จากนักเขียนถึงผู้อ่านที่รัก...
สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะคะ เป็นเล่มแรกของนักเขียนสำหรับนามปากกานี้
อากาเปเป็นภาษากรีก αγάπη แปลว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักของการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นคำที่มีความหมายกว้าง ไม่ใช่นัยเฉพาะทางศาสนาซึ่งหมายถึงความรักแบบพระเจ้าเพียงอย่างเดียว
โดยรวมสามารถตีความหมายถึงความรักของมนุษย์ที่มีการเสียสละตนเอง รักอย่างยิ่งใหญ่ เมตตา เอื้ออาทรต่อกันและกัน
อากาเป ณ ที่นี้ ทางนักเขียนขอวางนิยามว่าเป็นความรักของ ‘แม่’ รักแบบไม่มีข้อจำกัดเหมือนแม่รักลูกคนหนึ่ง นักเขียนจะใช้นามปากกานี้ในนิยายซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเด็กและคุณแม่ใน มีผลงานในอนาคตข้างหน้าอีกแน่นอน
ส่วนนิยายเล่มนี้เป็นเรื่องของนายทันตแพทย์หนุ่ม พี่ชายคนกลางของบ้านคุณป้าขวัญฤดี เป็นเนื้อหาแยกเรื่องจาก ‘กรงรักกักหัวใจ COVID-19’ ไม่ใช่เล่มต่อ ไม่ได้อ่านเล่มแรกมาอ่านตรงนี้ รับรองว่าไม่งง
ขอกระซิบว่านักเขียนได้แรงบันดาลใจมาจากหมอฟันตัวเองนี่ล่ะ คุณหมอขี้บ่นเรื่องเอียงแปรงสีฟัน แต่คุณหมอหล่อตี๋มือเบ้าเบาาา เสียงหวานมาก คนจัดฟันอย่างดิฉันพยายามนะคะ ทั้งเรื่องเอียงแปรงสีฟันจนเกือบกลืนแปรงเข้าไปอยู่แล้วมันก็ยังไม่ไหวจะเอียงอย่างที่หมอบอก เอาเป็นว่าไปขูดหินปูนกับคุณหมอบ่อย ๆ ดีกว่า ยอมเสียเงิน จบข่าว!
ย้ำว่าเป็นแรงบันดาลใจ **นิยายเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลใดและสถานที่ใดทั้งสิ้น**
ทางนักเขียนเคยมีคนเคยรู้จักเป็นคนไทยเชื้อสายจีน-แต้จิ๋ว ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการแทรกภาษาจีนแต้จิ๋วบ้าง
ว่ากันถึงคนจีน บางบ้านเรียก ‘ป๊า’ เรียก ‘เตี่ย’ จีนแต้จิ๋วบางบ้านเรียกอาป๊าอาม๊า สำหรับเด็กยุคใหม่ ก็เรียกเขาป๊านี่แหละ ขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนเดี๋ยวจะมีข้อโต้แย้งเรื่อง ป๊า กับ เตี่ย ความหมายเดียวกันนะคือพ่อนะคะ
ซีรีส์โควิดเล่มนี้เป็นแนวหวาน ดราม่านัว ๆ ซึ้งกินใจ มีตลกบ้างแต่ไม่เยอเท่าเล่มกรงรัก นะคะ เล่มนั้นจะตลกล้วนเสียส่วนใหญ่ ในส่วนของเล่มนี้อีโรติกหนักหน่วง เป็น 18+ 20+ มีเนื้อเรื่องความโรมานซ์สลับกันไปอย่างพอดี
ขอบพระคุณที่ติดตามมาตลอด ไรเตอร์จะพยายามพัฒนาฝีมือให้ดีกว่านี้ในอนาคตค่ะ
เกริ่นนำ
แสงเทียนวูบไหวตามจังหวะของแสงเงา หักมุมสาดสะท้อนผ่านผนังสีขาว สองร่างกอดกุมมือเกี่ยวประสานทุกข้อนิ้ว สลับโอบประคองในอ้อมแขนกันและกัน คราชายหนุ่มขยับเคลื่อนกายร้อนรุ่มด้วยแรงถี่ระรัวไม่ต่างจากว่าหล่อนเป็นเครื่องยนต์
หากหล่อนเป็นเครื่องยนต์! ถูกจุดติดด้วยน้ำมันมากล้นในร่องทางรักอึดอัดคับแน่น ให้คนขับสามารถส่งแรงขับเคลื่อน คงเป็นจินตนาการสุดล้ำลึก เพลิดเพลินอย่างไม่มีทางที่เขาจะยอมหยุด
ทั่วทั้งวงหน้าหล่อเหลาดูเคร่งขรึม มาดหมายในแววตา ไม่มีวี่แววยอมอ่อนข้อให้หรือยอมให้สิ่งใดมาขวาง
อะไรทำให้เขากลายเป็นหนุ่มช่างเอาใจ? ขณะเดียวกัน เขากลับเกรี้ยวกราด ด้วยความหิวกระหายเลยไม่คิดใช้แรงทะนุถนอมต่อกายสาวแรกรักใคร่สักหน่อย
อาหมวยตากลมพูดจาเจื้อยแจ้ว วาจาฉะฉานฉลาดเกินใคร ยังคงความไร้เดียงสาแม้ร่างเปลือยเปล่าแนบชิดสนิทสนมตัวเขามากกว่าเดิมหลายเท่า
มันเป็นความผิดของหล่อน...
ใบหน้าสวยนวลผ่องออดอ้อนทำให้เขาเกิดพึงพอใจจนเกิดความปรารถนา ในทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมาจากเรียวปากอิ่มงามซึ่งบวมเจ่อเพราะพิษจูบ
สิ่งแรกที่เขาอยากทำคือจูบ เช่นเดียวกับสุดท้ายที่เขาจะเลิกทำคือจูบ!
ดวงตาคู่หวานคมสั่นพร่า มองภาพเลือนรางของคนใต้ร่าง ท่ามกลางราตรีมืดมิดอันแสนยาวนาน สัมปชัญญะน้อยนิดบอกว่าเขาช่างไร้สติต่อการกระทำ สะบัดสะโพกส่งแรงอย่างไม่ลดละผ่านช่องทางเร้นรับ โดยไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย
เขาแค่รับรู้ได้ว่าหล่อนเป็นใคร... ชื่ออะไร... รู้จักกันเมื่อไร... แต่กลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุใดจึงมาจบตรงบนเตียงร้อนลุกดั่งไฟ!
ลมหายใจหอบรดรินบนต้นคอขาวเนียน ปลายจมูกซุกดมกลิ่นหอมอบอวล
กลิ่นกายผสมปนทับกันไปเช่นเดียวกับกลิ่นองุ่นรสเลิศซึ่งผ่านการหมักบ่มมานาน ผ่านริมฝีปากหนาหยักได้รูปดึงดูดเกี่ยวพันถึงปลายลิ้นน้อย
อา... ให้ตายเถอะ แม่ตัวดีของเขาช่างหวานหอมไปทั้งตัว
ความคิดนั้นพาลให้เขาไม่เลิกรางานจูบและการขยับร่างกายเข้า ๆ ออก ๆ โน้มใบหน้าลงสัมผัสริมฝีปากคู่งาม บดขยี้ด้วยจุมพิตหื่นกระหาย มีบ้างที่เขายอมปล่อยพันธะนี้ เพื่อสบมองแววตาคู่สวยหรี่เล็กจนเหยียดตรง
ดวงหน้าแดงก่ำฉ่ำปรือส่ายเร่า บิดเอวบางแอ่นเกร็งเด้งรับแรงกระแทกอย่างเต็มใจ แม้ทีแรกหล่อนอาจไม่ได้เต็มใจนัก กลับตกเป็นทาสอารมณ์รัญจวนรุมเร้า
เม็ดเหงื่อพร่างพราวจากรูขุมขนกำลังขับความร้อนออกจากเรือนกายแน่งน้อยใต้การบังคับควบคุมของเขา
หญิงสาวส่งเสียงกรีดร้องครวญครางปานขาดใจ หลายต่อหลายครั้งยังกระซิบเรียก
“หมอตฤณ...”
“พี่ตฤณ...” เขาเอ่ยแก้คำใหม่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและอ่อนโยน พรมจูบลงตรงไรผมนุ่มหอม ตั้งใจฟังทุกสุ้มเสียงหวานของหล่อนแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือความฝันก็ตาม
พี่ตฤณ...