“อื้ออออออ อ๊ะ คุณ อื้อ ดะ...เดี๋ยวก่อน อื้อ”
หลังจากนั้นไม่นาน มิรันที่เดินตามไบรอันขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งนี้ โรงแรมที่เธอจะไม่มีวันลืมก่อนจะโดนกระชากร่างเข้าหาพร้อมกับจูบร้อนแรงหนักหน่วงถูกส่งมาให้แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยจูบ แต่จูบที่กำลังได้รับนั้นแทบทำให้เธอสร่างเมาเลยก็ว่าได้ เรียวลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับระริกหาเรียวลิ้นของเธอ มิรันแทบทำอะไรไม่ถูกมือเล็กได้แต่ยกค้างอย่างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนดี
ส่วนไบรอัน ตอนนี้ความต้องการเข้าครอบงำจนเขาไม่สนใจปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ ปากร้อนกดจูบไม่ยอมลดละพร้อมด้วยมือใหญ่ลูบไล้ร้อนรนไปทั้งร่างบาง ก่อนจะดันให้เธอนอนลงบนเตียงใหญ่กลางห้องนอนโดยที่มิรันไม่ทันได้แม้แต่ขัดขืน เมื่อตอนนี้เธอกำลังเคลิ้มไปกับจูบหนักหน่วงของเขา และไม่นานร่างสาวก็เปลือยเปล่า ไบรอันรีบลุกขึ้นเปลื้องผ้าตัวเองบ้าง ก่อนจะกลับเข้ามาหาร่างบางอีกครั้ง เมื่อสวมใส่เครื่องป้องกันเรียบร้อยแล้ว
“ฮึ่ม! ผมกำลังจะบ้าตายกับคุณแล้วรู้ไหม”
เสียงแหบกระเส่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับกดเอ็นใหญ่เพื่อที่จะสอดใส่เข้าไปในร่องรักสีหวานที่กำลังพรั่งพร้อมให้เขาเข้าไปทักทาย
“ช้าๆได้ไหม”
เสียงสั่นเอ่ยขึ้นแผ่วเบา เมื่อยังไงเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รักษามันเอาไว้ให้ใครอีก เธอจะมีความสุขกับสิ่งที่เป็นของเธอบ้าง ส่วนไบรอันไม่ได้สนใจ เมื่อความต้องการของเขานั้นมากมายจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้วเพราะปกติเขาแทบไม่ได้ทำอะไรมีแต่พวกผู้หญิงที่พยายามปลุกเร้าและสุดท้ายพวกเธอก็เป็นฝ่ายควบคุมและจัดการเองทุกอย่างแม้กระทั่งสวมใส่ที่ป้องกันให้กับแท่งรักของเขา แต่คนตรงหน้านั้นแทบนอนเป็นตอไม้ ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างแม้กระทั่งตอบสนองจูบตอบเขาก็เงอะๆงะๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องปลดปล่อย เขาคงไล่เธอกลับไปแล้ว
สวบ!!!
“อ๊ะ!!! อื้อออออออ”
ไบรอันสอดใส่ความใหญ่โตเข้ามารวดเร็วและรุนแรงก่อนจะพบว่าหญิงสาวที่นอนกัดปากแน่นใต้ร่างของเขาตอนนี้ยังไม่เคยโดนแตะต้องล่วงล้ำร่องรักมาก่อน เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าโตมาขนาดนี้แล้วเธอยังไม่เคยนอนกับใครได้ยังไงกัน
“คุณทนมาขนาดนี้ได้ยังไง”
เขาเอ่ยถามอย่างไม่ดูสถานการณ์เลยสักนิด เมื่อมิรันทั้งเจ็บ ทั้งปวดจนแทบทนไม่ไหวอยากให้เขาเอาออกไปจากร่างของเธอแต่ไบรอันแทบไม่ตอบสนองกับสิ่งเร้าใดใดเมื่อแก่นกายของเขาโดนบีบรัดอัดแน่นจากร่างสาวจนแทบไปต่อไม่ได้ จะเข้าก็ไม่ได้จะออกก็เอาออกไม่ได้อีก
“อื้อ ฉันเจ็บ ช่วย...ช่วยเอาออกก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้ ถ้าไม่ทำต่อรับรองคุณได้ขยาดกับเซ็กแน่นอน”
“งะ...งั้นก็ช่วยทำให้มันเสร็จได้ไหม ฉันเจ็บ”
“หึหึ แน่นอนอยู่แล้ว”
รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือเอื้อมลงมายกขาเรียวทั้งสองขึ้นสูงเพื่อที่จะได้ง่ายต่อบทรักอันแสนลำบากนี้ ก่อนจะเริ่มขยับกายใหญ่ตามจังหวะรักเนิบช้าเมื่อเข้าใจว่านี่เป็นครั้งแรกและเธอต้องเจ็บมากแน่นอน ส่วนมิรันนั้น ตอนนี้รู้สึกเจ็บจนชาไปหมดทั้งร่องรักเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ความรู้สึกแปลกใหม่จะค่อยๆเกิดขึ้นเมื่อเขาเริ่มขยับกายใหญ่อีกครั้ง
“อ๊ะ อ๊า อื้อ”
จากนั้น เสียงของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนไปตามอารมณ์และความรู้สึกที่เริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อความเจ็บปวดค่อยๆจางลงแทนที่ด้วยความซ่านสยิว มือเล็กยกขึ้นโอบร่างใหญ่ที่ตอนนี้กำลังสนุกอยู่กับปทุมถันกลมกลึงด้วยปากอันช่ำของของเขา เรียวลิ้นสากร้อนตวัดดูดดึงเหมือนกับว่ามันเป็นอาหารรสเลิศที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยรู้สึกอิ่มเอมพร้อมทั้งขยับกลางกายสอดกระแทกหนักหน่วงไปด้วยอย่างไม่ผ่อนแรงหรือหยุดพักเลยสักนิด
“เฮ้อออออออ”
กลับมาทางด้านคุณเนตรา ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนเช้าของวันใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมกับแขกคนสุดท้ายได้ถูกส่งขึ้นรถกลับบ้านไป เมื่องานแต่งไม่มีเจ้าสาวทุกอย่างเลยพังลงอย่างไม่เป็นท่าโดยที่ไม่มีใครรู้เหตุผลเลยสักคน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าบ่าวของงานที่พยายามกดโทรถามเพื่อนของมิรันถึงสาเหตุที่เธอหนีงานแต่งไปอย่างนี้ และคำตอบก็เหมือนๆกันเมื่อไม่มีใครรู้เหตุผลเลยสักคน
“เรากลับบ้านก่อนไหมคะคุณผู้หญิง ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เผื่อคุณหนูอยู่ที่บ้าน”
สาวใช้คนสนิทของมิรันเอ่ยขึ้นเพราะดูท่าทางคุณผู้หญิงของเธอนั้นเหนื่อยเต็มทนแล้ว ก่อนที่คุณเนตราจะพยักหน้าให้พร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนแก้วเพื่อขอเกาะเดินออกจากโรงแรม เมื่อทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจจนแทบหมดแรงจะก้าวเดินแล้ว
“หึ! สมน้ำหน้า งานนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ!”
“นุช คุณมาทำอะไรที่นี่”
ร่างเพรียวบอบบางค่อยๆหันไปมองตามเสียงเรียก ก่อนที่รอยยิ้มหวานจะถูกส่งไปให้กับเจ้าบ่าวงานล่มที่ยืนทำหน้าตาบูดบึ้งอย่างไม่พอใจที่เห็นเธอที่นี่ ก่อนเขาจะหันไปมองรอบๆกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเข้า
“ก็มาแสดงความยินดีกับคุณไงคะ ที่รัก...”
“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องมา”
“หึหึหึ ถึงจะมาก็ไม่เห็นเป็นเป็นไร ได้ข่าวว่าเจ้าสาวหายตัวไปเหรอคะ น่าเสียดายจังนะคะอุตส่าจัดซะหรูหราใหญ่โต”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
“โธ่ ตอนนี้เรื่องงานแต่งของคุณกำลังโด่งดังไปทั่วโซเชียล ถึงนุชไม่พูดเขาก็รู้ค่ะ”
วาคินถึงกับยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างเหนื่อยล้ากายใจ เขาไม่รู้สาเหตุที่มิรันหายตัวไปเลยสักนิด เขาต้องเดินไปขอโทษแขกทั่วงานจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเพราะพูดหรือตอบอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“หรือว่าที่รันหายตัวไปเพราะเธอ?”
“นี่อย่ามากล่าวหากันแบบนี้นะคะ นุชไม่เสียเวลามาทำเรื่องแบบนี้หรอก แค่นี้ยัยมิรันก็ไม่เคยชนะนุชอยู่แล้ว ถึงจะแต่งงานไปแต่คุณก็ยังเป็นของนุช เรื่องอะไรนุชจะกีดกันมันกับคุณคะ เมื่อคุณรวยนุชก็รวย”
นีรนุชบอกออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก เมื่อมันคือความจริง ไม่มีทางที่วาคินจะทอดทิ้งเธอได้แน่นอน
“เฮ้อ กลับไปก่อนเถอะ วันนี้ผมเหนื่อยเหลือเกิน”
“ให้นุชอยู่ดูแลไหมคะ เผื่อว่าจะหาย...เหนื่อย”
“ไม่ต้อง วันนี้ผมเหนื่อยมามากพอแล้ว แล้วถ้าใครมาเห็นคุณอยู่กับผมอีกมันจะกลายเป็นอีกเรื่อง”
“งั้นก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะที่รัก”
นีรนุชบอกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหอมแก้มวาคินอย่างไม่ได้กลัวว่าใครจะมาเห็นก่อนจะเดินออกไปด้วยหัวใจที่มีความสุข เธอไม่เคยอยากให้เขาแต่งงานกับมิรันแต่เธอก็ไม่ได้ขัดข้องถ้าเขาจะแต่งกับมิรันเหมือนกัน
“นะ...นี่มันอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไม...อุ๊บ!”
แก้วที่เดินกลับเข้ามาในห้องประชุมที่ใช้จัดงานของโรงแรมเพื่อเอาของที่คุณเนตราลืมไว้ถึงกับต้องรีบเดินหลบมุมและยกมือขึ้นปิดปากอย่างไม่อย่างเชื่อว่าจะเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างนี้ ก่อนจะมองตามร่างบางของนีรนุชไปจนลับตาแล้วตัดสินใจเดินกลับไปหาคุณเนตราทั้งๆที่ยังไม่ได้หยิบของที่ลืมเอาไว้
“อ่าว ไม่เจอเหรอ”
“ค่ะคุณผู้หญิง ไม่เจอค่ะ”
แก้วโกหกออกไปก่อนที่รถจะเคลื่อนออกจากโรงแรม โดยในใจเอาแต่คิดว่าควรบอกเรื่องที่เธอไปเห็นมาหรือไม่ แต่พอคิดดูอีกทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดก็ได้ สมัยนี้ใครๆก็จูบทักทายกันทั้งนั้น สุดท้ายเธอเลยเก็บเอาไว้ในใจของเธอเอง
“อุ๊บ! อ๊อก! อ๊วกกกกกกกกกกก”
สายของวันต่อมา มิรันถึงกับต้องวิ่งลงจากเตียงนอนอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ดีๆเธอก็รู้สึกอย่างอาเจียนขึ้นมาเสียดื้อๆ หญิงสาวพบว่าร่างทั้งร่างของเธอกำลังจะแตกสลายออกมาเป็นเสี่ยงๆทันทีที่ขาเหยียบพื้น แต่เธอต้องทนฝืนสังขารเดินตรงไปที่ห้องน้ำเมื่อสิ่งที่จ่ออยู่ในลำคอพร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว ก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนแทบหมดไส้หมดพุง
“เฮ้อ นี่ฉันมาทำบ้าอะไรที่นี่...”
พอเริ่มดีขึ้น มิรันที่นั่งหมดแรงอยู่บนพื้นห้องน้ำค่อยๆตั้งสติก่อนที่ความทรงจำอันเลือนลางของเมื่อคืนจะผ่านเข้ามาในสมองอีกครั้ง สองมือเล็กเผลอยกขึ้นปิดปากทันทีเมื่อรู้ตัวแล้วว่าได้ทำเรื่องผิดพลาดลงไปเมื่อคืน
“นะ...นี่เราบ้าไปแล้วรึไง ทำไมต้องประชดชีวิตให้กับพวกคนเลวนั่นด้วย โอ๊ย! นี่ฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ”
มิรันตัดพ้อตัวเองออกมา เมื่ออารมณ์เพียงชั่ววูบทำให้เธอตัดสินใจปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับใครก็ไม่รู้ แล้วทีนี้เธอควรทำอย่างไรต่อไปดี สมองอันหนักอึ้งเริ่มคิดหนักขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะพยุงกายลุกเดินออกจากห้องน้ำมา
เขาอยู่ไหน?
หญิงสาวมองไปรอบๆห้องอันใหญ่โตที่เธอจำไม่ได้ว่าคือที่ไหน แต่ไร้วี่แววสิ่งทีชีวิตอื่นในห้องนี้นอกจากเธอเพียงคนเดียว มิรันเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่อยู่เกลื่อนพื้นของเธอขึ้นมาก่อนจะเริ่มสวมใส่มันเข้าไปอีกครั้ง และไม่นานเธอก็พร้อมที่จะออกจากที่นี่แล้ว
“แต่นี่มันชุดแต่งงาน...เฮ้อ”
แคว๊ก!!!!!!
หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าถ้าคนอื่นเห็นเธอในชุดนี้คงพากันมองไม่หยุดแน่เลยตัดสินใจก้มลงฉีกในส่วนของกระโปรงที่มีมันยาวกรุยกรายออก ก่อนจะมองดูในกระจกอีกครั้งแล้วคิดว่ามันดีกว่าเมื่อกี้ พอสำรวจตัวเองเสร็จ มิรันก็เดินตรงไปที่ประตูห้อง เธอไม่มีเงินติดตัวสักบาท คงต้องโบกแท็กซี่กลับบ้านแล้วให้คนที่บ้านจ่ายเงินให้ แต่พอเปิดประตูออกมาหญิงสาวแทบหัวใจวายกับชายร่างใหญ่ในชุดสีดำสี่ห้าคนพากันยืนหันหน้ามามองที่เธอ
“อะเอ่อ คือ...”
“นายบอกให้เราไปส่งคุณให้ถึงที่พัก เชิญตามเรามาได้เลยครับ”
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นเมื่อเห็นมิรันเดินออกมา ทำเอาหญิงสาวแทบก้าวขาตามไม่ออก เมื่อคนพวกนี้ดูยังไงก็ไม่เป็นมิตรและไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด
“ไม่เป็นไร ฉันขอกลับเอง...”
“ไม่ได้ครับ นายสั่งเอาไว้ ยังไงก็ต้องทำตาม”
และสุดท้ายมิรันก็ต้องยอมแพ้ให้กับพวกหนุ่มชุดดำร่างใหญ่ และยอมให้มาส่งเธอที่บ้าน แทนที่จะเป็นที่คอนโดแถวที่ทำงาน เธอนั้นลางานเอาไว้หนึ่งอาทิตย์เพราะคิดว่าหลังจากแต่งงานจะไปฮันนีมูนต่อเลย แต่ทุกอย่างต้องมาพังลง เพียงเพราะความมักมากของคนที่เธอเคยรักและหวังฝากชีวิตเอาไว้อย่างวาคิน พอนึกไปถึงอดีตคนเคยรัก หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่พาลแต่จะหลั่งรินออกมา ไม่นานรถยนต์ที่เธอนั่งมาก็มาจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ มิรันบอกว่าให้จอดให้เธอแค่หน้าบ้านก่อนจะเดินลงไปด้วยหัวใจและร่างกายที่บอบช้ำ