ตอนที่ : 9 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 4

1665 Words
ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร “คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา “อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’ “คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอกตาไปด้านข้างก่อนจะตอบเขาตามความจริง “ฉันไปบ้านเพื่อนที่นนท์นทีรีสอร์ตใกล้ๆ นี่เองค่ะ เจ้าของที่นั่นเป็นเพื่อนฉันเอง” “แล้วไปกลับยังไง” น้ำเสียงของวิเนตย์ราบเรียบแต่แฝงเอาไว้ด้วยความโกรธอย่างชัดเจน “ก็ให้นนท์มารับมาส่ง” “ดีจริงๆ แต่งงานวันแรกก็ให้ผู้ชายมารับมาส่งถึงบ้านของผัว” เขาโพล่งอย่างเหลืออด สายตาตำหนิผู้เป็นภรรยาอย่างชัดเจน “คุณวิเนตย์คุณจะมาโกรธฉันทำไมนี่ ก็คุณเป็นคนบอกเองว่าให้ฉันออกไปข้างนอกได้ ฉันก็แค่ไปว่ายน้ำคลายเครียดที่บ้านเพื่อนแค่นี้มันเลวร้ายนักหรือยังไง” ปัง! “ไปว่ายน้ำ!” วิเนตย์ตบโต๊ะพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆ ภรรยา วธุกาผงะไปด้านหลังอย่างตกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของสามี นี่เธอพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ “ใช่! ไปว่ายน้ำ ทำไมต้องเสียงดังด้วย” หญิงสาวทำใจกล้าสู้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังไม่ต่างไปจากเขา “คุณออกไปกับผู้ชายทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้วันเดียว คุณเอาอะไรคิดคุณวาท ยิ่งไปกว่านั้นคุณ ฮึ่ย! ยังมีหน้าไปใส่ชุดว่ายน้ำแล้วว่ายน้ำในบ้านของผู้ชายคนนั้นอีก คุณคิดที่จะไว้หน้าผมบ้างไหม!” ถึงบางอ้อก็คราวนี้ วธุกากลอกตากลับไปมาระหว่างซ้ายขวาและนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจให้ใจเย็นลง “เผื่อคุณจะฟังไม่ชัด ฉันจะบอกอีกรอบนะคะคุณวิเนตย์ นนท์เป็นเพื่อนฉันเราคบกันมานานเป็นสามสิบปีแล้ว แล้วการที่เพื่อนไปหาเพื่อนสนิทของตัวเองมันเป็นการไม่ไว้หน้าคุณตรงไหน” “ก็มันเป็นผู้ชายยังไงล่ะ” วธุกาได้ยินแล้วก็ลมออกหู อยากพ่นไฟใส่คนพาลไม่เลือกหน้าเสียจริงๆ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะฉีกยิ้มกว้างผิดกับดวงตาที่มองนิ่งๆ “คุณวิเนตย์” เรียกชื่อสามีด้วยเสียงลากยาว “อะไร” อีกคนก็สะบัดเสียงใส่ราวหงุดหงิด วธุกายื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาแล้วถามเสียงนุ่มเบาๆ “คุณเคยมีเพื่อนไหม” “นี่คุณวาทอย่ามาย้อนผมนะ” คนถูกถามตวาดกลับจนอีกฝ่ายต้องกลับไปนั่งตัวตรงอยู่ที่เดิม วธุกาเบ้ปากใส่เขานิดๆ แบบไม่ให้จับผิดได้ในทันที “งั้นคุณก็อย่ามีเพื่อนผู้หญิงนะคะ อย่าไปมาหาสู่เพื่อนผู้หญิงด้วย เพราะถ้าคุณห้ามฉันไปหานนท์คุณก็ต้องห้ามตัวเองไม่ให้ไปหาเพื่อนผู้หญิงของคุณ แล้วก็นี่ไม่ใช่การหึงหวงแต่เป็นสิทธิส่วนบุคคล” “จะมากไปแล้วนะคุณวาท” “ไม่มากหรอกค่ะแฟร์ดีออก อ้อ ฉันเหนื่อยและหิวมากอยากจะไปอาบน้ำแล้วกินมื้อค่ำเร็วๆ ขอตัวก่อนนะคะคุณวิเนตย์” วธุกาเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืน เดินขึ้นบ้านไปโดยที่ไม่คิดเหลียวหลังกลับมามองสามีอีก หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าการโต้เถียงสามีในตอนนี้จะส่งผลต่อตัวเองในยามค่ำคืนอย่างไร วิเนตย์ไม่ได้ตามขึ้นมาเพื่อทะเลาะกันต่อเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรก แม้แต่ตอนอยู่ในห้องอาหารเขาก็ยังยกจานข้าวมานั่งกินกับเธออย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จาทำเหมือนกับไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อนหน้า และความนิ่งเฉยของสามีนี่แหละที่ทำให้หญิงสาวเกิดกลัวขึ้นมา รับประทานมื้อค่ำเสร็จวธุกาก็รีบกลับขึ้นห้อง ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วรีบหลับให้เร็วที่สุด ความนิ่งจนผิดปกติของเขามันแปลกชอบกล คิดไปคิดมาก็ผล็อยหลับลงไปในที่สุด ด้านคนเป็นสามีเมื่อจัดการดูแลความเรียบร้อยของรีสอร์ตหมดทุกอย่างแล้วก็กลับเข้ามาภายในบ้าน ความเงียบสงัดทำให้เขาต้องกวาดสายตามองหาภรรยา เมื่อมั่นใจว่าวธุกาไม่ได้อยู่ชั้นล่างวิเนตย์ก็จัดการปิดไฟหมดทุกดวงแล้วขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตนเอง เปิดประตูเข้าไปก็พบภรรยาของตนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาเลือกที่จะเปิดไฟดวงเล็กเพื่อไม่ให้คนหลับรู้สึกตัวตื่น ‘ทำให้ผมโมโหแล้วยังมีหน้ามานอนสบายใจอยู่คนเดียวนะคุณวาท’ วิเนตย์มองคาดโทษก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาในนั้นไม่นานนักก็กลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันตัวแค่ผืนเดียว แปลกใจเล็กน้อยที่วธุกายังคงนอนหลับสนิทลงได้ทั้งที่เขาอาบน้ำเสียงดังพอสมควร ยืนมองคนหลับแล้วมุมปากก็ยกขึ้นนิดๆ มือกอดอกเอาไว้หลวมๆ ลูกน้องกับลูกค้าเป็นร้อยเป็นพันยังเอาอยู่ นับประสาอะไรกับเมียแค่คนเดียวจะทำไม่ได้ “หืม อย่าสิ” คนหลับพึมพำเมื่อผ้าห่มคลุมตัวถูกดึงออกเบาๆ หญิงสาวก็ดึงกลับขึ้นมาห่มใหม่อีกรอบ แต่ก็ต้องถูกดึงออกไปอีกครั้งอย่างน่ารำคาญใจ “บอกว่าอย่าไง” คิ้วเริ่มขมวดแน่นดวงตาเริ่มกะพริบปริบๆ ก่อนจะลืมขึ้นมาอย่างงัวเงีย วธุกาแทบกรี๊ดลั่นบ้านเมื่อมองลงด้านล่างกลับเป็นศีรษะของสามีที่กำลังยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนเขาจะไม่สนใจรับรู้ว่าเธอตื่นแล้วด้วย “คะ...คุณวิเนตย์ คุณทำอะไร” วธุกาใช้มือยันที่นอนขึ้นมาดูเขา พอเห็นเท่านั้นล่ะ เธออยากจะบ้าตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่า ลักหลับ “ผมเห็นคุณหลับเลยไม่อยากปลุก” คำตอบของเขามันน่าถีบกระเด็นยิ่งนัก “ฉันอยากนอนคุณก็นอนเถอะนะ เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อย เอ่อ ทำกันก็ได้” วธุกากลั้นใจบอกเขา สายตาก็พุ่งมองตรงมือของเขาที่กำลังนวดคลึงบางอย่างอยู่ “พะ…พอก่อนนะคุณวิเนตย์ อื้อ!” “คุณเคยได้ยินไหมคุณวาทว่าเวลาคนหิวก็ต้องกิน ไม่งั้นก็อดอยากปากแห้งตายกันพอดี คำขอของคุณไม่เป็นผล นอนลงที่เดิมนะครับเดี๋ยวผมจัดการเอง” พูดเท่านั้นเขาก็ก้มลงจัดการกับสิ่งที่มือกำรวบต่อ “คุณวิเนตย์ อื้อ!” วธุกาสะดุ้งแล้วทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ไม่ได้ทำเพราะคำสั่งของเขา แต่เป็นเพราะร่างกายไม่อาจต้านทานรสชาติสวาทที่เขากำลังปรนเปรอให้ได้ และมันก็กำลังมากขึ้น มากขึ้น จนอยากจะกรีดเสียงร้องออกมาให้สาสมกับความรู้สึก ‘ไอ้ที่นิ่งๆ มาตลอดนี่จะเอาคืนตอนนี้ใช่ไหม บ้าที่สุด!’ กว่าบทรักของสามีเธอจะจบลงเนื้อตัวก็เจ็บเคล็ดยอกไปหมด วธุกาลืมตาโพลงมองเพดานไม้สีน้ำตาลอย่างเหม่อลอย โดยมีสามีที่ตอนนี้เหงื่อผุดเต็มตัวนอนแผ่หลาอยู่ด้านข้าง ผ้าห่มคลุมกายสักนิดก็ไม่คิดทำ ยังมีเสียงหอบหายใจเหนื่อยๆ ของเขาให้ตระหนักถึงเรื่องที่เพิ่งจบลงเมื่อครู่ วธุกาหน้าร้อนผ่าวเพราะเขาทำมากกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งหลายท่า ใช่ หลายท่า อ๊ายยย! “คุณวาท” วิเนตย์พลิกตัวมามองดูภรรยาที่คงจะอิ่มอกอิ่มใจกับบทรักแสนเร่าร้อนของเขาไปหมาดๆ “คะ” “อาบน้ำกันเถอะ จะได้นอนสบายตัวไง” เขายิ้มล้อคนที่นอนหน้างอหงิกเหมือนกำลังโกรธตนเองอยู่ “คุณไปอาบก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันอาบทีหลัง” “ได้ไง ไปอาบพร้อมๆ กันนี่แหละ” “ทำไมต้องอาบพร้อมกัน” วธุกาหรี่ตามองเขาอย่างหวาดระแวง คนเป็นสามียิ้มนิดๆ ตรงมุมปากแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูงทั้งสองข้าง ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ กระซิบเสียงแหบพร่าว่า “ผมยังไม่อิ่ม” “อ๊ายยย!” คราวนี้ไม่ต้องกรีดร้องอยู่ในใจแล้ว วิเนตย์รีบเอามือมาอุดปากภรรยาที่ร้องปานถูกเชือด แล้วลากลงจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มจับคนที่โกรธจนตัวสั่นลงอ่างอาบน้ำ โดยมีตัวเขาตามลงไปติดๆ น้ำอุ่นถูกเปิดในระดับที่พอเหมาะ พอจะทำให้คนโกรธผ่อนคลายลงได้ ไม่มีถ้อยคำหวานหูให้กันและกัน มีเพียงอ้อมกอดแสนอบอุ่นภายใต้สายน้ำที่ไหลวนอยู่รอบกาย “อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงสติไม่ดีอีกนะคุณวาท บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบ กรี๊ดๆ กันอยู่ได้บ้าหรือเปล่า” เขาตำหนิเบาๆ คนที่นอนกึ่งนั่งอยู่บนตัวของเขาได้แต่กลอกตาขึ้นลง ถ้าไม่ติดว่าที่ตรงนี้อุ่นสบายตัวละก็คงลุกขึ้นจากอ่างแล้วเดินขึ้นเตียงนอนไปตั้งนานแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD