Chapter 14
3 เดือนที่แล้ว
เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีน้ำตาลเข้มสลับขาเดินโอนเอน โอบบ่าสาวเอวบางร่างน้อยไว้เป็นที่พึ่งพา ตาปรือส่ายมองคนตัวเล็กอย่างแสนรัก
“น้องหมวย... จ๋า... ที่นี่ล่ะ... บ้านพี่” เสียงออดอ้อนอ้อแอ้ว่าพลางฉีกยิ้มหวาน ตามที่ส่งกระดาษใบเล็กให้หล่อนกับมือ ไม่รู้เหมือนกันว่ามาถึงหรือไม่ถึงแน่ แต่ขาสะดุดกึกเลยต้องทิ้งน้ำหนักลงไปครึ่ง
“โอย... หมอตฤณ... ตัวหนักยังกับควาย...” เสียงหวานบ่นพลางพยายามแบกท่อนแขนเป็นล่ำสันอย่างทุลักทุเล ตัวเองแทบยืนไม่อยู่
เดรสสีขาวเข้ารูปรัดเอวคอดกิ่วและรองเท้าส้นเตี้ย รวมถึงขนาดตัวที่ต่างกันเหมือนคู่ชกผิดรุ่น ทำให้ก้าวเดินได้อย่างยากลำบาก กว่าจะพาเขาขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องพัก
“น้องหมวย... คนสวยของพี่ตฤณ” คำก็หมวย หมวย กอดบ้างหอมให้ชื่นใจ
ตฤณภพบัดนี้กลายเป็นพวกไร้สติไปเสียแล้วโดยไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไร หลังจิบไวน์ ดื่มบรั่นดีตีกันมั่วไปหมด
โสตประสาททั้งห้าของเขาคงไม่ทำงาน อันเนื่องมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทว่าจมูกยังรับรู้กลิ่นได้ดี...
หอม... ไม่ฉุนไม่บางไป
หอมในระดับที่พอดี ส่งกลิ่นไกลแต่ยิ่งใกล้ยิ่งหอม...
“ทำไมน้องหอมจัง...? อาหมวย...” พูดพลันซุกปลายจมูกโด่งเป็นสันคมลงสูดกลิ่นจากกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มช็อกโกแลต ผลัดลงหอมแก้มขาวนวลที่ทำหลีกเลี่ยง
“พี่ตฤณ... เมามาก... มาววไม่เอา...” หล่อนยกมือขึ้นปรามผลักหน้าทะเล่อทะล่าของเขา แก้มแดงฉ่ำขึ้นตามลำดับ เพราะความร้อนแรงของคุณหมอหนุ่ม ที่น้ำเมาเข้าปากก็เปลี่ยนเป็นคนละคนจากสุภาพบุรุษเป็นหนุ่มสุดหื่น!
เข้าใจอยู่ว่าหมอก็คน แต่หมอตฤณไม่ควรคออ่อนเป็นเด็กวัยรุ่นหัดดื่มครั้งแรก!
เมษาเองก็ดื่มไปพอสมควร โลกพร่ามัวกระทั่งพื้นที่ซ้อนกันลอย ๆ ทำให้ต้องกะพริบตาเพ่งมอง สะบัดหน้าไปมาไล่ความมึนตึง พาทั้งคนตัวหนักและตัวเองไปให้ถึงประตูไกลลิบตาทั้งที่มันอาจใกล้กว่าที่หล่อนคิดก็ได้
“อาหมวย... ห้องพี่เบอร์... อะไร? น้องเมาไหม? น้องจำได้หรือเปล่า? มากับใคร ออ... พี่ตฤณเองค่ะ”
ตฤณภพคิดว่าเขาคงเมาขนาดพูดพร่ำถามตอบตัวเองได้ ทั้งที่เป็นนิสัยส่วนตัวอยู่แล้ว มือล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง กอดคนตัวเล็กไม่ห่าง มันจึงร่วงลงพื้นให้เขาต้องก้มลงไปหยิบกุญแจเจ้าปัญหาที่มีมากกว่าหนึ่ง! จิ้มไม่เข้ารูกุญแจก็ปัดไปปัดมา หญิงสาวเลยคว้ากุญแจไว้แทนเพื่อมาช่วยเขาเปิดประตูสำเร็จ
“เปิดประตูแค่นี้ไม่ไหว... พี่เมานะคะ... เมามาก” หล่อนต่อว่าด้วยความที่มีสัมปชัญญะมากกว่าเขาสักหน่อย ผลักประตูไม้สีโอ๊คเคลือบเงาพรวดเข้าห้องไปในสภาพคลานเป็นหมา ไม่ลืมกลับไปลากอีกคนเข้าห้องมาด้วยกันพิงแผ่นหลังของเขาไว้กับประตู
“อาหมวย... น้องบอกว่า... พี่หล่อหรือเปล่า? จำได้อยู่นะ แปลว่าชอบใช่ไหม? ในรูปหรือว่าตัวจริงดูดีกว่า...?”
“ไม่รู้... เอ๊ะ... มัว ๆ ขอดูดี ๆ อีกทีค่ะ” คนเมาถามมาคนมึนจะไม่โกหก
หญิงสาวขยับตัวคืบคลานเข้าหา วางฝ่ามือล้อมร่างหนาไว้แล้วนั่งลงในฝั่งขวา หรี่ตาเล็กลงมองให้ชัด แววตาคู่หวานคมฉ่ำปรือขับวงหน้าหล่อเหลาให้ดูหวานขึ้นอีก
ในรูปผ่านแช็ตที่ส่งมาตามไลน์กับตัวจริงเป็นคนละเรื่อง ไม่มีส่วนไหนบนวงหน้าหล่อเหลาที่หล่อนไม่ชอบเลย เจอกันทีแรกหล่อนดันนึกว่าเขาเป็นเกย์!
“หล่อนะหล่อ... อือ... มั้ง...”
“ขอบคุณครับ... น้องเมย์... คนสวยของพี่” ชายหนุ่มยิ้มรับคำชม ความกระวนกระวายใจกลัวว่าหล่อนจะไม่ถูกใจ ไม่มาไม่ว่าง ผิดนัดหรือหายไปเฉย ๆ หลอกให้แต่งตัวหล่อมานั่งรอเก้อในร้านอาหาร หายไปจนหมดสิ้น
ดวงตาพร่ามัวไล่มองเดรสแขนยาวเข้ารูปรับเอวคอดบาง เปิดไหล่ข้างซ้ายเผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด กระโปรงสั้นประหน้าขา ไม่ว่าเมาเท่าไร หัวใจชายแกร่งกลับเต้นตุบลุ้นระทึกดังเสียงกลอง วูบไหวกับคำบอกลา
“เมย์... กลับแล้วนา...” เสียงหวานแผ่วลง ฉับพลันกับที่ฝ่ามือหนาคว้าหมับเข้าต้นแขน แววตาคู่หวานคมทอประกายจรัส หลุบมองกลีบปากบางพร้อมสติขาดผึง!
เดิมทีก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้มีสติอยู่แล้ว มือกระตุกท่อนแขนเล็กกำได้พอดีให้หล่อนเซเข้าหาอย่างงงงวย
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตกใจ เมื่อริมฝีปากหนาหยักได้รูปปิดประกบปากหล่อนแผ่วเบา แม้พยายามหลบหลีกแต่ไม่เป็นผล พอหล่อนจะเอียงหน้าหนี มือหนาหยาบจับตรึงใบหน้าสวยไว้อย่างบังคับเอาแต่ใจ ขบเม้มริมฝีปากบางช้า ๆ เนิบนาบ
หญิงสาวจับต้นชนปลายไม่ถูก อะไรที่ทำให้หล่อนมาจบลงตรงนี้ หัวสมองขาวโพลนจากการล่อล่วง
ปากของเขาทั้งนุ่มทั้งหวาน... หอมกลิ่นองุ่นบาง ๆ อาจเป็นองุ่นสุกงอมที่หล่อนต้องพริ้มตาปิดลงชิมมันว่าอร่อยเท่าไร
ความกลัวถูกดูดดึงไปกับจุมพิตดูดดื่ม จากกลัวที่จะจูบเขา กลัวเลยเถิดไปไกล ดันอยากจูบผู้ชายคนนี้เป็นบ้า!
และเมื่อปลายลิ้นหนาจึงหาทางสอดแทรกเข้ากระหวัดเกี่ยวลิ้นน้อยไร้เดียงสาอย่างใจร้อน หล่อนทำเก้ ๆ กัง ๆ ใส่เขาเหมือนคนไม่เคยจูบใครมาก่อนเลยสักคน
ชายหนุ่มพอรู้ว่าควรทำอย่างไรกับหล่อนดี อารมณ์ร้อนรุ่มเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ กับการแนบปากประกบ ถอย ดูดดึง ผ่านจุมพิตดูดดื่มกันเพียงไม่นาน
ร่างไร้เรี่ยวแรงเมื่อสักครู่กลับมามีพละกำลังมหาศาล ดึงเอวคอดกระชับเข้าหาตัว พลันผลักร่างบางให้นอนราบลง ทาบทับไว้ด้วยเรือนกายกำยำ ตรึงข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้กับพื้น
ภายใต้พันธนาการแกร่ง การแบกพาผู้ชายตัวโตมาจนถึงห้องอาจทำให้หล่อนหมดแรง หรือว่าหล่อนอาจเข้าข้างตัวเอง ทำไมถึงไม่สู้แรงเขา ฟาดด้วยฝ่ามือพิฆาต! อาวุธสักอย่างในห้อง
มัดกล้ามบนร่างกายไล่เรียงถูไถกับกายสาว เมษาบอกได้เพียงผู้ชายคนนี้ร้อน! เผ็ดสะเด็ด เขาทำให้ผู้หญิงธรรมดา ๆ อยากลูบไล้สัมผัส แม้ในความเป็นจริงมือของหล่อนจะวางพักบนบ่ากว้างนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับเคลื่อนไปไหน
หลายนานผ่านจุมพิตที่ชายหนุ่มต้องคอยสอนคนทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ความตั้งใจของเขาประสบความสำเร็จจึงผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง
ดวงหน้าแดงก่ำใต้แววตาคมปลาบถูกจับจ้องทุกอณูอย่างไม่ละวาง ทั้งที่เขาไม่ได้เห็นมันชัดเจนนักแต่รับรู้ได้ว่าเป็นน้องเมษาของเขาแน่ ๆ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหน
“ปล่อยเมย์... ค่ะ”
“อุตส่าห์มาถึงรัง... พี่ ปล่อยได้ไงเล่าคุณน้อง...”
“เมย์กัดจริง ๆ”
“กัดสิ พี่ชอบ... ที่รัก กัดแรง ๆ... อาหมวยขาาา...” ปลายเสียงลากยาว เขาชอบที่จะหยอกล้อกับเมษา ซึ่งเขาก็ทำแบบนั้นมาตั้งแต่รู้จักกันผ่านการพูดคุย โทรหาบ่อย ๆ จนนัดเจอกันในคืนนี้ เรื่องผิดพลาดคือดันมานั่งเมาด้วยกันซะได้
“เมาแล้วพี่เป็นคนแบบนี้เหรอคะ?”
“พี่... เป็นคนรักครอบครัวนะ... อย่างแม่พี่... แม่...” เสียงทุ้มสั่นไปอย่างไม่มีเหตุผล ในสีหน้าเศร้าหมองลง ฝ่ามือหนายังติดตรึงข้อมือเล็กยันไว้
คิ้วเรียวสวยเหนือดวงตาคู่หวานปรือชนกันยุ่ง ๆ จะว่าสงสารก็ไม่เชิง อย่าบอกนะว่าเขาเป็นพวกลูกแหง่ติดแม่?
“คะ? เป็นอะไรอีก... เมาแล้วคิดถึงแม่?”
“เปล่าครับ... พี่กำลังจะบอกว่า...” ทั่วทั้งวงหน้าหล่อเหลาเข้มเครียดจริงจังทำให้หล่อนยิ่งสงสัย
“ว่า...?”
“แม่อยากได้หลานมากเลย เรามาทำเรื่องสนุก ๆ กันดีกว่าเนอะ น้องหมวย... ของพี่ตฤณ” สิ้นคำ รอยยิ้มร้ายกาจเผยขึ้นตรงมุมปากเพียงครู่ คนเจ้าเล่ห์ขยับตัวลงรวบเอวคอดกิ่วตวัดขึ้นพาดบ่าลุกขึ้นยกหล่อนตัวปลิว