลี้ยงของข้า “ ป้าข้างบ้าน พูดกับบลูด้วยสีหน้าจริงจัง บลูเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยืนนิ่งฟังอย่างใช่ความคิดระหว่างที่บลูเธอใช่ความคิดอยู่ เสียงของโจทย์ที่เดินมากับคนที่เข้ามาช่วยเธอเมื่อคืนนี้แต่กับมาเป็นภาระมากกว่า
“ ใช่คนกรุงเทพอย่างเธอจะรู้เรื่องอะไร หรือว่าแกเป็นคนเลี้ยงผีปอบ ไอ้ปอบตนนั้นเลยไม่ทำร้ายเอ็ง ว๊าย “ ชบา ที่เดินควงแขนมากับสิงและก็คู่หูสองคนของชบา ที่เดินเข้ามาก็พูดหางานให้เธอแต่เช้าเลย เมื่อชาวบ้านได้ยินแบบนั้นก็ทำท่าเหมือนจะเห็นด้วย
“ จริงด้วยเมื่อคืนข้าเห็นเอ็งกอดแขนของผีตนนั้นด้วย หรือว่าเอ็งจะเป็นคนเลี้ยงผีปอบจริงๆ // จริงด้วยเมื่อคืนข้าได้ยินเอ็งเรียกชื่อมันด้วย หรือว่าเอ็งเป็นคนเลี้ยงผีปอบตนนี้อย่างที่คุณชบาพูดจริงๆว่ะ “ ป้าข้างบ้านสองคนพูดออกมาด้ววยท่าทางตกใจและก็ทำท่าเดินถอยหลังออกห่างบลูที่ยืนนิ่งฟังเรื่องที่อีชบาใส่ร้ายเธออยู่ เมื่อเธอเห็นท่าทางแบบนั้นของชาวบ้าน บลูก็แสยะยิ้มมุมปากอย่างนึกชอบใจเมื่อลูกสาวคนก่อเรื่องเปิดก่อนมาแบบนี้ นั้นก็เลยเข้าทางเธอเลย
“ อื้ม…..ฉันนะไท่ได้เลี้ยงหรอกผีเผลออะไรน่ะ แต่พ่อเธอไม่แน่เพราะเมื่อหลายวันก่อนหนูเห็นผู้ใหญ่บ้านไปที่ท้ายหมู่บ้าน ทั้งที่ชาวบ้านต่างกลัวกันแปลกที่ผู้ใหญ่ไม่กลัว ว่าแต่ผู้ใหญ่ไปทำอะไรที่นั้นเหรอคะ “ เมื่อ ชบาเปิดก่อนบลูก็จัดการพูดเรื่องที่เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่างานนี้ต้องมีคนเปิด ผู้ใหญ่ตอนแรกที่คิดว่าเป็นต่อเพราะลูกสาวพูดแบบนั้นแล้วทำให้ชาวบ้านเข้าใจหญิงสาวผิด ตอนแรกที่ชาวบ้านเข้าใจผิด แต่เมื่อบลูพูดแบบนั้นชาวบ้านก็หันมาสนใจผู้ใหญ่บ้านขจรทันที กำนันเสือและก็ภรรยาที่ยืนมองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆก็มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เมื่อผู้ใหญ่เห็นว่าชาวบ้านหันมาสนใจตัวเองเป็นตาเดียวแบบนั้น ผู้ใหญ่ขจรก็ทำท่าทางเลิ่กลักก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า
" ข้า ข้า ก็ไปดูลูกบ้านของข้าสิว่ะ ถึงชาวบ้านจะกลัวแต่ข้าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ข้าก็ต้องไปดูลูกบ้านไม่เห็นจะแปลกตรวไหน // ว่าแต่เอ็งเถอะไปทำอะไรที่นั้นดึกๆดื่นๆ มันหน้าสงสัยนะข้าว่า" ผู้ใหญ่บ้านขจร เมื่อโดนเด็กสาวลูบคม เสือเฒ่าก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจ้องหน้าบลูอย่างเอาเรื่องพร้อมกับพูดดัดหลังหญิงสาวเพื่อใส่ร้ายเธอทันที