“นี่มะนาว”
“ขา?”
“ไหนๆ ไหนๆ เราก็รู้จักกันมาสักพัก พี่เลยอยากขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” ปรางสิตาทำหน้ากรุ้มกริ่ม ก่อนจะหยิบของที่มิรันดาถือไว้ในมือมาวางไว้บนโต๊ะ
“ถ้าตอบได้ นาวจะตอบนะคะ”
“มะนาวรู้จักกับคุณพิพัฒน์กับคุณพลมาก่อนเหรอ”
มิรันดายิ้มแทนคำตอบ ลังเลว่าจะตอบดีหรือเปล่า แต่ตั้งแต่พี่แป๋มกับพี่แก้ม อยู่ดีๆ ก็ลาออกโดยไม่ล่ำลาเมื่อห้าวันก่อน เธอกับปรางสิตาเลยสนิทกันมากขึ้น เพราะต้องช่วยกันทำงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งแม้จะเป็นเวลาแค่สองเดือน แต่ก็เหมือนรู้จักกันมานาน และที่สำคัญพีรพลไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเมียน้อยใครแล้ว ถ้าเล่าให้ฟังคงไม่เป็นไร
“ไม่เชิงว่ารู้จักกันมาก่อนค่ะ”
ปรางสิตายิ้มกว้าง คิดว่าเรื่องนี้จะคาใจไปอีกนานแสนนานเสียอีก
“พี่ปรางจำวันที่นาวมาสัมภาษณ์งานได้ไหมคะ”
“จำได้ วันนั้นทำไมเหรอ”
“พอสัมภาษณ์เสร็จ นาวแวะไปเดินที่ห้าง แล้วก็เจอคุณลุงคนหนึ่งกำลังเป็นลม มะนาวเลยเข้าไปช่วย คุณลุงคนนั้นคือคุณพิพัฒน์ค่ะ”
“เฮ้ย! จริงเหรอ”
“จริงค่ะ แต่ตอนนั้นนาวไม่รู้ว่าคุณลุงคือใคร นาวก็ช่วยตามสัญชาตญาณ พาไปนั่ง หาน้ำให้กิน แล้วคุณพลก็มาเห็นพอดี เขาเข้าใจว่านาวเป็นเมียน้อยพ่อเขา เราเลยเถียงกัน ตอนนั้นนาวไม่รู้ว่าคุณพลเป็นคนดูแลที่นี่ นาวเลยเถียงไม่ยั้งเลยค่ะ ก่อนจะแยกกัน เขาบอกนาวว่า...”
“อย่ามายุ่งกับครอบครัวผมอีกนะ ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีก”
“ได้ค่ะ งั้นเจอกันชาติหน้านะคะ”
“ดี เจอกันแล้วก็ขอโทษผมเรื่องวันนี้ด้วย”
“ไปเกิดให้ได้ก่อนเถอะคุณน่ะ ปากเสียแบบนี้ยมบาลคงสั่งขังในนรกนานกว่าคนอื่น”
“มะนาว! ทำไมปากเปรี้ยวสมชื่อแบบนี้” ปรางสิตาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นวันนั้นคุณพลคงไม่ทำหน้าปานจะหักคอเซลส์คนใหม่ แถมน้องสาวยังยืนไม่ไหว จนตัวทรุดลงไปบนเก้าอี้
“นาวก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่หรอกค่ะที่พูดไปแบบนั้น แต่ตอนนั้นมันอดไม่ได้จริงๆ ค่ะพี่ปราง”
“พี่เข้าใจนะ ถ้าพี่เป็นมะนาวก็คงทำแบบนั้น แต่พี่ก็เข้าใจที่คุณพลทำแบบนั้นเหมือนกัน คุณพลเขาเจ็บมาเยอะ”
“เจ็บเรื่องอะไรมาเยอะเหรอคะ”
“ก็พ่อคุณพลชอบเลี้ยงต้อยเด็กนักศึกษา ตั้งแต่แม่คุณพลเสีย คุณพิพัฒน์ก็ทำตัวเจ้าชู้ แต่เขาก็ทำได้อะนะ ขนาดอายุหกสิบแล้วยังดูหล่อ ดูเท่ แถมยังแข็งแรง ไม่อ้วนลงพุง ไหนจะเงินเหลือใช้ ท่านเลยแบ่งปันให้สาวๆ ที่พี่บอกว่าคุณพลเจ็บมาเยอะ ก็เพราะผู้หญิงพวกนั้นพยายามจะเข้ามาเป็นใหญ่ในบ้าน อยากยกตนเป็นนายหญิงแบบในละครน้ำเน่า บางคนจับแค่พ่อไม่พอ พอเห็นลูกชายหล่อ ก็จะเหมาทั้งพ่อ ทั้งลูก คุณพลเลยไม่ชอบใจผู้หญิงพวกนี้ จริงๆ คุณพลก็ไม่ได้ติดปัญหาเรื่องพ่อจะเลี้ยงเด็กหรอก เข้าใจว่าพ่อเหงา แต่ช่วงหลังพ่อทุ่มมากไป ให้ทั้งรถ ทั้งคอนโด เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า บางคนได้ทั้งหมดที่พี่พูด และพี่จะบอกอะไรให้นะ คอนโดทุกโครงการของบริษัท มีเด็กคุณพิพัฒน์อยู่ทุกที่เลย”
“พี่ปราง... คอนโดของบริษัทมีเกือบยี่สิบโครงการเลยไม่ใช่เหรอ” มิรันดาแทบช็อก อะไรจะเยอะขนาดนั้น
“อย่าตกใจไป นี่ยังไม่รวมคอนโดที่ไม่เป็นเจ้าของ ไหนจะเด็กๆ ที่อยู่หอพักอีก แต่ท่านเลือกนะ ถ้าสวยแต่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ขยัน หวังจะแบมือขอเงินอย่างเดียว ท่านก็ไม่เลี้ยงดูปูเสื่อให้เปลืองเงินหรอก และอีกอย่างท่านก็ไม่ได้หมกมุ่นเรื่องบนเตียง แค่ต้องการคนดูแล เอาใจใส่ ท่านชอบรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนุ่มอยู่ตลอดเวลา”
“แบบนี้นี่เอง คุณพลเลยคิดว่ามะนาวกับคุณพิพัฒน์เป็นอะไรกัน”
“พี่ถึงบอกไงว่าพี่เข้าใจทั้งสองฝ่าย มะนาวก็อย่าถือสาคุณพลเลยนะ”
“นาวไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เขาขอโทษนาวแล้ว ขอบคุณนะคะที่เล่าให้นาวฟัง”
“พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณมะนาว ขอบคุณที่เล่าให้พี่ฟัง พี่เก็บความเผือกไว้นานมาก จะถามก็ไม่กล้า อิอิ”
“พี่ปรางคะ”
“ว่า?”
“วันนี้คุณดนัยจะเข้ามาดูโครงการอีกรอบตอนบ่ายโมง พี่ปรางอยู่เป็นเพื่อนนาวได้ไหมคะ”
“วันนี้บ่ายโมงเหรอ”
“ค่ะ”
“ตอนบ่ายโมง คุณพลนัดพี่ไปคุยงานน่ะสิ แต่ถ้าคุณพลยังไม่กลับจากทำธุระ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนนะ ว่าแต่... มีอะไรหรือเปล่า ปกตินาวดูแลลูกค้าคนเดียวได้นิ”
“คือ...” เธอไม่กล้าพูด แต่โชคดีที่พี่ปรางอ่านใจออก
“มะนาวโดนทำหื่นกามใส่เหรอ!”
“ค่ะ ไม่ชอบเลย”
“ไอ้แก่พวกนี้นี่นะ มีเงินแต่ไม่มีมารยาท ไม่รู้จักให้เกียรติกันเลย มันทำอะไร ทำไมมะนาวไม่บอกพี่”
“ตอนที่เจอกันครั้งแรก เขาไม่ได้ทำอะไรให้อึดอัดเท่าไหร่ค่ะ แค่มองหน้านานๆ ส่งยิ้มเจ้าชู้ๆ มาให้ แต่เมื่อคืนลูกค้าส่งข้อความมาบอกข้อเสนอกับมะนาวค่ะ”
“ข้อเสนอคือ...”
“ถ้ายอมไปกินข้าวกับเขาหนึ่งมื้อ วันนี้จะเซ็นสัญญาจองหนึ่งห้อง ถ้าสองมื้อจะซื้อเงินสด และถ้าสามมื้อพร้อมนอนด้วยกัน...จะซื้อสองห้อง”
“ทุเรศมาก! ความจริงที่แก้มกับแป๋มลาออกกะทันหันก็เพราะเหตุผลนี้แหละแอบรับงานเสริม จนลูกค้าบางกลุ่มเข้าใจผิด คิดว่าเราไม่ได้ขายคอนโดอย่างเดียว”
“พี่แป๋มกับพี่แก้มลาออกเพราะแบบนี้เหรอคะ!”
“ใช่ ที่วันนั้นมาขอลางาน แถมยังให้มะนาวอยู่ต้อนรับคุณพิพัฒน์คนเดียว ก็เพราะไปอ้อนพวกเสี่ยกระเป๋าหนักให้ซื้อหลายๆ ห้อง สมควรแล้วที่โดนคุณพลเชิญออก ถ้าไม่ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เราจะถูกมองว่าขายตัวมากกว่าขายคอนโด”
มิรันดาหน้าเหวอ เหมือนถูกตบเบาๆ อุตส่าห์เห็นใจ ไม่น่าทำกันแบบนี้เลย
“คุณพลไล่ออกเหรอคะ”
“ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ไล่ออกนั่นแหละ ไม่รู้ว่าไปรู้ไปเห็นอะไรมา ตอนวันเสาร์โทร.มาคาดคั้นพี่ใหญ่เลยว่าแป๋มกับแก้มลางานไปไหน พี่ก็ไม่อยากตอบหรอก มันเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน แต่คุณพลก็เป็นเจ้านาย จะไม่บอกก็ไม่ได้”
มิรันดาหน้าเหวออีกครั้ง มิน่าล่ะวันนั้นเขาถึงถามเธอเรื่องแลกวันหยุด
“แล้วนี่มะนาวไม่ได้ตกลงอะไรไปใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ มะนาวไม่ได้ตอบ วันนี้เลยอยากขอให้พี่ปรางอยู่เป็นเพื่อน แต่ถ้าพี่ปรางไม่ว่างก็ไม่เป็นไรค่ะ”
“น่าจะบอกพี่เร็วกว่านี้ เผื่อพี่จะได้เลื่อนนัดคุณพล” ปรางสิตามองนาฬิกาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงครึ่ง จะขอเลื่อนนัดเจ้านายก็ทำไม่ได้
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะพี่ปราง คุณดนัยไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อ หรอกค่ะ อย่างมากก็แค่มอง ถ้าเขาทวงถามเรื่องกินข้าวแลกยอดขาย มะนาวจะปฏิเสธไปค่ะ แต่ถ้าเกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ซื้อคอนโดเลยสักห้อง พี่ปรางคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”
“พี่ไม่ว่าเลยมะนาว ถ้ามีคนแบบนี้อยู่ในคอนโด พี่ก็กลัวจะทำให้ลูกบ้านคนอื่นไม่สบายใจ ช่วงนี้มะนาวก็อดทนหน่อยนะ สู้ไปกับพี่ พี่จะหาเซลส์คนใหม่มาช่วยมะนาวทำงานเร็วๆ นะ”
“มะนาวไม่เหนื่อยเลยค่ะ จะคิดซะว่า... ไม่มีใครมาแย่งยอดขาย”
“ร้ายกาจ! จะขายให้หมดสองร้อยห้อง ไม่แบ่งใครเลยเหรอ”
“แบ่งสิคะ แบ่งพี่ปรางห้าสิบห้อง ที่เหลือมะนาวเหมาหมดเลย”
“งก!” ปรางสิตาหัวเราะต่อท้าย เธอรู้ว่ามิรันดาพูดเล่น เพราะจะขายห้องพักราคาสูงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฝืนหัวเราะต่อไปไม่ไหว เลยถอนหายใจเพราะห่วงทั้งมิรันดา ห่วงทั้งงาน แต่หลายวันที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้สมัครงานคนไหนเข้าตา และยังถอนหายใจเสร็จไม่ถึงหนึ่งนาที เจ้านายที่มักจะมาถึงก่อนเวลาเสมอก็เปิดประตูเข้ามาในสำนักงานขาย
“สวัสดีค่ะคุณพล” สองสาวทักทายพร้อมกันเหมือนนัดหมายไว้ และเป็นมิรันดาที่เดินเข้าไปในครัวเพื่อเสิร์ฟน้ำเย็นๆ ให้พีรพล
“ไม่ต้องนะ ผมกินมาแล้ว” เขาบอกเมื่อเธอก้าวขาเดินไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะหันไปคุยกับปรางสิตา
“บ่ายโมงตรง พี่ปรางไปหาผมที่ห้องนะครับ”
“ค่ะ” ปรางสิตารับทราบคำสั่ง ประทับใจที่แม้เขาจะมาก่อนเวลานัด แต่ก็ไม่เคยเบียดเบียนเวลาพักของพนักงาน (หากไม่จำเป็นจริงๆ)
เขาเป็นจะเจ้านายที่ใจดีหรือโหด ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของลูกน้อง แต่ส่วนใหญ่พีรพลใจดีนะ ไม่เชื่อก็ดูสิ ก่อนจะเข้าห้องทำงานยังเดินกลับไปที่รถ เพราะลืมขนมที่ซื้อมาฝากเธอกับมะนาวด้วย