ติ๊ง!
(พี่ตั้ว: กินข้าวยัง พี่เลิกเรียนแล้ว)
(ฝ้าย: อาจารย์เพิ่งปล่อยค่ะ พี่กลับบ้านเลยใช่ไหม)
(พี่ตั้ว: เพื่อนพี่ชวนไปกินเหล้าที่ห้องมัน)
(ฝ้าย: อ่อ)
(พี่ตั้ว: พี่ไม่กินครับ พี่ไปนั่งเล่นเฉย ๆ รอรับหนูกลับบ้านไง)
(ฝ้าย: รับทุกคนค่ะ)
(พี่ตั้ว: ก็รับหนูด้วยไง)
(ฝ้าย: โอเคค่ะ ขี้เกียจเถียง หนูกินข้าวก่อนนะ รักพี่นะคะ)
(พี่ตั้ว: รักเหมือนกันครับ)
หลังจากที่ฉันคุยในไลน์จบ ฉันก็เตรียมเดินไปซื้ออาหาร
ฉันกับพี่ตั้วเราคุยกันมาได้สักพักแล้วล่ะ
สักพักของฉันก็ประมาณห้าเดือนแล้วนะ ทุกอย่างมันเริ่มหลังจากที่พี่ตั้วไปส่งฉันกลับบ้านในวันนั้น พอเขาขอไลน์ฉันไป เขาก็ทักมาหาฉัน
ตอนแรกที่เขาทักมาคือฉันเกร็งมาก ตื่นเต้นมาก ถึงขั้นกรี๊ดใส่หมอน กรี๊ดดังไม่ได้เดี๋ยวแม่ถามว่าเป็นอะไร
จากนั้นเราก็ทักหากันเรื่อย ๆ พูดคุยกันปกติ แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งเขาก็บอกว่า ‘เป็นแฟนกันนะ พี่ชอบฝ้าย’
ตอนที่ได้ยินฉันดึงทึ้งหัวตัวเองไปห้าหกทีได้ ทึ้งเรียกสติว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
เป็นความรู้สึกที่แบบอิ่มเอมอะ ฉันดีใจยิ้มแก้มปริ ยิ้มเป็นคนเดียวเป็นชั่วโมง เหมือนคนบ้าเลย
เป็นความรู้สึกที่แบบ...ถ้าใครเคยแอบรักคนคนหนึ่งมาเนิ่นนาน แล้ววันหนึ่งได้คบกับคนคนนั้นจะเข้าใจความรู้สึกของฉันเป็นอย่างดีว่าแบบมัน ว้าวแค่ไหน ดีใจแค่ไหน มีความสุขแค่ไหน
สรุปก็คือฉันกับพี่ตั้วเราเป็นแฟนกันแล้วจ้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากอะ ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้เลยด้วย
ทุกวันนี้ฉันยังตื่นเต้นทุกครั้งที่พี่เขาทักมา ยิ่งก่อนนอนได้ยินเสียงเขาฉันยิ่งเวิ่นเว้อเพ้อจนเก็บไปฝันเลยจ้า อาการหนักมาก
ฉันรักเขาเพิ่มมากขึ้นทุกวันและรักของฉันไม่มีวันลดลง
แต่เรื่องที่ฉันคบกับพี่ตั้ว ติมกับหยกไม่รู้เรื่องนะ เอาจริงก็ไม่มีใครรู้เลยแหละ
ฉันไม่อยากให้เพื่อนแซวก็เลยเลือกที่จะปิดไว้ไม่บอกใคร พี่ตั้วก็ตามใจฉัน
"แฟนมึงใครวะ เมื่อไหร่จะเปิดตัว" หยกเอ่ยถาม แต่สายตาไม่ได้ส่องโทรศัพท์ฉันนะ เพื่อนฉันคนนี้มีมารยาท
เราเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่จะไม่ละลาบละล้วงเรื่องของกันและกัน
ประมาณว่ามีพื้นที่ส่วนตัวให้กัน ถ้าอยากเล่าก็จะเล่าเอง นิยามเพื่อนของเราเป็นแบบนั้น
"เขายังไม่ว่างอะ เรียนหนัก" ฉันอ้างไปมั่ว ๆ พูดไปเรื่อยไว้ก่อน
"เขาจริงจังแน่นะ" ติมถามต่อ เข้าใจนะ เพื่อนคงเป็นห่วงเพราะเพื่อนเห็นฉันคุยโทรศัพท์มาสักพัก แต่ไม่เคยพามาเปิดตัว
"ก็ต้องดูไปก่อน" ยกยิ้มเล็กน้อย
"กูเห็นมึงมีความสุขกูก็ดีใจ ขอให้เขาดีจริง ๆ เถอะ กูไม่อยากเห็นมึงเสียใจ" ติมว่าพลางกอดคอฉัน ส่วนหยกกอดที่แขนของฉันแล้วเอนซบไหล่
"รู้ ขอบใจนะ รักพวกมึงนะ" ส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง
"เลิกซึ้ง ไปหาข้าวแดกค่ะอีดอก" หยกดึงสติกลับมาที่การกิน ใช่เราควรกินข้าว
ต่อจากนั้นเราก็ซื้อข้าวที่โรงอาหารมานั่งทานกัน ทานเสร็จก็เตรียมตัวเข้าเรียนตอนบ่าย
"เธอ เธอ" เสียงของนักเรียนคนหนึ่งดังระหว่างที่ฉันเดินขึ้นบันไดเพื่อไปเรียนชั้น 4
โรงเรียนไม่มีลิฟต์ก็บริหารกล้ามขาไปค่ะ
"เธอนั่นแหละ น้องฝ้าย 5/2" พอฉันไม่สนใจ เขาก็เรียกอีกครั้ง มันคือชื่อฉัน
หยุดเดินและหันกลับมาพูดกับเขา “คะ”
"พี่ชอบน้องอะ ขอไลน์หน่อยดิ" ผู้ชายจัดฟัน ตาโตคิ้วเข้ม รอยยิ้มมีลักยิ้มที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง ป้ายชื่อเขาปักว่า วรวุธ นามสกุลอะไรไม่รู้ เพราะฉันเบนสายตาไปมองตรงจุดตำแหน่งบอกชั้นมัธยมที่เขากำลังศึกษาอยู่ มันเขียนปักไว้ว่า 6/4
"ฝ้ายมีแฟนแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ" ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดทบทวนอะไรให้มากมาย ก็ฉันมีแฟนแล้วจริง ๆ บอกรุ่นพี่ม.6 แล้วก็เดินขึ้นบันไดต่อ
"ว้า เสียดายอะ เลิกกับแฟนอย่าลืมคิดถึงพี่เป็นคนแรกนะ" รุ่นพี่ม.6 พูดตามหลังมาติด ๆ
"ความจริงมึงคุยไว้หลาย ๆ คนก็ดีนะฝ้าย เผื่อใจไงมึง" หยกทำท่าเสียดายพร้อมเสนอความคิด
สิ่งที่หยกบอกเป็นสิ่งที่ฉันไม่คิดจะทำ!
"ไม่อะ กูอยากมีพี่เขาคนเดียว กูอยากซื่อสัตย์" บอกความตั้งใจให้เพื่อนฟัง เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจมากจริง ๆ
"ชีวิตยังอีกยาวไกลเว้ยฝ้าย เรายังต้องผ่านต้องเจออะไรอีกเยอะ แต่ถ้ามึงกับแฟนมึงเป็นคู่กันจริง ๆ มันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่มึงก็ต้องมูฟออนนะ เราเพิ่งจะอายุเท่านี้กันเอง ยังต้องเจอคนอีกเยอะ จะรักใครก็ต้องเผื่อใจด้วย" ติมเตือนสติที่ติมพูดมามันก็จริง แต่ว่าฉันวาดฝันอะไรหลาย ๆ อย่างไปแล้ว วาดฝันอนาคตของฉันที่มีพี่ตั้วอยู่ด้วย
"มึงกินเหล้ามาเหรอตั้ว กลิ่นหึ่งเลย" แตมโวยวายทันทีที่เข้ามานั่งในรถ ที่ประจำของแตมคือข้างคนขับ
"เปล่า เพื่อนทำเหล้าหกใส่" พี่ตั้วตอบน้องสาว ทว่ามองมาที่ฉันผ่านกระจกมองหลัง
"นึกว่าแดกแล้วขับ" ติมจิกกัดพี่ชาย
"แล้วหยกล่ะ" พี่ตั้วถามถึงอีกคนที่ปกติจะกลับด้วยกัน
แต่วันนี้นางบอกขอบาย เพราะมีผู้ชายอาสาไปส่ง
"ผู้ชายมารับไปปี้" แตมตอบด้วยสีหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่ เธอไม่พอใจที่หยกยอมไปกับผู้ชายต่างโรงเรียนง่าย ๆ ทั้งที่คบกันได้ไม่ถึงเดือน
"เค ๆ จะได้ออกรถเลย" จากนั้นพี่ตั้วก็มุ่งตรงสู่เส้นทางกลับบ้าน รถค่อนข้างจะแออัด การจราจรติดขัด
"วันนี้มีคนมีขอไลน์ไอ้ฝ้ายด้วยนะแตม รอบนี้เป็นพี่คาร์ ม.6/4 อีดอกหล่อเวอร์..." ระหว่างนั่งรถติมก็คุยเม้าส์มอยกับน้องสาว เม้าส์จนมาถึงเรื่องฉันนี้แหละ
“มึงดูทางด้วยตั้ว เหม่ออะไร!” แตมดุพี่ตั้วเพราะพี่แกจู่ ๆ ก็ขับรถเซไปอีกเลน พอดุเสร็จแตมก็ถามถึงเรื่องฉันต่อ “แล้วพี่ฝ้ายให้ไหม”
"หึ! น่าเสียดาย อีดอกฝ้ายเขานางเอกไง หนูมีแฟนแล้วค่ะพี่ พี่คาร์อดแดกเลยจ้า" เป็นการเม้าส์ระยะเผาขนมาก
เอาจริงคือติมนางต้องการเหน็บแนมฉันอะ เหมือนนางเสียดายที่ฉันไม่แจกไลน์ผู้ชาย ไม่รู้จักเผื่อใจ
"เสียดายอะพี่ฝ้าย พี่คาร์นี่คือระดับฮอตเลยนะ นางชอบใครนางถึงจะจีบ มีคนจีบนางเยอะ แต่นางไม่สนจ้า ทำไมไม่ให้อ่า" แตมเอี้ยวตัวหันมาพูดด้วยสีหน้าที่แสดงออกชัดเจนมากว่าเสียดาย ไม่ต่างจากสีหน้าของติมเลย สองพี่น้องนี่จริง ๆ เลย
"อีดอกนี่เขารักแฟนเขาเหลือเกินไง ไอ้หยกกับกูบอกให้แจกเผื่อ ๆ ไว้ก็ไม่เอาค่า อยากซื่อสัตย์กับแฟน" ติมหันมาเหน็บฉันอีกรอบ ทั้งวันฉันโดนติมเหน็บเรื่องนี้เยอะมาก
ยิ้มเจื่อนให้กับการเหน็บแนมของเพื่อน จากนั้นก็เบนสายตาไปอีกทาง ทว่าเผลอไปสบตากับพี่ตั้วที่มองฉันผ่านกระจกมองหลังพอดี
เขาส่งยิ้มมาให้ฉัน ฉันจึงยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"เดี๋ยวมึงส่งกูปากซอยนะตั้ว กูจะแวะไปส่องผู้สักแป๊บ" ติมสั่งพี่ชายเมื่อรถจอดติดไฟแดงก่อนจะถึงซอยทางเข้าบ้าน
"อย่านาน แม่กลับสามทุ่ม อย่าเลยเถิดด้วย" พี่ตั้วหันมาบอกน้องสาวคนรองด้วยสีหน้าจริงจัง ดุจัง เวลาดุน้องสาวนี่น่ากลัวจริงด้วย แต่เหมือนว่าน้อง ๆ ของพี่ตั้วจะไม่กลัวเขานะ
"กูรู้ค่ะ เออ! ฝ้าย ไอ้แดนที่เคยกิ๊กกะมึงมันฝากบอกว่าคิดถึงมึงนะ" ทำไมไม่ลงไปเฉย ๆ ล่ะ มาพูดอะไรตอนนี้
"ไม่ใช่กิ๊กเถอะ" ฉันรีบแก้ต่างเมื่อสีหน้าของพี่ตั้วดูดุดันมากกว่าเดิม น่าจะไม่ได้คิดไปเอง เหมือนว่าเขากำลังหึงฉันเลย