ตอนที่ 5
3 ปีต่อมา
หญิงสาวที่ต้องไปถึงร้านมุกบลิสเตอร์ ร้านเครื่องประดับที่อยู่บนสยามพารากอนให้ทันภายในเวลาบ่ายสองโมงวันนี้ โชคดีที่เธอมีบิ๊กไบค์คู่ใจ จึงพาไปได้ทันเวลา เพราะในเมืองยามนี้นั้นเต็มไปด้วยรถติดอย่างมาก พอบิดคันเร่งรถคู่ใจก็พาเธอพุ่งฉิวไม่นานนักก็มาถึงจุดหมายได้ทันเวลาพอดี
ร้านมุกบลิสเตอร์ หนึ่งในธุรกิจหลายอย่างของเขา และร้านเครื่องประดับสร้อยไข่มุกก็เป็นหนึ่งในสินค้าของเขาด้วยอีกเช่นกัน ประตูกระจกทางเข้าด้านหน้ามีตัวหนังสือเป็นเหล็กเรียบ ๆ เขียนชื่อร้านติดเอาไว้ เบญญามาถึงที่นี่ตอนบ่ายโมงสี่สิบห้า เธอนึกโล่งใจเป็นที่สุดที่ไม่ได้มาสาย
หญิงสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยแต่งกายประณีตผู้อยู่หลังโต๊ะหินอ่อนที่หรูหรา ส่งยิ้มสุภาพมาให้เบญญาภาที่กำลังก้าวเข้ามาอย่างเป็นมิตร
เบญญาภาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว คลุมทับด้วยสูทสีเทาเข้ม มันช่างเรียบกริบที่สุดเท่าที่เธอเคยใส่มา และมันก็ทำให้เธอดูเรียบร้อยไร้ที่ติ
“ดิฉัน!!..เบญญาภาที่นัดเจ้าของร้านเอาไวค่ะ” พนักงานในร้านเลิกคิ้วข้างหนึ่งเล็กน้อยขณะที่หญิงสาวผู้มาใหม่ ยืนประหม่าอยู่ตรงหน้า
“กรุณารอสักครู่ค่ะ พอดีว่าทางร้านมีเปิดตัวคอลเลกชั่นเครื่องประดับรุ่นใหม่ล่าสุด ในช่วงสัปดาห์นี้ค่ะ คุณเขมทัศน์คงจะอยู่ที่นั่น แต่ถ้านัดเอาไว้แล้ว สักครู่เดี๋ยวเขาคงจะเข้ามาค่ะ”
ระหว่างที่นั่งรอเบญญาภาก็ทัดปอยผมที่ลุ่ยออกมาไปอยู่หลังหูขณะที่แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่น ที่ต้องมาสัมภาษณ์เขาในวันนี้
“คุณเขมกลับมาแล้ว เชิญคุณเข้าสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ ห้องในสุดทางด้านขวามือนะคะ” พนักงานยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
ตอนนี้เบญญาภาได้อยู่กับอดีตหนุ่มฮอตสมัยเรียนเมื่อห้าปีที่แล้ว เขาดูดีขึ้นอีกมากเป็นกอง และเขาก็บึกบึนกว่าแต่ก่อนอีกด้วย ว่าแต่เขายังเป็นจอมบงการอยู่หรือเปล่านะ! ฉับพลันหัวใจของเธอก็ถูกดึงดูดจากเสน่ห์ของเขาอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ การได้คุยกับคนปกติ ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเหลือเกิน แต่การที่ได้คุยกับเขานั้น ก็เล่นทำเอาเธอประหลาดใจแทบทุกครั้ง
“พี่ ดีใจจังที่ได้เจอเบญอีก!” เขาชวนคุย ก่อนหน้านี้สองสัปดาห์หัวหน้างานเธอบอกให้มาสัมภาษณ์เจ้าของอัญญมณี เบญญาภาก็ไม่นึกว่าจะเป็นเขา แต่พอดูชื่อเท่านั้นแหละเธอถึงกลับไม่อยากมาสัมภาษณ์ แต่ก็ไม่รู้จะบอกหัวหน้ายังไง เธอไม่คิดว่าเขาจะมาทำงานทางด้านนี้ด้วยซ้ำ
“สวัสดีค่ะ พี่เป็นยังไงบ้าง”
“ก็สบายดีครับ แต่เบญดูสวยขึ้นนะ คิดยังไงถึงไปเป็นคอลัมนิสต์ครับ” เขาฉีกยิ้มขณะพิจารณาเรือนร่างของเธอ ก่อนจะเดินมาโอบไหล่อย่างถือวิสาสะ เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนไหล่เธอแบบแสดงความเป็นเจ้าของ หญิงสาวขยับเท้ายุกยิกด้วยความอาย การได้เจอเขาเป็นเรื่องดี แต่นี่เขาก็ทำตัวสนิทสนมเธอจนเกินไป
“เบญชอบทางด้านนี้ค่ะ”
“อ๋อ ลืมไปว่าเบญจบนิเทศมา” พอเธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ก็เห็นว่าอีกฝ่ายจับจ้องด้วยสายตาดุจเหยี่ยว เวลาผ่านไปไม่นานเธอก็สัมภาษณ์เขาเสร็จ จึงได้ขอตัวกลับ
“พี่อยากชวนเบญดินเนอร์เย็นนี้..ว่างมั้ยครับ”
“เบญคงไม่สะดวกค่ะ อันที่จริงเบญมีคู่หมั้นแล้ว ลืมบอกพี่ไป”
“อืม..ไม่เป็นไรครับ”
“ขอบคุณที่ให้สัมภาษณ์นะคะ” เขมทัศน์มองหญิงสาวที่เดินจากไปอย่างเสียดาย
เบญญาภาขับมอเตอร์ไชด์คู่ใจกลับไปยังที่ทำงานของเธอ นุ๊กนิกกับเบญญาภาสองคู่หูเพื่อนซี้ ตั้งแต่ทั้งคู่เรียนจบก็ไปทำงานที่เดียวกัน ตามแนะนำของรุ่นพี่ที่เป็นแฟนของนุ๊กนิก และราเชนคู่หมั้นของเบญญาภาเขาก็ทำงานที่เดียวกันกับเธอแต่อยู่คนละแผนก