เล่าความจริง

1143 Words
สองพ่อลูกออกจากป่าไผ่ตรงไปยังที่นัดพบกับคนของฮ่องเต้ จ้าวเฟยหย่งเห็นสีหน้าบุตรชายมีคำถามมากมาย ก็คิดว่าถึงแม้ต้องบอกความจริงสักที เมื่อขึ้นหลังม้าก็ควบออกจากเมือง มาถึงกลางทางจึงผ่อนแรงให้ม้าเดินเหยาะๆ จากนั้นก็เอ่ยปาก " หรงเอ๋อร์ ลูกสงสัยใช่ไหมว่าเหตุใดเสด็จลุงเจ้ากับพ่อจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของสกุลเฟิ่ง"จ้าวอ๋องถามบุตรชาย "พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ แค่สุสานหลวงแห่งหนึ่งลูกมองเยี่ยงไรก็หาความสมเหตุสมผลมิเจอ สมบัตินั้นสามารถทำให้ทั้งสี่แคว้นยอมก่อสงคราม องค์ชายต่างๆยอมก่อกบฏเชียวหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าเป็นภูเขาทองคำกัน" "ลูกเคยได้ยินเรื่องกองทัพมังกรดำหรือไม่?" "เคยได้ยินมาบ้างพะย่ะค่ะ ว่ากันว่าก่อตั้งโดยราชวงศ์ก่อนหน้าดูเหมือนจะเป็นฮ่องเต้พระองค์แรกของราชวงศ์หนาน หนานฉู่เยี่ยน ใช่หรือไม่พะย่ะค่ะ" "ถูกต้อง หนานฉู่เยี่ยนก่อตั้งกองทัพมังกรดำ ว่ากันว่ามีอนุภาพมากนัก" "หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดราชวงศ์หนานจึงล่มสลายแตกเป็นสี่แคว้นล่ะพะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ในเมื่อกองทัพเกรียงไกรเช่นนั้น" "กองทัพมังกรดำถูกฝึกให้หลบซ่อนออกฆ่า รุกรับ เดินหน้าถอยทัพไม่มีใครเทียบ แต่พวกเขาเชื่อฟังเพียงป้ายคำสั่ง ไม่ใช่คนไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครขอเพียงในมือมีป้ายก็สามารถออกคำสั่งได้หลังจากป้ายหายไปฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮ่องเต้หนานเกิงควบคุมกองทัพไม่ได้ขุนนางก่อกบฏภายใน สุดท้ายจึงแตกออก ต้าเหลียงของเราเดิมเป็นเพียงขุนนางขั้นปลายเท่านั้น หลังจากแตกแยกจึงข้ามฟากมาก่อตั้งแผ่นดินตนเองสถาปนาขึ้นเป็นราชวงศ์ต้าเหลียงปกครองโดยสกุลจ้าวของเรา" จ้าวเฟยหย่งลงจากหลังม้า จากนั้นก็จุงม้าข้ามลำธารก่อนจะเล่าต่อ "หลังจากก่อตั้งต้าเหลียงก็ปกครองมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีข่าวของป้ายคำสั่งมังกรดำเล็ดลอดออกมา เฉิงอ๋องซึ่งเป็นท่านลุงของพ่อก็ก่อกบฏ เสด็จปู่ของลูกรู้ระแคะระคายเรื่องกบฎจึงหาเรื่องไล่เสด็จย่าเจ้าออกจากวังตอนนั้นนางยังเป็นเพียงกุ้ยเฟยพ่อจึงได้อยู่ข้างนอกมาตลอด จนกระทั่งเกิดเรื่องพอจึงรู้ว่าใต้ตำหนักอ๋องมีห้องลับใต้ดิน แม่ทัพเซียวจิ้งท่านตาเจ้านำเสด็จแม่กับเสด็จป้าของเจ้ามาฝากไว้ ทิ้งทหารไว้ปกป้องหนึ่งร้อยนาย จากนั้นก็เข้าวังไปช่วยเสด็จพ่อ" "ลูกไม่เข้าใจ สกุลเพิ่งเป็นเพียงสกุลช่างหลวง แม้ใต้เท้าเฟิ่งจะมีฝีมือ แต่สกุลเฟิ่งก็ไม่มีพิษภัยต่ออ๋องเฉิงนี่พะย่ะคะ"จ้าวเฟยหรงยังคงสงสัย จ้าวเฟยหย่งมองท้องฟ้าสีแดงอมส้ม นี่เป็นเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกเต็มที จึงเอ่ยต่อ "เดิมใต้เท้าเฟิ่งนั้นแช่ซ่ง หลังจากราชวงศ์หนานแตกพ่ายก็หนีมาพร้อมกับไท่ซ่างหวงองค์แรกหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้แซ่เฟิ่งของมารดา จึงเป็นสกุลเฟิ่งนับแต่นั้นมาตอนอยู่แคว้นหนาน พวกเขาคือช่างหลวงใหญ่และยังควบคุมการก่อสร้างพระราชวัง กระทั่งสุสานของฮ่องเต้หนานฉู่เยี่ยนพวกเขาก็เป็นคนก่อสร้าง ป้ายคำสั่งนั้นนอกจากสามารถสั่งกองทัพมังกรดำแล้วเมื่อครบคู่สามารถเป็นกุญแจเข้าสุสานหลวงได้" "นี่คือสาเหตุที่พวกเขาตามหาคุณชายเฟิ่ง เพราะคิดว่าแผนที่สุสานอยู่กับเขาหรือพะย่ะค่ะ นี่คือสาเหตุที่ถูกล้างตระกูลหรือ" "ป้ายคำสั่งเป็นของตระกูลเสด็จย่าเจ้าที่ไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร ส่วนอีกชิ้นหนานฉู่เยี่ยนมอบให้เฟ่งอวิ่นเช่อหรือใต้เท้าซ่งในอดีตกับมือของเขา ป้ายคำสั่งนั้นจึงอยู่กับตระกูลเฟิ่งตลอดมา มีเพียงเขาเป็นคนสูดท้ายที่รู้ที่ตั้งของสุสาน หลังจากผู้เฒ่าท่านนั้นตายไป สิ่งของคงตกอยู่กับบุตรชายคนโต อ๋องเฉิงฆ่าบรรดาองค์ชายที่ไม่สวามิภักจนหมด และยังคงต้องการป้ายคำสั่งกองทัพมังกรดำ จึงค้นทั่วจวนแต่ไม่พบคน เพื่อปกป้องพวกเราที่เป็นสายพระโลหิต สกุลเฟิ่งยอมถูกสังหารทั้งตระกูลแต่ไม่ยอมปริปากเรื่องที่ซ่อน แม่ทัพเซียวปราบกบฏสำเร็จ จึงมารับพวกเรา เหล่าองค์ชายที่เข้าร่วมหารกวาดล้างครั่งนั้นถูกประหารทั้งหมด จึงเหลือแค่เสด็จลุงกับพ่อเท่านั้น" "ที่แท้ สกุลเฟิ่งมีบทบาทมากกว่าที่คนทั่วไปรับรู้ เช่นนั้นที่ทุกคนตามหาจริงๆคือป้ายคำสั่งสองชิ้นนั้นหรือพะย่ะค่ะ" "เพียงชิ้นเดียว ชิ้นแรกเป็นสมบัติเสด็จย่าเจ้า อีกชิ้นเป็นสมบัติตระกูลเฟิ่ง" "วันนี้เหตุใดเสด็จพ่อถึงถามเซี่ยหนานอินเรื่องท่านผู้เฒ่าเฟิ่งอวิ่นเช่อเล่าพะย่ะค่ะ หากเป็นเช่นเสด็จพ่อกล่าวมา แม้แต่เสด็จปู่ก็ยังไม่อาจเคยเห็นด้วยซ้ำ เซี่ยหนานอินอายุเพียงแค่สามสิบห้า จะรู้ได้อย่างไร" จ้าวเฟยหรงยังคงสงสัย แม้ว่าเขาขึ้นชื่อว่าคนฉลาด แต่หากเทียบกับเสด็จลุงฮ่องเต้ผู้นั้น กับเสด็จพ่อผู้นี้เขาก็คือคนโง่ดีๆนั่นเอง จ้าวเฟยหย่งเอ่ยต่อ "เมื่อตอนเจ็ดขวบ ปู่ของเจ้าเคยให้เกียรติเสด็จไปงานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่า ข้าซุกซนและหลงเข้าไปยังโถงบรรพชน แต่สกุลเฟิ่งมีโถงบรรพชนที่กราบไหว้อยู่ด้านนอก ส่วนที่ข้าเจ้าไปนั้นเป็นเหมือนเขตหวงห้ามของสกุล ข้าบังเอิญเห็นภาพวาดบุรุษผู้นึง นั่นคือเฟิ่งอวิ่นเช่อครั้งวัยหนุ่มกับฮูหยินของเขา เด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนกับเขาถึงเจ็ดส่วน น้องสาวของนางเหมือนกับฮูหยินท่านนั้น มีเพียงซ่งจื่อห่าวที่ใบหน้าคล้ายเฟิ่งจื่อหยาง หากเซี่ยหนานอินได้เห็นใบหน้าของจื่อห่าวเขาย่อมเดาได้ทันที หรงเอ๋อร์สกุลหลิวตอนนี้ก็คล้ายอ๋องเฉิงในคราวนั้น ต้องการให้องค์ชายสามขึ้นครองราชย์ หากหลิวต่งเคยเห็นภาพวาดนั้นเด็กจื่อหรูนั่นย่อมอันตราย" ตะวันตกดินแล้วทั้งสองคนกับองครักษ์เดินถึงค่ายฝึกกลางป่าพอดี เด็กสามคนนั้นจำต้องปกป้อง ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นทายาทสกุลเฟิ่ง แต่บรรพบุรุษของพวกเขาทั้งตระกูลยอมเสียสละเพื่อรักษาสายพระโลหิตอย่างพวกเขาเอาไว้ ********************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD