“ยอมๆ หน่อยอะไรของคุณ ผมไม่สนุกด้วยหรอกนะ ปล่อยผมได้แล้ว คุณเป็นคนร้ายกาจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”
แทนไทต่อว่าเสียงแข็ง พยายามขยับกายแต่ก็เป็นไปได้ยากเหลือเกิน เมื่อร่างลูกศิษย์สาวอยู่ใกล้ชิดกับร่างเขาแทบกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ฉับพลันใบหน้าหล่อคมเข้มก็ซีดเผือด เมื่อเจ้าของร่างเพรียวระหงขยับกายขึ้นนั่งบนตัก สองแขนยื่นโอบรัดรั้งต้นคอเขาเข้าหาเธอ
“ทะ...ทำอะไรน่ะบุษกร ลงไปจากตัวผมเดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มสั่งเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง จ้องมองรอยยิ้มชั่วร้ายที่แต้มตรงแก้มบุษกร พลันร่างกายก็ร้อนวูบวาบ เหงื่อผุดขึ้นตามไรผมและฝ่ามือ
“อย่าคิดทำอะไรบ้าๆ เชียวนะบุษกร ผมเป็นอาจารย์ของคุณจำไม่ได้หรือไง”
“อีกไม่นานฉันกับคุณก็กลายเป็นอดีตอาจารย์กับอดีตลูกศิษย์แล้วไม่ใช่หรือค่ะ”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำแบบนี้กับผมได้ ปล่อยผมแล้วเรามาคุยกันอย่างเปิดอกดีกว่าบุษกร”
“คุยแบบนี้แหละฉันว่าดีแล้ว ขืนฉันปล่อยคุณสิ่งที่ฉันต้องการก็ไม่ทางสมหวังเป็นแน่”
“คุณอยากได้อะไรจากผมบอกมาเลย ถ้าผมให้คุณได้ผมก็จะให้ แต่สิ่งที่คุณขอต้องไม่สร้างปัญหาให้ผมทีหลัง ก่อนอื่นคุณต้องลงไปจากตัวผมก่อน”
“ไม่ล่ะ นั่งแบบนี้ก็สบายดี” บุษกรบอก เสียงหัวเราะดูเจ้าเล่ห์ ดวงตาคู่งามก็พราวระยับยามจ้องมองร่างหนา มือเรียวยกขึ้นแกะกระดุมเสื้ออย่างอ้อยอิ่ง
“บุษกร”
“เรียกทำไมหรือค่ะคุณแทน”
“คุณถอดเสื้อผมทำไม เอ๊ะ...นี่คุณใส่เสื้อผมอยู่ไม่ใช่เหรอ”
คนเพิ่งสังเกตเห็นถามอย่างตื่นตระหนก มองเสื้อเชิ้ตของตนที่อยู่บนร่างเพรียวระหงด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง บุษกรคงเปลี่ยนตอนที่เขาหลับและคงอาบน้ำด้วย กลิ่นครีมอาบน้ำที่ใช้อยู่เป็นประจำลอยมาจากตัวเธอ
“ไม่ใช่แค่เปลี่ยนเสื้อ แต่ฉันอาบน้ำด้วย จะว่าไปครีมอาบน้ำของคุณก็หอมดีเหมือนกันนะคะ”
แทนไทเริ่มหายใจสะดุด เมื่อร่างกายถูกสัมผัสโดยเจ้าของมือเนียนนุ่ม สายตาจับจ้องใบหน้างาม สูดอากาศเข้าจนเต็มปอด พยายามรวบรวมสติ เขามั่นใจว่าไม่ได้โดนวางยาเพียงแค่ยานอนหลับ เพราะเวลานี้เขารู้สึกร้อนรุ่มแปลกๆ กับร่างกายตนเอง ยิ่งมีบุษกรนั่งทับอยู่ก็ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น จนแทบกู่ไม่กลับอยู่ในขณะนี้
‘ยัยเด็กบ้านี่ไม่ได้วางแต่ยานอนหลับใช่ไหม’
“ท่าทางยาคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว” หญิงสาวบอกพลางหัวเราะเสียงใส
‘ให้ตายเถอะทำไมถึงซื้อหวยไม่เคยถูก แต่พอเรื่องบ้าๆ แบบนี้กลับทายถูกเสียได้’
“คุณคงไม่ได้คิดจะ...”
“คิดค่ะ คิดมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ลงมือ เพราะมีตัวปัญหาเยอะคอยป้วนเปี้ยนอยู่ตลอด ฉันเลยทำอะไรคุณไม่ได้”
“นี่คุณเป็นผู้หญิงนะบุษกร จะทำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ หากพลาดไปคุณอาจเสียใจในภายหลังก็ได้”
แทนไทพยายามเกลี้ยกล่อม ไม่ว่าอย่างไรเขาไม่มีทางมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกับลูกศิษย์เป็นแน่ ก่อนมาเป็นอาจารย์เขาก็ให้สัญญากับมารดาและต่อตนเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกศิษย์หรือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้น คนที่ทำลายอนาคตของมารดาให้ต้องทนทุกข์ทรมาน ถูกตัดออกจากวงศ์ตระกูล หากไม่เพราะท่านคลอดลูกเป็นชาย ตระกูลทัตพงษ์ก็คงไม่คิดยอมยกโทษและอภัยให้กับท่าน
คุณตาที่เคยเกลียดเขากับมารดาก็คงไม่ยอมอ่อนข้อ และรับเขาสองแม่ลูกกลับเข้าตระกูลอีกครั้ง ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับทรงวุฒิและธันยา ทัตพงษ์ เขามีแต่ความหวาดกลัว แอบสงสารมารดาที่ถูกตำหนิแม้เรื่องจะผ่านมานานหลายสิบปี ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่เคยคิดใช้เงินของคนเหล่านั้นเลยสักครั้ง
เงินที่เขาใช้ก็คือเงินที่เขาต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายทั้งสิ้น หลังจากจบปริญญาตรีเขาก็สอบชิงทุนของมหาวิทยาลัยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
“คิดอะไรอยู่หรือคะ หน้าตาดูเครียดเชียว” บุษกรถามเมื่อเห็นแทนไทเงียบไป ชายหนุ่มกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ เหตุใดถึงได้ดูเจ็บปวดทรมานจนเธอรับรู้ได้
“คุณทำอะไรก็คิดให้รอบคอบ เพราะสิ่งที่คุณทำมันส่งผลกระทบในอนาคตก็ได้นะบุษกร” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างนุ่มนิ่มบนตัก พลันลมหายใจก็สะดุดยิ่งกว่าเก่า เมื่อชุดนอนถูกปลดกระดุมจนหมด
“บุษกร!”
“ใบบัวค่ะคุณแทน เรียกใหม่สิ...ใบบัวค่ะ” คนที่ถูกเรียกชื่อจริงทำหน้ายุ่ง ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าหล่อคมเข้มอย่างเอาแต่ใจ
“เลิกบ้าสักที ผมโกรธจริงๆ แล้วนะ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มเริ่มออกแรงขยับดิ้นรน แล้วก็ใจหายวาบ เมื่อพบว่าท่อนล่างไม่มีกางเกงชุดนอนที่เขาสวมก่อนหน้านี้เลย มีเพียงผ้านวมผืนหนาเท่านั้นที่ปกปิดเอาไว้
“คุณถอดกางเกงผม”
“คุณพูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละค่ะ”
“บ้าไปกันใหญ่แล้ว นี่คุณรู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“รู้ตัวสิคะ ฉันกำลังวางแผนปล้ำคุณอยู่ไง ตกลงเป็นแฟนกับฉันเสียดีๆ ก่อนที่ฉันจะทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้”
บุษกรบอกด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริง มือเริ่มขยับลูบไล้ไปตามโครงหน้าหล่อคมเข้มอย่างอ้อยอิ่ง ขยับกายเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นคำตอบของแทนไท ให้มันรู้ไปสิว่าเขากล้าปฏิเสธคำขอของเธอ
“ยะ...หยุดเดี๋ยวนี้นะบุษ...ใบบัว คุณเป็นพวกซาดิสม์หรือไง เอาหน้าคุณ ปากคุณออกไปจากต้นคอผมเดี๋ยวนี้ เฮ้ย! คุณกัดผม อย่าบอกนะว่าไม่ได้ซาดิสม์อย่างเดียว แต่คุณเป็นพวกมาโซคิสม์ด้วย”
“เป็นหรือไม่เป็นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่เคยทำกับใครที่ไหนเลย เพิ่งมีคุณเป็นคนแรกนี่แหละ”
บุษกรไม่รับและไม่ปฏิเสธคำกล่าวหาของอีกฝ่าย มือนุ่มยังคงไต่เป็นปูเรื่อยลงมาจนถึงแอ่งสะดือ ดวงตาคู่งามปรายตาขึ้นมองเจ้าของร่างที่เกร็งจนแข็งด้วยแววตาพอใจ
“หยุดทำแบบนี้ได้แล้วใบบัว ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไร นั่นคุณจะทำอะไร ยะ...จับตรงนั้น”
แทนไทร้องเสียงหลง เมื่อมือนุ่มเลื่อนเข้าไปภายใต้นวมผืนหนา ถ้าไม่ติดว่าเขาถูกจับมัด เขาไม่ลังเลเลยถ้าต้องเหวี่ยงร่างบุษกรให้พ้นไปจากห้อง แต่เพราะถูกจับอยู่จึงทำอย่างที่คิดไม่ได้
“คิดอะไรไปไกลขนาดนั้นคุณแทน ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดเลยสักนิด อาการซาดิสม์หรือมาโซคิสม์อะไรนั่น อืมๆ หรือว่าฉันเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ”
แทนไทหน้าเหวอไปกับคำพูดของบุษกร หมายความว่าไงที่ไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นอย่างที่เขาพูดหรือไม่ ผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรมีด้วยเหรอ
“แล้วคุณจะยอมให้ฉันทดสอบไหมคะว่าฉันเป็นอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า ที่จริงนี่ก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกัน”
“ครั้งแรก” แทนไททวนคำอย่างตกใจ ‘ครั้งแรก’ แต่เขาไม่เชื่อหรอก ผู้หญิงที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมาก่อน ทำไมถึงกล้าทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้กับเขาได้
“ฉันเป็นพวกทฤษฏีเยอะ แต่ภาคปฏิบัติยังไม่มี”
“คุณยังบริสุทธิ์”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ถ้างั้นก็รีบกลับบ้านคุณไปซะ ผมไม่ใช่คนดีอย่างที่คุณคิด ไม่ต้องเอาความบริสุทธิ์มาให้ผม เพราะผมไม่ต้องการ และที่สำคัญผมไม่อยากทำลายชีวิตของคุณ”
แทนไทบอกเสียงเข้ม ทว่ามันกลับสั่นจนเขาสัมผัสได้ ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติ ไม่มองสิ่งยั่วยวนตรงหน้า แต่สิ่งที่เขาคิดกลับกลืนหายเข้ากลีบเมฆ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...