Chapter 1 brother Zone
กลิ่นควันที่คละคลุ้งลอยไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมที่ติดกระจกดำทึบสามารถมองเห็นเพียงแค่ด้านเดียวจากภายใน ใบหน้าเคร่งเครียดเพราะไม่ได้นอนมาสามวันเต็ม ๆ มือซ้ายที่ไม่ได้คีบบุหรี่กำลังเคาะโต๊ะเบา ๆ อย่างใช้ความคิด
“เพื่อนกูเป็นบ้าไปแล้ว”
เดย์นั่งลงข้างอิทหรืออิทธิพลเพื่อนสนิทของตัวเองที่ถ่อมาหาถึงที่ในเวลาตีสาม เวลาที่ใครหลายคนต่างกำลังตกอยู่ในห้วงของความฝัน แต่สำหรับตัวเขานั้นมันคือเวลางาน เดย์เป็นเจ้าของสถานบันเทิงขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่นี่มีทุกอย่างตั้งแต่โซนร้านอาหารไปจนถึงแห่งอบายมุขทั้งหลาย เว้นเพียงแต่การค้าประเวณีและยาเสพติดซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยว
“มึงพูดถูก กูกำลังเป็นบ้า แม่งเอ๊ยย....รักฉิบหาย ทำไมน้องต้องน่ารักขนาดนั้นด้วย”
คิ้วหนาขมวดกันจนยุ่งเยิง ใบหน้าหล่อเหลาสมกับเจ้าของฉายานักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สาว ๆ ครึ่งประเทศต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากได้เป็นพ่อของลูก ทั้งหล่อ ฐานะดี มีการศึกษา อิทธิพลเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์และรับช่วงงานต่อจากผู้เป็นบิดา แม้ไม่ได้เรียนบริหารมาโดยตรงแต่ภายในเวลาแค่สามปีเขากลับทำกำไรให้บริษัทได้อย่างมหาศาลจนหุ้นส่วนหลาย ๆ คนที่เคยดูถูกเขาต่างยอมรับในความสามารถ ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาสามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง มันไม่เคยมีคำว่าพลาดอยู่ในพจนานุกรมของผู้ชายคนนี้ แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่เคยทำสำเร็จและมักจะแพ้อยู่เสมอคือเรื่องเกี่ยวกับน้อง
“ล่าสุดหมดคาบนักธุรกิจกลายเป็นหมาไปแล้วเพื่อนกู”
เดย์มองอิทที่กำลังอัดมะเร็งปอดเข้าปากเป็นมวนที่สอง เรามาเสี่ยงดวงกันว่าระหว่างเพื่อนมีเมียกับติดไรวัส COVID-19 อะไรมันจะเกิดขึ้นก่อนกัน
“ร้องเอ๋งแล้วกูอะ”
“เล่นตัวเองเจ็บน้อยกว่าว่างั้นเถอะ?”
เลิกคิ้วถามเพื่อนตัวเองที่แม้จะพูดเหมือนไม่คิดมากอะไรแต่ในใจคงกำลังร้อนเป็นไฟ เพราะติดสถานะพี่น้องโซน
“รำคาญมึง เบื่อไอ้พวกมีเมีย”
ว่าจบก็ลุกขึ้นจับสูทให้เข้าที่ แต่ก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของเดย์ ก็ได้ชูนิ้วกลางกลับไปเพราะคำพูดที่มันแทงใจดำสุด ๆ
“เขาให้เป็นได้แค่พี่ชายก็ทำใจหน่อยนะครับ5555”
“บัดซบ!”
ใช่! นี่มันเรื่องบัดซบที่สุดตั้งแต่ที่ผมเกิดมาแล้ว พี่ชาย เหอะใครบอกว่าผมอยากเป็นพี่ชาย อยากเป็นผัว!! เข้าใจไหมว่าอยากเป็นผัว!! พี่น้องมีเยอะแล้วไม่ต้องการเว๊ยยยยย แต่พอเจอหน้ากันผมก็ทำได้แค่....
"เดี๋ยวพี่ชายคนนี้ช่วยนะครับ"
พูดพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้หนึ่งที! บัดซบที่สุดแม้ปากผมจะพร่ำบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายแต่ในใจร้องดังมากว่าพี่อยากเป็นผัว พี่อยากเป็นผัวน้องได้ยินไหมครับ!!
“ไม่เป็นไรแค่นี้ปังทำเองได้ อาศัยอยู่กับพี่อิทมาสามวันก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
น้องยิ้มให้ผมพร้อมหันหลังกลับไปทำอาหารต่อ
ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมครับ ว่าเพราะอะไรผมถึงไม่ได้นอนมาสามวันเต็ม ๆ คือตัวผมน่ะไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไรนักหนาหรอก แต่กลัวว่าถ้านอนกับน้องแล้วผมจะอดใจไม่ไหว ต้องปล้ำนอนจมเตียงเป็นแน่ คอนโดผมมันมีสองห้องก็จริง แต่อีกห้องมันเต็มไปด้วยของสะสมพวกโมเดลรถเต็มไปหมด เหลือเพียงห้องเดียวที่ผมใช้นอนเป็นประจำ ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุคือเพื่อนตัวดีที่แม่งไม่รู้ห่าไรเลย เพราะวัน ๆ เอาแต่นอนกกเมีย ล่าสุดพากันไปเที่ยวยุโรปแล้วฝากฝังน้องสาวสุดแสนจะน่ารักไว้ที่ผม เพราะมึงเลยเปอร์!! กูไม่ได้นอนเพราะน้องขนมปังนิ่มฟูที่เวลานอนพลิกตัวที ชายเสื้อก็เลิกขึ้นมาจนเห็นพุงขาว ๆ เห็นแล้วอยากฝากไว้สักรอยสองรอย
“พี่อิทคะ!”
“ครับ..ครับ”
สงสัยมองหน้าน้องแล้วคิดอะไรเพลินไปหน่อย ก็ดูสิ...ใครใช้ให้เกิดมาน่ารักขนาดนี้ล่ะ พ่อแม่ให้กินอะไรเป็นอาหารเเหรอครับ ถึงได้น่ารักน่าฟัดขนาดนี้
“พี่อิทไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ จะได้ออกมากินข้าวต้ม”
“ครับ”
ผมมองน้องที่กำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วย ผ้ากันเปื้อนสีชมพูเหมาะกับน้องจริง ๆ ถ้ามันไม่มีชุดนักศึกษามาเกะกะ น้องคงจะ...ดูดีมากแน่ ๆ โอเคครับ ผมยอมรับว่าตัวเองมีความคิด18+ทุกครั้งที่อยู่ใกล้น้อง แต่จะให้ทำยังไง ก็น้องมันชอบยั่วผม อะ ไม่สิ....เออเอาเป็นว่าต่อให้น้องยืนอยู่เฉย ๆ แล้วใส่กางเกงขายาวเสื้อคอเต่า ผมก็ยังมองว่าน้องยั่วอยู่ดี
ผมกำลังมองตัวเองผ่านกระจก”หล่อ”นั่นคือคำเดียวที่ผมคิดได้เวลาส่องกระจก แต่ตอนนี้เหมือนจะเริ่มเห็นความคล้ำรอบดวงตาสีน้ำตาลเทาของตัวเอง จะหมดหล่อเพราะอดหลับอดนอนไม่ได้ป่ะ?
คืนแรกสาหัสหน่อยตรงที่ตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าตัวเองจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ขนาดนี้ ถึงขนาดลุกเข้าห้องน้ำทีสามรอบติด จนสุดท้ายต้องลุกมานั่งตาค้างกินกาแฟอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก แล้วเผลอหลับไปเกือบ ๆ จะตี5 ดีหน่อยที่ผมตื่นเช้ากว่าน้อง
ส่วนวันที่สองผมเล่นทำงานจนดึก กลับมาเห็นน้องหลับคาหนังสือนิยายบนโซฟาที่ตัวเองเผลอหลับไปวันแรก ดวงตาที่เคยสดใสซุกซนสมวัยตอนนี้กำลังปิดสนิท ขนตางอนหนาเป็นแพ จมูกที่เชิดรั้นขึ้นมานิด ๆ บ่งบอกความเอาแต่ใจของเจ้าตัว ริมฝีปากสีเชอร์รี่น่าจุ๊บ แค่เพียงนิดเดียว...นิดเดียวผมก็จะได้สัมผัสริมฝีปากแดง ๆ นั่นแล้ว แต่แล้วก็สะบัดหัวทิ้งความฟุ้งซ่านช้อนตัวอุ้มน้องมาไว้แนบอกแล้ววางนอนลงบนเตียงกว้างอย่างทะนุถนอม ส่วนตัวเองก็ออกมานั่งกินกาแฟจนตาค้างไปทั้งวัน
แย่สุดคงจะเป็นวันที่สาม ที่ผมถึงขนาดเกือบทนไม่ไหว ต้องรีบลากตัวเองออกจากห้องไปหาเพื่อนในเวลาตี 3 แค่เห็นขาขาว ๆ เลือดกำเดา ก็แทบไหล น้อง ใส่ ขา สั้น!! สั้นชนิดที่ว่าขยับตัวทีก็แทบเห็นไปถึงไหน ต่อไหน ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาผมเลยรีบอันเชิญตัวเองออกจากห้องอย่างไว แล้วกลับมาอีกทีในเวลา 7 โมงเช้าก็เจอน้องกำลังทำอาหารอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัว
วันนี้คงได้นอนสักทีสินะ...
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไอ้เปอร์มันฝากให้พี่ช่วยดูแลปัง ยังไงเราก็เหมือนคนในครอบครัวพี่”
ครอบครัวพี่=เป็นเมียพี่
อยากจะพูดแบบนั้นออกไปใจจะขาด พ่อครับ ทำยังไงผมถึงจะได้น้องเป็นเมีย!
“วันนี้พี่เปอร์ก็กลับมาแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ให้ปังค้างด้วย”
น้องยกมือไหว้ผมแล้วส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก ใจพี่เหลวไปหมดแล้วหนู ทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลย ถ้าขอเงินพี่ให้ทอง ขอบ้านพี่ให้คฤหาสน์ ขอเป็นแฟนพี่ยอมเป็นผัวให้หนูเลยค่ะ
ผมมองน้องจนน้องเดินเข้าตึกไปกับเพื่อนสองคนส่วนตัวเองก็รีบไปทำงานเก็บเงินมาสู่ขอน้อง ครับ..ผมกำลังมโน....อย่าย้ำสิครับ แค่พี่น้องโซนก็เจ็บเจียนตายแล้ว
*******
“พี่อิทไม่ได้ชอบกู”
ฉันตอบกลับไอ้นายที่แม่งพูดกรอกหูทุกวันตั้งแต่ปี 1 ว่าพี่อิทชอบฉัน จนตอนนี้ฉันอยู่ปี 4 แล้วไม่เห็นท่าทีว่าพี่เขาจะชอบอะไรในตัวฉันเลย
“ไม่คุยกับแรดโง่ครับ”
นายเมินคำพูดของขนมปังแล้วกอดคอสไมล์เข้าห้องเรียน
“มึงด่ากูโง่ตั้งแต่ปี 1 แล้วนะ!! กลับมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้นาย ไอ้เพื่อนเวร!!”
ฉันวิ่งตามพวกมันเข้ามาในห้อง แต่ก่อนที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้อาจารย์ก็เข้ามาก่อนเลยจำใจต้องพักเรื่องรักแล้วโฟกัสที่เรื่องเรียน เห็นแบบนี้ฉันก็ตั้งใจเรียนเหมือนกันนะคะ และใช่...ฉันพึ่งมาตั้งใจเรียนตอนปีสุดท้าย พ่อแม่ต้องภูมิใจในตัวฉัน ฉันเชื่อแบบนั้น
“กูถามจริง มึงดูพี่อิทไม่ออกเหรอปัง?”
ไมล์เปิดประเด็นขึ้นมาคนแรกหลังจากที่อาจารย์ให้พัก 15 นาที เวลาที่ฉันควรจะนอนหลับพักผ่อนเก็บแรงไว้เรียนต่อ แต่มันดันมีประเด็นมาตั้งแต่เมื่อเช้า ถ้าไม่เคลียร์ให้จบวันนี้ฉันคงนอนไม่หลับแน่ ๆ
“ขนาดกูอ่อยพี่อิท เขายังไม่เห็นมีท่าทีสนใจอะไรกูเลย คอนโดมีห้องเดียวแทนที่จะนอนด้วยกัน ก็กลับไปนอนโซฟา กูลงทุนใส่ขาสั้นจนเห็นไปถึงไส้ติ่ง พี่อิทยังเมิน แถมออกไปข้างนอกตอนตี 3 แล้วกลับมาอีกทีนู้น 7 โมงเช้า พวกมึงบอกกูที ว่าตรงไหนที่เขาแสดงออกว่าชอบกู!!”
ฉันใส่จนหมดแม็ก แม่งเอ๊ย!! คนอะไรจะสุภาพบุรุษได้ใจขนาดนี้ แกล้งหลับให้อุ้มก็แล้ว แกล้งถกชายเสื้อขึ้นก็แล้ว ใส่ขาสั้นก็แล้ว พี่จะเป็นคนดีไปไหน!! ช่วยลวนลามฉันสักนิดก็ได้!! หรือว่าปังไม่เด็ด? ไม่สิ พี่อิทมันคงตายด้านมากกว่า
“ถามจริง? พี่เขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยเเหรอ”
“ที่มึงบอกว่าพี่อิทชอบกู กูถามจริงนะนาย มึงเมายาคุมเเหรอ เอาตรงไหนมาชอบ ฉายาแรดน้อยที่มึงตั้งให้กู แม่งไร้ค่าโคตร ๆ เมื่อเจอกับผู้ชายคนนี้”
ตั้งแต่อ่อยผู้ชายมาทั้งชีวิต บอกเลยว่าถ้าพี่อิทไม่ใช่เกย์ก็คงเป็นพวกตายด้าน หรือไม่ก็กำลังละทางโลกพึ่งทางธรรม อบายมุขคือสิ่งต้องห้าม สงสัยที่พี่อิทคงไม่แตะต้องตัวฉันเพราะคิดว่าตัวเองเป็นพระมั้ง เพราะว่า พระห้ามโดนตัวสีกา!!
“สกิลการอ่อยมึงไม่ถึงรึเปล่าปัง”
“พูดแบบนี้ เอามีดมาแทงกูเลยเถอะไมล์ ถ้าให้อ่อยกว่านี้ ก็คงต้องถอดหมดแล้ว”
หรือว่าฉันต้องถอดหมดจริง ๆ พระท่านถึงตบะแตก ยอมแตะต้องตัวฉันได้ นี่ยังดีที่คืนที่สองพี่อิทยังอุ้มฉันกลับมานอนที่ห้อง ไอ้เราก็คิดว่าจะมีหอมแก้ม มีกู๊ดไนท์คริส แต่เปล่าเลย มันไม่มี ไม่มีเลยเจ้าค่ะ!
“พี่อิทชอบมึง ให้กูนอนยัน ยืนยัน ตะแคงยันเลยก็ได้”
นายมันยังคงพูดด้วยเสียงหนักแน่น
“อุ้มแตงยันด้วยได้ไหม เตง”
“มีคนให้อุ้มแล้วเเหรอครับน้องปัง”
ปากคอเราะร้ายมากผู้ชายคนนี้ ใครเลือกนายมันเป็นดาวคณะ ใครมันหลงผิดเอาดอกไม้ไปให้มันวันประกวดเดือน ใคร!! มันเป็นใคร!!
คำตอบคือ...ฉันเอง แม่ขา...เพื่อนมันแกล้งปัง!
“เกลียดพวกมึง!! แบนออกให้หมด ใครมีผัวออกจากกลุ่มไป๊”
“งั้นมึงคงต้องอยู่คนเดียวแล้วล่ะปัง เพราะกูกับไอ้ไมล์มีผัวตั้งนานแล้ว ถ้าเป็นถ้าไม่ติดว่าเรียนยังไม่จบคงท้องลูกแฝดไปสามรอบ”
เนี่ยวันนี้น้ำตาฉันตกในไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว ผิดเเหรอที่ฉันไม่มีแฟน ฮืออออ....