ประมุขหอฮวาเซียง ฮวาเฟยหยาง

1297 Words
ครึ่งชั่วยามต่อมาจ้าวเทียนเฟยก็ฟื้น "ข้าชื่อจ้าวเฟย ส่วนน้องชายข้าจ้าวหยาง ขอบพระคุณพวกท่านมาก" จ้าวเทียนเฟยพูดขอบคุณแต่มิได้บอกชื่อจริงแก่พวกเขาซ่งจื่อหรูพยักหน้ารับรู้ นางแค่ช่วยชีวิตคนเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาของนาง แค่ต้องรับมือกับยายเฒ่าประสาท วันๆนึงก็เหนื่อยพอแล้ว ทั้งคู่แปลกใจที่นางไม่ถามว่าเหตใดพวกเขาจึงได้รับบาดเจ็บ จ้าวเทียนหยางจึงเอ่ยขึ้น "เจ้าหนูแซ่ซ่ง เจ้าไม่อยากรู้หรือเหตุใดพวกข้าถูกทำร้าย" เมิ่งหยวนเองก็มองหน้าซ่งจื่อหรู จิงอี้เองก็อยากรู้ว่านางอยากรู้ต้นสายปลายเหตุหรือไม่แต่ซ่งจื่อหรูกล่าวเพียงว่า "ข้าถือคติ อยากรู้เรื่องคนอื่นให้น้อยลง ก็มีชีวิตยาวนานขึ้น หากอาการดีขึ้นพวกเจ้าสามารถไปได้ทุกเมื่อ ข้าไม่รู้ว่ายังมีศัตรูของพวกเจ้าตามหาอยู่หรือไม่ หมู่บ้านข้าชาวบ้านหากินเลี้ยงปากท้องเท่านั้น ข้าไม่อยากให้พวกเขามีอันตรายพวกท่านไปเถอะ" จากนั้นก็สะพายตระกร้าขึ้นหลังจากไป จิงอี้ส่งสายตาให้ทั้งคู่จ้าวเทียนหยางพยักหน้าเบาๆจนผู้อื่นไม่อาจสังเกตได้จากนั้นก็จากไป สามคนนั้นจากไปไกลแล้วสักพักก็มีชายสองคนเดินมายังบริเวณปากถ้ำ จ้าวเทียนหยางให้พี่ชายพักผ่อนก่อนจะออกมาพบทั้งสองคน "ใช่คนของหลิวต่งหรือไม่ "จ้าวเทียนหยางถามผู้มาใหม่ "เรียนท่านประมุขหอ ไม่ใช่คนของเสนาบดีหลิวพะย่ะคะ แต่เขาน่าจะมีส่วน" "แล้วรู้หรือไม่ว่าผู้ใดลงมือ" "เอ่อ ท่านประมุขหอดูเหมือนที่ซื่อจื่อคาดการณ์จะถูกต้อง อ๋องเฉิงยังไม่ตายพะย่ะค่ะ คนที่อยู่เบื้องหลังข่าวลือเรื่องแผนที่สุสานหลวงน่าจะเป็นอ๋องเฉิง แต่เสนาบดีหลิวผู้นั้นกระหม่อมเองยังหาความเชื่อมโยงกับอ๋องเฉิงไม่ได้พะย่ะค่ะ" "ไปสืบต่อ รายงานเสด็จพี่ด้วยเจ้าช่วยไปสืบเรื่องเด็กผู้หญิงที่ช่วยพวกเราวันนี้หน่อยดูเหมือนองครักษ์จิงจะเกรงใจนางมาก ข้าจะรอที่นี่จนกว่าเสด็จพี่จะดีขึ้น คนเหล่านั้นเห็นข้าตกหน้าผาคงคิดว่าไม่รอดน่าจะยังไม่ตามหาตอนนี้" องครักษ์ส่วนตัวกลับไปแล้วจ้าวเทียนหยางเดินกลับมาหาพี่ชายทีนอนหลับอยู่ ตอนถูกยิงเขาโดดลงหน้าผา ไม่มีใครรุ้ว่าเขามีวรยุทธ์นอกจากจ้าวเฟยหรงและองครักษ์ของเขาจิงอี้กับจิงเสวียน ดูเหมือนเขาตกหน้าผาแต่ทีจริงแล้วเขาไม่ได้ตกลงมา เพียงแต่เสด็จพี่หนักเกินไปอีกทั้งยังบาดเจ็บเขาจึงไม่คล่องตัว แถมยังถูกหมาป่าล้อมอีกใครจะคิดว่าฮวาเฟยหยางยอดฝีมืออันดับหนึ่งในใต้หล้าจะมาแพ้หมาป่าสามตัว น่าอนาจแท้หายดีเมื่อไหร่จะจับถลกหนังยกรัง มาทำเสื้อขนสัตว์ให้รู้แล้วรู้รอดแก้แค้นซะเลย จ้าวเทียนเฟยฟื้นขึ้นมาก็มองหน้าน้องชาย จนในที่สุดจ้าวเทียนหยางก็เอ่ยถาม "เสด็จพี่ ทรงมองหน้าหม่อมฉันแล้วไม่ตรัสอันใดเลยหรือพะย่ะค่ะ ทรงมองจนหม่อมฉันกลัวแล้ว" "น้องห้า เจ้าเรียนวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไหร่" "หม่อมฉันเป็นแค่องค์ชายเสเพลไปวันๆ เสด็จพี่ทรงเข้าใจผิดแล้วพะย่ะค่ะ" "ตอนที่ถูกไล่ล่า เจ้ากระโดลงหน้าผาแถมยังแบกข้าไว้บบนหลัง หากไม่มีวรยุทธ์หน้าผาสูงเพียงนั้นเราทั้งคู่คงไม่รอด หรือต่อให้มีวรยุทธ์ก็ต้องสูงมาก ในเมื่อเจ้าไม่อยากบอกก็ช่างเถอะ จำไว้ว่าข้าคือพี่ชายของเจ้า ไม่มีทางคิดร้าย" จ้าวเทียนเฟยหลับไปแล้ว เด็กคนนั้นทิ้งเสบียงไว้ให้เขามากพอ องครักษ์ลับกลับมาแล้ว "ได้เรื่องหรือไม่" "เรียนประมุข กระหม่อมพบจิงเสวียนแล้วจึงได้พูดคุย เด็กคนนั้นนางชื่อซ่งจื่อหรู ตอนนี้พระชายาพักอยู่ที่บ้านนาง พระชายาถูกพิษเดิมนางสามรถถอนพิษได้ แต่หมอเมิ่งท่านนั้นเหมือนจะจงใจให้พระนางไปพักที่นั้นขอรับ" "เจ้าหมายถึงหมอที่มาด้วยผู้นั้นหรือ คนที่รักษาให้เสด็จพี่คนนั้น" "เรียนประมุขหอ เขาเองก็ถูกพิษชนิดเดียวกับพระชายา เกรงว่าคงถูกผู้อื่นวางยาเช่นกัน เดิมทีแม่นางน้อยมีวิธีถอนพิษอีกทั้งยังคิดจะช่วยชีวิตเขาด้วย พระชายาอาการดีขึ้นแต่อยู่ๆก็ทรุด หลังจากที่เขามาตรวจก็บอกว่าพิษกำเริบ คงเพราะรู้ว่าแม่นางซ่งอาจมีวิธีถอนพิษจึงทำให้พระชายาอาการกำเริบเพื่อให้บอกวิธีรักษา สุดท้ายนางจึงบอกว่าต้องใช้หญ้าเหมันต์ขอรับ" องครักษ์รายงานจ้าวเทียนหยางกำมือแน่น เกลียดที่สุดคือพวกที่เสแสร้งว่าตนมีคุณธรรมแต่กลับทำร้ายผู้อื่นลับหลัง "แล้วจากนั้นเล่า จิงเสวียนยังบอกอะไรอีก" "นางจึงขึ้นเขามาเพื่อเก็บสมุนไพร จิงเสวียนบอกว่าเมิ่งหยวนเห็นว่าบ้านของนางปลูกดอกไม้ล้อมรอบเพื่อจะกระตุ้นพิษงูจึงแนะนำท่านอ๋องให้พระชายามาพักที่บ้านของนาง แต่เพราะอาการพระชายากลับดีขึ้นไม่เป็นอย่างที่คิด สุดท้ายเมิ่งหยวนอาศัยจังหวะแอบโปรยผงม่านถัวหลัวบนร่างกายของน้องชายและน้องสาวนาง เพื่อให้กระตุ้นอาการพระชายาและให้เด็กทั้งสองถูกพิษไปด้วยขอรับ" "แล้วนางจะจัดการอย่างไร จิงเสวียนได้บอกหรือไม่" "จิงเสวียนบอกว่าแม่นางน้อยบอกกับเขาว่าเมิ่งหยวนไวต่อกลิ่นสมุนไพร หากเปลี่ยนสูตรยาของเขาๆย่อมรู้จึงได้พาเมิ่งหยวนขึ้นเขาเพื่อให้จิงเสียนต้มยาถอนพิษให้พระนาง ส่วนเมิ่งหยวนเองก็ถูกนางวางยาเช่นกันขอรับ" "นางจะวางยาเขา เมิ่งหยวนเป็นหมออีกทั้งยังเก่งวิชาแพทย์ นางจะวางยาเขาได้อย่างไร" "ประมุขท่านสังเกตุเมิ่งหยวนหรือไม่ ว่าเขามีอาการหนาวและมือสั่น นั่นเพราะว่าแม่นางน้อยบอกว่าพิษงูจะรุนแรงที่สุดหากได้กลิ่นดอกหลันฮวา(ดอกกล้วยไม้) ซึ่งทางขึ้นเขายิ่งลึกเท่าไหร่ดอกหลันฮวายิ่งมีมากขึ้น หากบวกกับเจอหญ้าเหมันต์อาการหนาวสั่นจะยิ่งรุนแรง จิงเสวียนบอกว่า ไม่ควรที่สุดคือแตะต้องน้องๆของนาง ครั้งนี้เมิ่งหยวนเห็นทีลำบากเสียแล้ว" "ข้าไม่เข้าใจ เหตใดเมิ่งหยวนถึงวางยาอาสะใภ้ เขาไม่มีความแค้นใดๆสักนิด หรือว่ารู้จักก็ไม่น่าใช่" "เรียนประมุข เมิ่งหยวนคนนี้คือหมอพิษโอสถ ไห่เมิ่งหยวนขอรับเดิมยาพิษชนิดนนี้เขาก็เป็นคนสร้างแต่ดูเหมือนอ๋องเฉิงจะให้คนไปทำลายสำนักแล้วแย่งมา บางทีอาจแค่อยากได้ตัวยาถอนพิษจึงก่อเรื่องมากมาย สุดท้ายไปแตะคนที่ไม่ควรแตะเข้าขอรับ ยังมีอีกเรื่อง พระชายาหมั้นหมายนางให้ซื่อจื่อแล้วขอรับ" นี่เป็นข่าวเกินคาดจริงหากพบเสด็จพี่ต้องพูดคุยสักหน่อย ก่อนจะให้พวกเขาคอยอารักขาบริเวณรอบๆ ตอนนี้อาสะใภ้ก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ไม่รู้เสด็จอารู้หรือยัง ให้แบ่งคนของหอฮวาเซียงไปคุ้มครองซ่งจื่อหรูบางส่วน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD