ราชนาวีเสน่หา EP.06
1690 Words
ปองธรรมขับรถมารับโชติกาที่คอนโดมิเนียมก่อนไปบริษัท การปรากฏตัวของปองธรรมสร้างความสนใจแกมแปลกใจจากพนักงานในบริษัทได้ไม่น้อย เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าประธานบริษัทนั่นเข้มงวดมากแค่ไหน ในการรับบรรดาญาติๆ ของตัวเองเข้ามาทำงานในบริษัท การที่ประธานใหญ่แห่งอินฟินิตี้ ควอลิตี้ เอ็นจิเนียริ่ง ให้น้องชายต่างสายเลือดเข้ามาทำงานในบริษัท ถือเป็นข่าวใหญ่ของบริษัทเลยก็ว่าได้
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ประชาสัมพันธ์สาวยกมือไหว้ผู้เป็นนาย แล้วเหลือบมองหนุ่มหล่อที่ยืนถือแฟ้มเอกสารอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าอยากรู้เต็มเปี่ยมว่าเขาจะมาทำงานในตำแหน่งอะไรภายในบริษัท
โชติกามองสบตาประชาสัมพันธ์สาว ดูเหมือนว่าเรื่องที่เธอสั่งให้เลขาจัดห้องทำงานให้ปองธรรมจะกลายเป็นข่าวใหญ่ของบริษัทไปแล้ว เพราะพนักงานสาวๆ ต่างก็ให้ความสนใจปองธรรมจนเกินเหตุ เรียกว่าเกินงามถึงจะถูก ก่อนส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับความอยากรู้อยากเห็นของลูกน้อง
“ฉันยังไม่ได้แนะนำน้องชายของฉันให้พวกคุณรู้จักกันเลย”
“ท่านประธานมีน้องชายด้วยหรือค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวถามอย่างแปลกใจ เท่าที่รู้มาอดีตประธานคนเก่าของบริษัทมีลูกสาวเพียงคนเดียวไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงมีลูกชายโผล่ออกมาอีกคนกันล่ะ หรือจะเป็นลูกเมียน้อยของอดีตท่านประธาน
“มีสิคุณโสรยา” โชติกาตอบสั้นและได้ใจความ
“เอ่อ...ค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวก้มหน้าตอบเสียงสั่นนิดๆ เมื่อเจอน้ำเสียงขรึมลงของท่านประธานสาว
“นี่น้องชายฉัน...ปองธรรม ขจรเดช จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งรองประธานคนใหม่ของบริษัท”
“รองประธานคนใหม่ของบริษัท” ไม่เพียงแต่โสรยาเท่านั้นที่ตกใจกับคำตอบของโชติกา เพราะแม้แต่ปองธรรมก็ยังตกใจไปเหมือนกัน เพราะตำแหน่งที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ก็คือ Graphic Designer ไม่ใช่ตำแหน่งรองประธานบริษัท
“คุณใบเตยครับ ตำแหน่งที่เราคุยกัน ไม่ใช่ตำแหน่ง...”
“ฉันตัดสินใจที่จะให้เธอเป็นรองประธานคนใหม่ของบริษัท ฉันมีเหตุผลส่วนตัวของฉันก็แล้วกัน และมันจะเป็นผลดีต่ออนาคตของนายด้วย”
“ครับคุณใบเตย” ปองธรรมตอบ รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของโชติกา จู่ๆ ก็มาเปลี่ยนตำแหน่งให้เขาเฉยเลย นี่ถ้าพี่สาวของเขารู้ว่าโชติกายกตำแหน่งรองประธานบริษัทให้เขา คฤหาสน์ขจรเดชคงวุ่นวายไปอีกหลายวัน
“ไปกันเถอะ คุณอ้อยคงจัดห้องทำงานให้เธอเรียบร้อยแล้ว”
“ครับ” ปองธรรมตอบแล้วเดินตามโชติกาไปเข้าลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานชั้นบนสุดของบริษัท และทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดเสียงของพนักงานก็ดังขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย หัวข้อสนทนาก็คือน้องชายของประธานบริษัทและตำแหน่งรองประธานที่ประธานสาวยกให้น้องชาย
////////
ข่าวการแต่งตั้งประธานคนใหม่ของอินฟินิตี้ ควอลิตี้ เอ็นจิเนียริ่งสร้างความสนใจให้แก่นักธุรกิจและสังคมโฮโซ รวมทั้งบรรดาญาติของโชติกากับเหล่าเพื่อนสนิทของปองธรรมอยู่หลายวัน
ทว่าคนที่ไม่พอใจกับข่าวนี้ก็มีแต่คุณนลินีและปาลินีผู้เป็นลูกสาว ตั้งแต่ข่าวการแต่งตั้งรองประธานคนใหม่ของอินฟินิตี้ ควอลิตี้ เอ็นจิเนียริ่งบนหน้าหนังสือพิมพ์
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะค่ะคุณแม่ ทำไมไอ้ป้องถึงได้เป็นรองประธานคนใหม่ของบริษัทคุณลุงด้วย”
“แม่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน คนที่นังใบเตยต้องดูและช่วยเหลือต้องเป็นลูกสาวของแม่สิ ไม่ใช่ไอ้ป้อง”
คุณนลินีบอกลูกสาวอย่างอารมณ์เสีย เธอรู้สึกโกรธ ไม่พอใจโชติกาที่เห็นปองธรรมดีกว่าปาลินี ถึงเธอกับอดีตสามีจะรับปองธรรมมาเป็นลูก แต่ปองธรรมก็ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับเธอ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยด้วยซ้ำ คนที่โชติกาต้องช่วยเหลือและส่งเสริมก็คือลูกสาวของเธอเท่านั้น
“นีไม่ยอมนะคะคุณแม่ นีจะเข้าไปทำงานที่บริษัทของคุณลุง คุณแม่ต้องช่วยนีนะคะ” ปาลินีร้องบอกมารดา เธอไม่มีทางปล่อยให้ปองธรรมได้ดีกว่าแน่ ทุกอย่างที่โชติกาให้ปองธรรมต้องเป็นของเธอ
“ได้สิจ้ะลูก” คุณนลินีตอบลูกสาว
“คุณแม่ขา นีอยากได้รถคันใหม่ คุณแม่ขอให้คุณลุงซื้อให้นีหน่อยได้ไหมค่ะ ต้องเอาที่แพงกว่าที่ไอ้ป้องขับนะคะ”
“ได้สิหนูนี เดี๋ยวแม่จัดการให้” คุณนลินีเอ่ยออกมา ขณะดึงร่างลูกสาวเข้ามากอด เธอก็ไม่มีทางปล่อยให้ปองธรรมได้สมบัติของสามีใหม่ไปมากกว่าเด็ดขาด ทุกอย่างต้องเป็นของเธอกับลูกสาว
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ นีรักคุณแม่ที่สุดเลย” ปาลินีขอบคุณแล้วยื่นแขนทั้งสองข้างโอบเอวผู้เป็นมารดา คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ขอให้ท่านช่วยเหลือ
คุณเทิดที่เดินเข้าในห้องนั่งเล่นได้ยินทุกประโยคที่ภรรยากับลูกเลี้ยงคุยกัน คิ้วเข้มขมวดกันยุ่ง ทั้งแปลกใจ สงสัยและไม่พอใจอย่างมากกับบทสนทนาที่เกิด รวมไปถึงเรื่องของลูกชายคนเล็กของภรรยา ก่อนที่ท่านตัดสินใจแต่งงาน คุณนลินีก็บอกท่านว่ามีลูกสองคน นั่นก็คือปาลินีกับปองธรรม แต่จากบทสนทนาเมื่อครู่นี้ทำให้ท่านสงสัยเป็นที่สุด
ตกลงปองธรรมเป็นใครกันแน่! แล้วมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับภรรยาคนใหม่ของท่าน? เห็นทีท่านคงต้องส่งนักสืบไปสืบประวัติคนในครอบครัวของภรรยาเสียใหม่ ท่านจะได้หายสงสัยเสียทีว่าเพราะอะไร ภรรยาคนใหม่ของท่านถึงได้รังเกียจลูกชายนัก
คุณเทิดตัดสินใจหันหลังกลับ เดินออกมาจากห้องโถง ปล่อยให้สองแม่ลูกคุยกันต่อไป ท่านก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากนี้ สองแม่ลูกคู่นี้จะทำอะไรอีก บางทีท่านอาจคิดผิดจริงๆ ก็ได้ ที่ตัดสินใจแต่งงานกับคุณนลินี
คุณนลินีกอดลูกสาวเอาไว้แน่น พยายามคิดแผนการเพื่อให้ลูกสาวของเธอได้เข้าไปทำงานในบริษัทของโชติกา ถ้าคุณเทิดผู้เป็นสามียอมให้เธอเข้าไปทำงานในบริษัทตั้งแต่แรก ทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้ ตอนนี้เธอไม่สามารถช่วยเหลือลูกสาวให้เข้าไปจัดการงานในบริษัทอินฟินิตี้ ควอลิตี้ เอ็นจิเนียริ่งได้เลย ทั้งหมดเป็นความผิดของโชติกา หากไม่มีโชติกา สมบัติของตระกูลขจรเดชก็ต้องเป็นของเธอกับลูก
ปาลินีแปลกใจเล็กน้อยที่มารดาเงียบไปหลังจากที่เธอขอให้ท่านซื้อรถให้ แขนทั้งสองข้างถูกคลายออก ก่อนดันร่างออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา เงยหน้ามองมารดาด้วยความสงสัย
“คิดอะไรอยู่หรือค่ะคุณแม่”
“แม่กำลังหาวิธีให้หนูนี เข้าไปทำงานในบริษัทของคุณลุงเทิด”
“จริงหรือค่ะคุณแม่” ปาลินีถามมารดาอย่างตื่นเต้น
“จริงสิจ้ะ แม่จะโกหกหนูนีทำไมล่ะ” คุณนลินีตอบลูกสาว
“นีรักคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ” ปาลินีปรี่เข้าไปกอดมารดาอย่างดีใจ
“แม่ก็รักหนูนีที่สุดเหมือนกัน แม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้สมบัติทั้งหมดของคุณเทิดกลายเป็นของหนูนีของแม่ให้ได้”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ ถ้านีได้เข้าไปทำงานในบริษัท นีจะทำทุกวิธีทางเพื่อไล่ไอ้ป้องออกจากบริษัทให้ได้ นีไม่มีทางปล่อยให้มันได้ดีไปกว่านีแน่”
“ดีมากลูกรัก” คุณนลินียิ้มกับความคิดของลูกสาว เพราะสิ่งที่ปาลีนีคิด ก็เป็นสิ่งที่เธอคิดเอาไว้เช่นกัน คนที่จะได้ครอบครองทุกอย่างของตระกูลขจรเดชต้องเป็นเธอกับลูกสาวเท่านั้น
“แล้วนี่คุณลุงหายไปไหนหรือค่ะคุณแม่ ทั้งที่เป็นวันอาทิตย์แท้ๆ คุณแม่ปล่อยให้คุณลุงออกไปเที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ แบบนี้ไม่ดีนะคะ”
“ไม่ดีตรงไหนหนูนี” คุณนลินีถามลูกสาวอย่างสงสัย
“ถ้าคุณลุงเกิดนอกใจคุณแม่ขึ้นมาจะทำยังไงค่ะ” ปาลินีบอกอย่างที่ใจคิด ถ้าเกิดเรื่องที่เธอคิดเป็นจริงขึ้นมา แล้วเธอจะทำอย่างไรกัน เธอไม่มีทางกลับไปลำบากเหมือนในอดีตอีกแน่ ถ้าใครคิดจะแย่งความสุขสบายไปจากเธอกับมารดา มันต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม
“คิดมากนะ คุณเทิดไม่มีทางนอกใจแม่หรอกหนูนี”
“ขอให้มันจริงเถอะค่ะ คุณแม่จะทำอะไร ก็คิดให้รอบคอบนะคะ แล้วก็เลิกเข้าบ่อนเสียที ถ้าคุณลุงรู้เรื่องที่คุณแม่ติดการพนัน คงไม่ดีนัก”
“เรื่องนั้นหนูนีไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงคุณเทิดก็ไม่มีทางเลิกกับแม่แน่”
“ขอให้มันจริงเถอะค่ะ เพราะถ้าคุณลุงเทิดจับได้ว่าคุณแม่ติดการพนัน เรื่องที่คุณแม่กับนีหวัง ก็คงไม่มีวันเป็นจริงแน่ๆ”
“คุณเทิดไม่มีทางจับได้หรอกหนูนี เชื่อแม่สิ”
“ก็ขอให้มันจริงอย่างที่คุณแม่บอกนีเถอะค่ะ เพราะถ้าคุณลุงเทิดรู้เรื่องความจริง คุณแม่กับนียิ้มไม่ออกแน่” ปาลินีเตือนมารดาอย่างเป็นห่วง อีกอย่างพ่อเลี้ยงคนใหม่ของเธอก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้ามารดายังเล่นการพนันอยู่แบบนี้ สักวันคงถูกท่านจับได้
“เชื่อแม่สิ คุณเทิดไม่มีทางรู้เรื่องที่แม่ติดการพนันหรอก หนูนีสบายใจได้ อีกอย่างแม่ก็ไม่ได้เล่นในเมืองไทยเสียหน่อย”
“ขอให้มันจริงเถอะค่ะคุณแม่” ปาลินีบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถ้าเป็นอย่างที่เธอคิด ชีวิตที่แสนสุขสบายของเธอก็จะหายไปภายในพริบตา ซึ่งเธอยอมไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าใครหน้าไหน หากเข้ามาขัดขวาง เธอก็พร้อมที่จะกำจัดให้พ้นเส้นทางความสุขสบายของเธอกับมารดาทันที
////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
- Writer
