ตอนที่ 6
“เบญ!!! เย็นนี้เราไปปาร์ตี้สละโสดกันมั้ยคุณเพื่อน” นุ๊กนิกเอ่ยชวน เพราะวันจันทร์หน้านี้ก็จะถึงงานแต่งของเพื่อนรักเธอแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์พอดี อันที่จริงนุ๊กนิกนัดกลุ่มเพื่อนคนอื่น ๆ เอาไว้หมดแล้ว เหลือเพียงแค่รอคำตอบจากเพื่อนสาว และเธอก็คิดว่ายังไงเสียเบญญาภาก็คงไม่ปฏิเสธ
“ฉันไปก็ได้ แต่ว่าอยู่ดึกไม่ได้นะ ไม่อยากหน้าโทรมวันแต่งงานน่ะ” เบญญาภาหันไปบอกกับเพื่อนสาวที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ ๆ กัน นุ๊กนิกนั้นเป็นคอลัมนิสต์เหมือนกับเบญญาภา แต่วันที่สัมภาษณ์เขมทัศน์ เธอรู้ว่าลึก ๆ แล้วเพื่อนสาวของเธอยังลืมผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เธอจึงเลือกที่จะปฏิเสธหัวหน้าไป เพราะคิดว่าก่อนที่เพื่อนจะได้ตัดสินใจแต่งงาน ก็ควรจะได้พบกับเขมทัศน์เสียก่อน เบญญาหมั้นกับราเชนมานานถึงสามปี แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน จนเมื่อไม่นานมานี้ราเชนก็ขอเบญญาภาแต่งงาน ซึ่งนั่นก็ทำให้นุ๊กนิกประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่คบหากันเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟน ซึ่งนุ๊กนิกก็เคยถามเพื่อนรักมาแล้วครั้งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่เกินสามทุ่มแน่นอนคุณเพื่อน” หลังจากนุ๊กนิกตกลงกับเพื่อนรักเสร็จเรียบร้อย เบญญาภาก็รีบเดินไปบอกกับคู่หมั้นหนุ่มที่อยู่ห้องทำงานอีกฝั่งตรงกันข้าม
“คืนนี้ไอ้นุ๊ก มันชวนเบญไปปาร์ตี้สละโสดกับกลุ่มเพื่อน ๆ นิเทศน่ะ เชนจะว่าอะไรมั้ย!!” หญิงสาวเปิดประตูมาก็เอ่ยถามคู่หมั้นหนุ่มอย่างคุ้นเคย
“ตามสบายเลย..เบญ นาน ๆ ได้ไปปลดปล่อยกับเพื่อนบ้างก็ดี ” คู่หมั้นหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างดีใจกอนจะลุกมาหาหญิงสาวแล้วโนมใบหนาไปจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ
คืนนั้นเบญญาภาไปที่ผับแห่งหนึ่งกับกลุ่มเพื่อน ๆ นิเทศศาสตร์ของเธอ เบญญาภาได้รับของขวัญที่บริกรนำมาวางให้ พอออกจากห้องน้ำมา เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ยื่นให้เธอ
“ของชั้นเหรอนุ๊กนิก!!!” เบญญาภาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ และคิดว่าคงไม่ใช่เซอร์ไพรส์จากคู่หมั้นหนุ่มเป็นแน่ เพราะว่าร้อยวันพันปี ราเชนไม่เคยเซอร์ไพรส์อะไรเธอเลย
“ใช่จร้า...บ๋อยคนเมื่อกี้เอามาให้น่ะ บอกว่ามีคุณผู้หญิงโต๊ะโน้นฝากให้เธอ” หญิงสาวมองตามที่เพื่อนชี้มือไป แต่ว่าโต๊ะนั้นก็เหลือแค่ความว่างเปล่า เบญญาภาคิดในใจ สงสัยคงจะกลับกันหมดแล้ว และพลางนึกถึงของข้างในกล่องอย่างประหลาดใจ
นั่งไปสักพักเบญญาภาก็ตัดสินใจเปิดกล่องของขวัญใบนั้น และไม่คิดว่านี่จะเป็นเซอร์ไพรส์ที่ทำให้หญิงสาวต้องสติหลุดด้วยรูปภาพโป๊เปลือยของคู่หมั้นหนุ่มที่อยู่ในกล่องของขวัญใบนั้น
รูปภาพของคู่หมั้นหนุ่มของเธอที่กำลังจะแต่งงานกันในวันจันทร์นี้ นอนกอดกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่เธอ เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างนุ๊กนิกจึงเอ่ยถามทันทีด้วยความเป็นห่วง
“มีอะไรเบญ!!!!” นุ๊กนิกรีบหยิบของในกล่องนั้นออกมาดู เมื่อเห็นเพื่อนสาวมีสีหน้าไม่ปกติ เธอรีบไปเรียกบริกรคนดังกล่าวมา ก่อนที่เขาจะบอกว่าใครส่งมา แต่ว่าโต๊ะตรงนั้นก็ว่างเปล่าไปเสียแล้ว ฉับพลันน้ำตาของเบญญาภาก็พรั่งพรูออกมาเป็นสายราวกับเขื่อนแตก
เสียงดนตรีและผู้คนมากหน้าหลายตากึกก้องกังวานไปทั่วพื้นที่ แต่เสียงเพลงและผู้คนก็ไม่อาจให้ความโศกเศร้าเสียใจได้เลือนหายไป เธอนั่งดื่มต่อตรงนี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว จนแฟนของนุ๊กนิกโทรตามหลายรอบ ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยกลับ
“เบญ!!!! กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่ให้ เธอคงขับรถกลับเองไม่ไหวหรอก” นุ๊กนิคตัวแทนในกลุ่มเพื่อน ๆ รีบเดินมาบอกเบญญาภา ก่อนที่เธอจะถูกแฟนหนุ่มโทรตามจนต้องรีบออกไปรับโทรศัพท์ทางด้านนอก จังหวะเดียวกันมีใครบางคนลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ หญิงสาวที่กำลังนั่งดื่มอยู่
“หวัดดี ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย” โดยปกติแล้วเขาไม่ชอบสถานที่ที่มีเสียงดังแบบนี้ แม้เขาจะยังไม่ถึงวัยที่จะเอือมระอากับสถานที่แบบนี้ก็ตาม แต่วันนี้เขาแหกกฎของตัวเองในทุกๆ เรื่อง เพื่อตามบอกความจริงกับเธอ
“ตามสบาย” เธอตอบทั้งที่ไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด แต่เสียงนั้นมันก็ช่างคุ้นหูซะเหลือเกิน ถึงแม้จะมีเสียงเพลงดังมากลบเสียงทุ้มของเขาบ้างก็ตาม แต่เธอไม่สนใจที่จะสังเกตุใบหน้าของคนที่นั่งด้วยเลยสักนิด
“ซดเหล้าเป็นน้ำแบบนี้ อกหักมารึไง” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอดื่มหนัก
“...........” เธอมองหน้าเขา และไม่มีกะจิตกะใจจะต่อว่าอะไร แต่ด้วยความที่ฤทธิ์แอลกอฮอร์ทำให้เธอไม่รู้ว่าเป็นเขา
เขายังดูเธอดื่มและก็ชนแก้วกับเธอต่อไปเรื่อย ๆ รูปร่างหน้าตาของเขาเป็นจุดเด่นและเป็นที่น่าสนใจของเพศตรงข้ามอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจใครนอกจากหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สายตาของเธอมองเขาอยู่นานแล้ว ความมึนเมาที่เอ่อล้นก็ทำให้เธอจำเขาไม่ได้