ห้องพักหมอชัชวีร์
กำปั้นหนักๆ เคาะเป็นการแจ้งเตือนเจ้าของห้อง แล้วเปิดผลัวะเข้าไปทันทีด้วยความใจร้อนเมื่อได้ยินเสียงตอบกลับออกมาสั้นๆ ห้วนๆ
“เชิญ”
ร่างสูงโปร่งเกินมาตรฐานชายไทยก้าวเข้ามาในห้องพักแพทย์ ซึ่งชัชวีร์เพิ่งจะวางโทรศัพท์มือถือไปได้สักครู่พร้อมกับสีหน้าอึดอัดใจกับเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน คิ้วเข้มเหนือดวงตาเลิกขึ้น ถึงจะอย่างไร เขาก็ต้องช่วยเธอ จากนั้นวกสายตามามองเจ้าตัวปัญหาใหญ่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่มือขาวสะอาดปล่อยชาร์ตเหล็กของคนไข้ลงบนโต๊ะทำงาน
ธาวิตตามมาช้าเพราะเลขาฯ โทร.มาถามเรื่องการประชุมในบ่ายวันนี้ ซึ่งชายหนุ่มขอให้จัดการเลื่อนออกไปอีกสองวันข้างหน้าจึงเสียเวลาสั่งงานไปสิบกว่านาที และเวลานี้ เขาก็พร้อมจะจัดการเรื่องที่ค้างคาใจโดยไม่ต้องพะวงเรื่องงานแล้ว
“ขอโทษที่มาพบช้านะครับพี่ชัช เมื่อครู่ผมสั่งให้เลขาฯ เลื่อนการประชุมช่วงบ่ายวันนี้ออกไป”
ชัชวีร์ซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวพยักหน้ารับรู้ “ไม่เป็นไร นั่งสิ”
ธาวิตทรุดกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงกันข้ามเจ้าของห้อง กำลังจะอ้าปากถามว่าอลินมาทำงานกับชัชวีร์ได้อย่างไร แต่ก็ต้องรีบกลืนคำถามนั้นลงคอเมื่อญาติผู้พี่ที่เป็นคนสุภาพ นิ่ง สุขุม สมกับมีอาชีพอันทรงเกียรติ อาจารย์หมอมือทอง มองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ มันขุ่นขวางอย่างเห็นได้ชัด และน้ำเสียงก็แข็งกระด้าง
“วิต เมื่อไหร่นายจะเลิกทำตัวเป็นอันธพาล ทำอะไรตามอำเภอใจสักที” รอยยิ้มมุมปากจุดขึ้นแล้วมองมาที่ญาติผู้น้อง “ฉันรู้ว่านายมีนิสัยอยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่เมื่อก่อน นายสุขุมกว่านี้มาก ไม่เคยเห็นออกอาการกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้ แต่นายควรให้เกียรติสถานที่ และพี่ด้วย ในเมื่อเมื่อกี้นี้ สิ่งที่นายทำคือการลวนลามคนของฉัน”
‘ให้ตายเถอะ อยากจะบ้า’
คนเป็นน้องถอนหายใจยาวทันทีเมื่อญาติผู้พี่พูดจบ นี่คนอย่างเขาดูเหมือนพวกบ้ากาม หื่นไม่เลือกสถานที่ขนาดนั้นเชียวหรือ ธาวิตเห็นสายตาไม่พอใจที่มองผ่านแว่นตาที่ทำให้ชัชวีร์ดูอายุมากกว่าเขาหลายปีทั้งที่จริงอายุห่างกันเพียงสองปี
“ผมว่าพี่ชัชคงเข้าใจผมผิดแล้วครับ แต่ที่ผมเข้าไปถึงเนื้อถึงตัวพยาบาลสาวเมื่อครู่นี้ เพราะว่าผมกับเธอเคย...” กำลังจะบอกว่าเขากับอลินเคยมีความสัมพันธ์กันก่อนที่เธอจะหายไป แต่ชัชวีร์ชิงพูดขึ้นก่อน
“เพราะอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้น ข้อแรก อลินไม่ใช่พยาบาล เธอเป็นผู้ช่วยแพทย์ของฉัน เป็นลูกน้องที่ฉันต้องดูแลปกป้อง ข้อสอง ฉันจะไม่ยอมให้นายมายุ่มย่ามกับเธอแบบนั้นก็เพราะเธอเป็นแฟนฉัน ฉันต้องปกป้อง จะให้ใครมาหยามเกียรติคนรักของฉันไม่ได้แม้แต่นาย” น้ำเสียงเคืองขุ่นบอกน้องชาย
ธาวิตค่อยๆ เงยหน้ามองญาติผู้พี่ด้วยความงุนงง เหมือนฟิวส์ขาด สมองดับไปชั่วครู่ พลันดวงตาคมก็เบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากปากของชัชวีร์
“เธอเป็นแฟนพี่ชัช...” เขาขบกรามแน่น
“ก็ใช่สิ แล้วคนนี้ พี่จริงจังโว้ย หวงมากด้วย”
ความหยิ่งผยองทำให้สิ่งที่ธาวิตตั้งใจจะมาอธิบายให้ชัชวีร์เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับอลิน ถูกกลืนหายไปในลำคอ พร้อมกับความรู้สึกเหมือนถูกของแข็งหล่นทับศีรษะอย่างแรง ดวงตาสีดำสนิทเข้มขึ้น มือหนากำเข้าหากันแน่น
อลินแช่แข็งหัวใจของเขาเอาไว้หลายปี ไม่ปล่อยให้มันเปิดรับใครเพราะอยากเจอเธออีกครั้ง แต่เมื่อได้เจอหน้ากลับพบเรื่องช็อกว่า เขากับพี่ชาย...
‘มีเมียคนเดียวกัน’
ใบหน้าคมเข้มเครียดขึ้น ความโกรธแล่นกระจายไปทั่วร่าง แต่เจ็บสุดตรงที่ใจ หากทำได้ ธาวิตอยากเดินไปลากตัวผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นมาเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ไม่คิดเลยว่า แม่ผู้หญิงท่าทางเรียบร้อย อ่อนหวาน และเขาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายคนแรกของเจ้าหล่อนจะทำตัวเป็นนางพญาเทครัว มั่วได้ทั้งพี่ทั้งน้องตระกูลเดียวกันโดยที่เขาไม่เคยรู้
ตลอดเวลา ธาวิตคิดเสมอว่าอลินโกรธเพราะเรื่องคืนนั้น และรับไม่ได้ที่ต้องตกเป็นของผู้ชายแปลกหน้า เขาอยากจะเคลียร์กับเธอ แต่เรื่องราวกับตาลปัตร มันหักมุมเสียจนหลังเขาแทบหักไปด้วย ใจหนึ่งก็อยากจะเชื่อคำพูดของญาติผู้พี่ แต่อีกใจก็ยังคัดค้านด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาคิดว่ามาจากสัญชาตญาณส่วนตัว
ทว่ายังไม่พอ คนที่กำลังจมดิ่งกลับความสับสนในวังวนความคิดยังต้องมาถูกซักให้อารมณ์ขึ้นสูง
“เมื่อกี้ นายเหมือนจะพูดให้พี่รู้สึกว่า นายกลับอลินเคยรู้จักกันมาก่อน คราวนี้ นายเล่ามาซิ”
คนถูกถามไหวไหล่ พยายามบังคับความร้อนรุ่มในอกตัวเอง ไม่ให้มันแสดงออกมาให้ชัชวีร์จับได้
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่คิดว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน หน้าตาคุ้นมาก แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ก็เลยอยากถามให้รู้เรื่อง” แม้จะจำผิวกายขาวผ่อง ทรวงอกคู่งามอวบอิ่ม ความหอมหวานเนียนนุ่มไปทุกตารางพื้นที่ที่ยอมรับว่าติดใจ แต่มันจะไม่มีความหมายอะไรอีก ต่อจากนี้ อลินเป็นแค่เศษขยะในใจของเขาเท่านั้น
“งั้นก็ดี ฉันไม่หรอกนะรู้ว่า ก่อนหน้านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับอลินเป็นแบบไหนกัน นายถึงแสดงท่าทางแบบนั้นกับอลินเขา แต่ตอนนี้ อลินอยู่ในความดูแลของฉัน” นิ้วเรียวยาวชี้หน้าญาติผู้น้องอย่างคาดโทษ “วันหลังวันหน้า นายแค่อย่าทำรุ่มร่ามกับผู้หญิงของฉันอีกก็พอ”
สายตาที่เคยอ่อนโยนของพี่ชายคนสนิท บัดนี้กลับกลายเป็นขึงกร้าว จนธาวิตคิดว่า อลินคงเป็นนังแม่มดตัวร้ายที่ครอบงำให้พี่ชายของเขาลุ่มหลงได้ขนาดนี้ คิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกขุ่นเคือง เกลียดชังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น หรือคืนนั้น เขาช่วยคนผิด
ญาติผู้น้องคิดเท่านั้นก็แสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา พลางส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แล้วเอ่ยน้ำเสียงผยอง
“สวยกว่านี้ผมก็ผ่านมาเยอะ ผมไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงของใคร” ก็อยากโพล่งออกไปให้รู้แล้วรู้รอดว่าเจ้าหล่อนกับเขาเป็นอะไรกัน แต่ริมฝีปากหยักก็สั่นระริกด้วยพยายามระงับอารมณ์โกรธ “แค่ผู้หญิงของพี่ชัชหน้าตาคล้ายผู้หญิงที่ผม...”
เป็นชัชวีร์เองที่ฉลาดพอจะปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้วในเวลานี้ นายแพทย์หนุ่มจึงปรี่เข้าหาคนมีศักดิ์เป็นน้อง ข้อมือเรียวกระชากคอเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อสูทราคาแพง รั้งร่างหนาเข้ามาใกล้ แล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มกลั้นโทสะเช่นกัน
“นายควรหยุดพูดอะไรที่จะเป็นการดูถูกอลินซะ อลินเจอเรื่องร้ายๆ มามากพอแล้ว ต่อให้นายเคยรู้จักอลินในความสัมพันธ์แบบไหน เธอก็จำนายไม่ได้หรอก”
“พี่ชัชหมายความว่ายังไง” ธาวิตงุนงงกับสิ่งที่ชัชวีร์กล่าวออกมา