.
.
.
.
.
‘เธอเป็นของฉันคนเดียว... จำไว้’
.
.
.
.
.
แสงแดดอ่อนๆสาดมากระทบสองร่างที่ยังขลุกตัวอยู่บนเตียง..ร่างเล็กงัวเงียขยับตัวเบาๆพร้อมกับแพนขนตาที่ค่อยๆกระพือเบาๆเพื่อปรับรับแสงที่ส่องมากระทบดวงตา
“อือ..อ่ะ!” ร่างเล็กพยายามจะขยับตัวแต่ร่างกายมันรู้สึกหนักไปเสียหมดและเมื่อยิ่งพยายามขยับความเจ็บก็แล่นเข้าจู่โจมสะโพกกลมทันที
“อืม..” เสียงทุ้มของร่างหนาครางขึ้นมาเบาๆเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงเคลื่อนไหวจากอีกคนในอ้อมกอด
“ปล่อย..ฉัน..” เสียงแหบพล่าของหญิงสาวพูดออกมาเบาๆแต่ราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่ลมผ่านหูของเจ้าของแขนแกร่งนั่นไปเสียอย่างนั้นเมื่อเขายิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปกว่าเดิมอีก
“....” ไร้การตอบรับจากร่างสูงแต่เขากับเพิ่มแรงกอดแน่นขึ้นไปอีก
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้..” เสียงเล็กที่ฟังดูแข็งกร้าวย้ำอีกครั้งก่อนจะฝืนตัวดิ้นเพื่อหลบหนีจากอ้อมกอดอันแข็งแกร่งนี้
“อยู่นิ่งๆให้กอดไม่ได้รึยังไง” ดูเหมือนว่าร่างหนาจะเริ่มหมดความอดทน เขาเบี่ยงตัวขึ้นคร่อมคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงมาจ้องคนใต้ร่างที่ตื่นเต็มตา
“....” คนตัวเล็กเลิกขัดขืนและจ้องมองคนบนร่างตอบอย่างไม่มีคำว่าเกรงกลัวใดๆเลย
“ทำไมจ้องฉันอย่างนั้น..โกรธหรอ? เหอะ”
“แล้วฉันควรจะชื่นชมสิ่งที่นายทำรึไง?” น้ำเสียงที่แข็งกร้าวพูดถากถางอีกคนอย่างจงใจ
“ก็ควรจะชื่นชมสิ่งที่ผัวทำป้ะ?”ร่างหนาด้านบนว่าพลางใช้สายตากวาดมองร่างเล็กที่เปลือยเปล่าด้านล่างตนเองที่เต็มไปด้วยร่องลอยที่เขาฝากไว้
“.....” ไม่มีคำตอบแต่มีเพียงสายตาที่จ้องมายังร่างด้านบนด้วยความโกรธเคืองพร้อมกับปากเล็กที่เม้มขบกัดกันไว้แน่น
“เรื่องเมื่อคืน..ฉันจะไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะฉันตั้งใจ” ตาคมจ้องมองคนตัวเล็กด้านล่างอย่างมีนัยแต่ไม่รู้ว่าร่างบางจะเข้าใจมันหรือไม่
“....”
“ลุกได้แล้วจะได้ไปรับลูก” ร่างหนาค่อยๆถอนตัวออกจากร่างบางใต้ร่างก่อนจะผละตัวลุกขึ้นนั่งแต่กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวไม่หือไม่อือกับคำพูดของเขาเลยและยังคงนอนต่อไปอย่างนั้น
“.....”
“จะลุกไหม? ถ้าไม่ลุกฉันได้เอาเธอต่อแน่!” จบประโยคเท่านั้นแหละคนตัวเล็กรีบเด้งตัวขึ้นพร้อมกับควานหาเสื้อผ้าที่ตกอยู่รอบเตียงก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีทิ้งให้อีกคนมองตามไล่หลังไปอย่างนึกขำในใจ
... ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าที่ทั้งสองจะจัดการตัวเองเสร็จ ร่างสูงเดินตรงไปที่รถก่อนจะส่งสายตาไปมองคนที่เอาแต่ยืนจ้องอยู่นอกรถท่าทีเก้ๆกังๆพร้อมกับใบหน้ามุ่ยๆนั่น
“จะขึ้นรถสักทีไหม หรือจะต้องให้ไปอุ้ม?” สารถีกดกระจกลงก่อนตะโกนออกไปถามอีกฝ่ายและแน่นอนว่ามันได้ผล ร่างบางรีบขึ้นมานั่งประจำที่ข้างคนขับทันที
“...” ระหว่างทางบรรยากาศอึดอัดในรถถูกกลบด้วยเสียงเพลงคลอเบาๆเพื่อไม่ให้มันเงียบเกินไปแต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความกดดัน ร่างสูงแอบชำเลืองตามองร่างบางข้างๆที่เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างตลอดทางและเขาก็รู้ดีแก่ใจว่าเจ้าหล่อนก็ยังคงโกรธเขามาอยู่.. และเธอแทบจะไม่อยากเข้าใกล้เขาเลยเสียด้วยซ้ำ ไม่ทันไรพาหนะสี่ล้อก็แล่นเข้ามาจอดเทียบในบ้านก่อนที่เหล่าสาวใช้จะกรูกันเข้ามาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณรัน คุณริน ^^” หนึ่งในสาวใช้กล่าวทักทายก่อนโค้งหัวให้อย่างสุภาพ
“ส สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน” รินรีบโค้งหัวตอบทันทีด้วยความไม่เคยชินเพราะเจ้าหล่อนเองก็ไม่ได้โตมาในบ้านที่เลี้ยงให้เธอเป็นลูกคุณหนูอะไรเทือกนี้แต่ถึงสมัยเรียนจะเคยมาบ้านรันบ่อยๆก็ไม่เคยชินสักที
“ป๊ากับแม่อยู่ไหม”
“อยู่ค่ะ เล่นกับคุณหนูริเอลอยู่ในห้องคุณรัน”
“ขอบใจ” ว่าแล้วก็คว้าเอาข้อมือของภรรยาอย่างไม่เบามือก่อนจะออกแรงดึงให้เจ้าหล่อนเดินตาม
“ปล่อย ฉันเดินเองได้” ร่างบางพยายามขัดขืนทั้งดิ้นและแกะมือใหญ่นั่นออกแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลเลยสักนิด
“อยู่นิ่งๆแล้วเดินตามมาดีๆ อยากให้พ่อแม่ฉันรู้หรือไง?” ตาคมหันมาตวาดมองอย่างขัดใจเมื่อเห็นท่าทางของอีกคน
“....” ร่างบางยอมสงบลงก่อนจะเดินตามไปดีๆ..
.
.
.
.
‘ฉันไม่ได้ยอมนาย ฉันแค่ไม่อยากให้พ่อแม่นายไม่สบายใจ!’
.
.
.
.
.
.
“ว่าไงคู่ข้าวใหม่ปลามัน ไปเที่ยวสนุกกันไหมลูก ^^” ทันทีทั้งคู่เปิดประตูเข้าไปในห้องมีอาร์ก็หันมาทักทายลูกทั้งสอง
“ก็ดีครับแม่” รันที่เมื่อครู่จูงมือภรรยามาได้ผละออกไปก่อนตรงเข้าไปกอดหญิงสาวตรงหน้าด้วยความคิดถึง ส่วนรินเองก็รีบตรงเข้าไปหาลูกแล้วอุ้มลูกน้อยขึ้นมาฟัดแก้มชุดใหญ่
“แล้วรินหล่ะลูก สนุกรึเปล่า?” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเจ้าหล่อนดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่แม้ว่าร่างบางนั่นพยายามจะเก็บอาการไว้ยังไงก็ตาม
“อ่า.. ก็สนุกค่ะพ่อ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะตอบคำถามไปด้วยรอยยิ้ม
“ อื้มดีแล้วล่ะลูก” แต่ไม่ใช่ว่าซันเองจะดูไม่ออกว่ารอยยิ้มนั่นมันไม่ได้มาจากใจที่เต็มร้อย..
“ดีแล้วว ว่าแต่ได้หลานมาฝากแม่อีกคนรึเปล่าเนี่ย”
“โห่..แม่ครับ”
“ไม่หรอกค่ะแม่ แค่ริเอลก็เหนื่อยกันแย่แล้วตอนนี้” รินตอบกลับไปพลางหัวเราะกลบเกลื่อน
“ไหนขอฉันอุ้มลูกบ้างสิ”
“อุ้มดีๆล่ะ ลูกดิ้นแรงมาก” มือเล็กว่าพลางค่อยๆส่งลูกน้อยให้อีกคนอุ้ม
“ไงคะคนสวยของป๊ะป๋าา คิดถึงป๊ะป๋ากับมาม๊าไหมคะ”
“แอ้ๆ! ” เด็กน้อยว่าพลางไขว่คว้ามือไปในอากาศราวกับต้องการสัมผัสคนตรงหน้า
“แหน่ะคิดถึงป๊ะป๋าใช่ไหมล่ะ ป๊ะป๋าคิดถึงหนูเหมือนกันน” ไม่ว่าเปล่าคุณพ่อลูกอ่อนก้มลงไปให้มือเล็กๆนั่นได้สัมผัสหน้าของเขาก่อนฟัดแก้มลูกสาวบ้าง!
“รัน! เบาๆสิลูก เดี๋ยวหลานแม่ก็ช้ำหมด-.-” มีอาร์ตีไหล่ลูกชายเบาๆเมื่อเห็นว่าเขาเล่นกับลูกแรงๆ
“แอ้ๆ!”
“แหน่ะ เราก็ดุป๊ะป๋าอีกคนหรอเนี่ย งั้นป๊ะป๋างอนแล้วกลับไปอยู่กับมาม๊าเลย” ชายหนุ่มแกล้งทำหน้ามุ่ยใส่ลูกน้อยก่อนส่งมันคืนให้กับริน
“งั้นรันตามป๊ามาละกัน มีเรื่องจะคุยด้วย” ว่าจบคุณซันก็ลุกเดินนำไปตามด้วยลูกชายที่เดินตามหลังต้อยๆ ทิ้งสุภาพสตรีทั้งสองไว้ในห้องตามประสาผู้หญิง
“อ่า..แม่คะ ริเอลดื้อรึเปล่าคะ” หญิงสาวถามพลางอุ้มลูกน้อยที่นอนตาปรือไว้กับอก
“ก็ไม่ดื้อนะ ไม่งอแงเลย แต่ว่าตั้งแต่เริ่มคลานได้นี่มีแต่อยากจะไปอย่างเดียวเลย คนเหนื่อยน่ะคุณปู่เค้าเลย ฮ่าๆ เอาแต่วิ่งตามหลานกลัวหลานเจ็บตัว แม่ก็บอกเค้าแล้วนะว่าไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ^^”
“ฮ่าๆ ป๊าซันยังเลิกเห่อหลานอีกหรอคะแม่” รินค่อยๆวางลูกน้อยที่หลับแล้วลงบนเตียงอย่างเบามือก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมอกให้ลูก
“โอย รายนั้นไม่เลิกง่ายๆหรอกแถมยังบอกว่าอยากได้หลานเพิ่มอีกต่างหาก” มีอาร์นั่งมองการกระทำของหญิงสาวพลางอมยิ้มไปโดยไม่รู้ตัว
“ฮ่าๆ คนเดียวนี่ก็วุ่นวายไปทั้งบ้านแล้วค่ะแม่” ทั้งสองนั่งคุยกันไปหัวเราะไปตามประสาแม่บ้านลูกสะใภ้
มีอาร์เองก็รู้สึกโชคดีไม่น้อยที่ได้ลูกสะใภ้อย่างหนูรินเพราะมีอาร์เองก็เอ็นดูเจ้าหล่อนมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทรัน แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าทั้งสองจะได้ลงเอยกัน
“แล้วหนูล่ะริน.. หนูโอเครึเปล่า” ทันทีที่เหลือบไปเห็นรอยแดงๆที่ข้อมือของลูกสะใภ้มีอาร์อดเป็นห่วงไม่ได้
“หนูโอเคค่ะแม่.. ^^” แม้ว่าเธอจจะยิ้มได้แต่เหมือนว่าคนเป็นแม่คนมาก่อนอย่างมีอาร์ก็ดูออกอยู่ดี
“รันรังแกหนูรึเปล่าลูก..” มือบางเอื้อมไปลูบหัวลูกสะใภ้เบาๆด้วยความเอ็นดูแกมเป็นห่วง
“....” รินไม่ตอบอะไรแต่จู่ๆน้ำตามันก็รื้อขึ้นมาเสียดื้อๆเธอคงไม่สามารถกลั้นมันได้อีกต่อไป ร่างบางโผเข้ากอดหญิงตรงหน้าอย่างหาที่พึ่งก่อนน้ำตาที่มีมันจะทะลักออกมา
“หนูริน...โถ..” มีอาร์สวมกอดคนตัวเล็กแน่นพร้อมลูบหลังเบาๆ แม้เธอจะไม่รู้ว่าระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้มีปัญหาอะไรกันแต่ที่แน่ๆเธอไม่โอเคกับร่องรอยที่เจ้าลูกชายตัวดีของเธอฝากเอาไว้ที่ข้อมือเล็กนั่น
“ฮึก.. ฮือ..” คนตัวเล็กซุกในอ้อมกอดอันอบอุ่นนั่นพร้อมปล่อยสะอื้นออกมาเบาๆ หากเปรียบแล้วมีอาร์ก็เป็นเหมือนแม่คนที่สองของเธอเพราะแม่จริงๆของเธอนั้นอยู่ไกลบางเวลาที่เธอต้องการที่พึ่งเธอจึงกลายเป็นเหมือนแม่แท้ๆของเธออีกคน
“... ชู่ว. ๆ ไม่เป็นไรนะลูก ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น” ร่างบางว่าพลางลูบหลังลูกสะใภ้เบาๆเพื่อปลอบประโลม
“อื้อ.. ฮึก.. ค่ะแม่ หนูก็หวังและเชื่ออย่างนั้น ”
“งั้นหนูพักผ่อนอยู่นี่ก่อนนะ แม่ขอไปคุยกับสองพ่อลูกสักหน่อย ^^” ว่าจบมีอาร์ก็ลุกตรงลงไปหาสองพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ในสวน
.
.
.
.
.
.
“โห้ว ป๊าก็พูดไป ทำลูกใครว่ามันทำง่ายกันล่ะ”
“ก็ง่ายกว่าป๊าก็แล้วกัน ของแกรอบเดียวก็ติดละเห็นไหม”
“งี้แหละคนมันมีน้ำยา ฮ่าๆๆๆ” ลูกชายตัวดีว่าแล้วก็ยักคิ้วกวนบาทาผู้เป็นบิดาด้วยความมั่นหน้า
“เหมือนแกว่าป๊าไม่มีน้ำยาเลยว่ะ - -;”
“มีไหมไม่รู้ เดี๋ยวไปถามแม่เอาเองละกัน นู่นเดินหน้ามุ่ยมานู่นแล้ว” ไม่ว่าเปล่าชายหนุ่มทำท่าทางพยักเพยิดหน้าไปทางผู้เป็นแม่ที่กำลังเดินตรงมาทางพวกเขา
“ไงสองพ่อลูกคุยอะไรกันอยู่” ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆสามีโดยไม่ต้องรอให้ใครเชิญทั้งสิ้น
“ก็คุยเรื่อยเปื่อยอ่ะครับแม่”
“ตามประสาลูกผู้ชายอ่ะครับเมีย”
“อ่ะดีเลย งั้นแม่ก็จะมาคุยด้วยตามประสาคนเป็นแม่ละกันนะ”
“หมายความว่าไงอ่ะครับแม่”
“รัน.. รันทำอะไรหนูรินลูก”
“ผมไม่ได้ทำไร ก็ตามประสาสามีภรรยาอ่ะครับแม่” ว่าพลางยักไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ตามประสาสามีภรรยานี่หมายถึงทำหลานให้ป๊าอีกคนใช่ไหม ฮ่าๆๆ” คนเป็นพ่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวพูดแซวขึ้นมาขัดจนภรรยาข้างๆต้องหันมาส่งสายตาดุแทนคำพูด
“- -+++”
“อุ่ย...” คุณซันสงบปากสงบคำลงทันทีเมื่อเห็นสายตาที่เป็นดั่งสัญญาณเตือนของภรรยา
“รัน แม่จะถามอีกครั้งนึง ลูกทำอะไรหนูริน” น้ำเสียงจริงจังของผู้เป็นแม่เป็นเรื่องยืนยันว่านี่เป็นเวลาที่เขาไม่ควรเล่น
“เอ่อ..ผม..” ปากหยักขบเข้าหากันแน่นพลางครุ่นคิดหาคำตอบมาให้ผู้เป็นแม่
“ ว่ายังไงแม่รอฟังอยู่” มีอาร์จ้องมองลูกชายตรงหน้าอย่างคาดหวัง.. คาดหวังว่าเขาจะไม่ได้ทำในสิ่งที่เจ้าหล่อนคิด
“... ผมทำรินเจ็บ” ชายหนุ่มตอบออกไปเสียงเบาเพราะเขารู้ว่าแม่ต้องไม่พอใจแน่ๆ เขารู้ตัวดีว่าตั้งแต่เล็กจนโตแม่พร่ำสอนเสมอว่าไม่ให้ทำรุนแรงกับผู้หญิงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลร้ายแรงขนาดไหนก็ตามยังไงก็ถือว่าเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า
“...เฮ้อ.” เสียงถอนหายใจของคนเป็นแม่ถูกพ่นออกมาอย่างผิดหวัง.. นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินจากลูกชายของเธอเอง
“ผม.. ขอโทษที่ทำให้แม่ผิดหวัง” ลูกชายตัวดีก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“แม่สอนลูกมาตลอดว่าอย่าทำแบบนี้ ไม่ว่าจะทำให้เจ็บทางใจหรือทางกายแล้วยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเป็นภรรยาของลูก ลูกต้องดูแลเขาสิไม่ใช่ทำร้ายเขา”
“....” ชายหนุ่มนั่งก้มหน้าฟังอย่างสำนึกผิดเพราะไม่บ่อยครั้งนักที่แม่จะมานั่งบ่นหรือต่อว่าเขาแบบนี้ส่วนมากมันจะเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อเสียมากกว่า
“อย่าทำแบบนี้อีกนะลูก.. อย่าเอานิสัยป๊ามาใช้”
“พรวดดดดดดดดดดดด!! = =” คุณซันที่พึ่งจะยกกาแฟขึ้นดื่มพ่นกาแฟออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวก่อนจะหันไปมองภรรยาอย่างไม่เข้าใจ ‘ทำไมต้องพาดพิงผมอ่ะครับเมีย!’
“...” รันได้แต่พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะนั่งเงียบต่อไป
“แล้วคนที่ลูกควรจะขอโทษไม่ใช่แม่” ว่าจบร่างบางก็รีบพรวดหนีหายไปทันทีโดยทิ้งสองพ่อลูกให้นั่งมองตาม
“รันเพราะแกเลยนะป๊าเลยโดนลูกหลงไปด้วยเนี่ย - - ` รีบๆไปง้อเมียแกเลยไป”
“เข้าใจแล้วครับ.. แล้วเมียป๊าอ่ะเอาไง”
“เอาไงล่ะ! ป๊าก็ต้องไปง้อไง! ไปๆๆ แยกย้ายๆ” ไม่รอช้าร่างสูงของคนเป็นพ่อลุกและหายเข้าไปในบ้านตามภรรยาไปทิ้งให้ร่างสูงได้นั่งครุนคิดและตึกตรองการกระทำของเขาเมื่อคืนและที่ผ่านมา..
.
.
.
.
.
.
.
.
‘มีอาร์ ! นิสัยนั้นฉันเลิกไปนานแล้วนะ!’
.
.
.
.
.
.
“....” ร่างสูงของใครบางคนค่อยๆเปิดประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปส่องสองแม่ลูกในห้อง.. เมื่อพบว่าทั้งสองหลับอยู่ร่างหนาค่อยๆแทรกตัวผ่านบานประตูเข้าไปอย่างเงียบๆและตรงไปที่เตียง มือหนาค่อยๆทาบลงบนหัวของหญิงสาวที่หลับอยู่ข้างลูกน้อย
“อือ...” เมื่อได้รับสัมผัสบางอย่างสติก็แล่นกลับเข้ามาทันที ร่างบางค่อยๆปรือตาขึ้นมามองเจ้าของมือ
“กลับบ้านเรากันไหม” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวล
“...” ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรไปทำเพียงพยักหน้าก่อนค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นและเก็บสัมภาระข้าวของเครื่องใช้ของลูกลงในกระเป๋า
“มา เดี๋ยวฉันถือให้” มือหนายื่นไปรับกระเป๋าจากมืออีกคนเพราะเขารู้ว่าร่างบางเองก็ต้องอุ้มยัยหนูที่ยังคงหลับอยู่ ทั้งสองเดินออกจากห้องลงมาข้างล่างผ่ายห้องรับแขกพร้อมกับบอกลาเจ้าของบ้าน
“ผมกลับนะครับป๊า แม่”
“กลับดีๆนะลูก”
“ครับ” ว่าจบร่างสูงก็โค้งหัวให้น้อยๆเดินนำออกไปก่อนที่ร่างบางจะโค้งหัวตามและเดินตามออกไป
“เฮ้อ..” มีอาร์มองตามลูกๆที่กำลังเดินออกบ้านไปพร้อมถอนหายใจ
“เป็นอะไรน่ะมีอาร์ ทำไมเธอถอนหายใจอย่างนั้นล่ะ” ผู้เป็นสามีหันมาถามภรรยาด้วยความเป็นห่วง
“ฉันเป็นห่วงรินน่ะ..”
“อ่า..เรื่องนั้นเอง ดูเหมือนว่าฉันจะหนีกรรมของฉันไม่พ้นนะ”
“หมายความว่ายังไงน่ะคุณซัน?” ร่างบางหันไปมองสามีอย่างแววตาที่เต็มไปด้วยสงสัย
“ก็หมายความว่าฉันพยายามหนีกรรมที่ฉันเคยก่อไว้ไง.. กับเธอ ที่ฉันพยายามสอนให้ลูน่าเข้มแข็งและฝึกให้ลูกเป็นคนที่แกร่งเพราะฉันกลัว.. กลัวว่าวันนึงสิ่งที่ฉันทำกับเธอมันจะเกิดขึ้นกับลูก”
“....” มีอาร์ไม่พูดอะไรทำเพียงแต่ยื่นมือเล็กนั่นไปกุมมือผู้เป็นสามีไว้ก่อนจะบีบมันเบาๆราวกับต้องการปลอบใจ
“ฉันพึ่งเข้าใจ พึ่งมาคิดได้ก็ตอนที่ฉันมีลูกสาวนี่แหละ แต่เหมือนมันอาจจะไม่เกิดกับลูน่ามันอาจจะเกิดกับรันก็ได้”
“ไม่เป็นไรนะ ฉันคิดว่าเราสองคนทำหน้าที่พ่อแม่ดีที่สุดแล้วและฉันก็เชื่อว่าลูกของเราถูกสอนมาดี ลูกคงจะไม่ทำแบบนั้น..^^”
“....อื้ม ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน” มือใหญ่เปลี่ยนมากุมมือภรรยาคนสวยตอบก่อนจะจับกันไว้แน่น
.
.
.
.
.
.
.
‘ฉันได้แต่หวังว่ารันจะไม่ทำเรื่องโง่ๆเหมือนที่ฉันเคยทำ...’ ซัน
.
.
.
.
.
.
.
.
“แอ้ๆ!” เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นทันทีที่ทารกน้อยถูกผู้เป็นแม่วางลงบนโซฟา
“อ้าวตื่นแล้วหรอคนเก่งของมาม๊า” รินก้มหน้าคุยกับลูกน้อยที่ตื่นเต็มตาแล้วจ้องมองเจ้าหล่อนตาเป็นมัน
“แอ้ๆ! แอ้ๆ” เด็กน้อยร้องโต้ตอบราวกับเข้าใจในสิ่งที่คุณแม่พูด
“ริเอลล ตื่นแล้วหรอลูก ป๊ะป๋ารอเล่นกับหนูอยู่พอดีเลย” รันรีบวิ่งมานั่งลงข้างๆรินทันทีที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ของลูกให้เข้าที่เรียบร้อยแล้ว
“งั้นนายอยู่กับลูกไป ฉันขอตัวเป็นเก็บของก่อน”
“เดี๋ยวสิ อยู่ด้วยกันก่อน เรายังไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้ามาสักพักแล้วนะ” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้ลุกไปไหนก็ถูกมือใหญ่รั้งให้นั่งลงกับที่อีกครั้ง
“นายก็อยู่เล่นกับลูกไปสิฉันจะไปทำงาน” คนตัวเล็กต่อว่าคนข้างๆอย่างหัวเสีย
“ฉันทำไว้ให้หมดแล้ว ของลูกฉันก็เก็บแล้ว”
“แอ้~~~ คิก แอ้ะ แอ้~~~” ทารกน้อยยิ้มแป้นพลางดีดขาไปมาด้วยท่าทางร่างเริงราวกับข้าวมีความสุขหนักหนา
“แหน่ะเห็นไหมลูกยิ้มใหญ่เลย ลูกอยากให้เราอยู่ด้วยกัน พร้อมหน้ากันใช่ไหมคะริเอล?”
“แอ้ๆ!” ลูกน้อยส่งสัญญาณพร้อมรอยยิ้มหวานๆที่สามารถละลายจิตใจอันแข็งแกร่งของผู้เป็นแม่ได้แบบสบายๆ
“จ้าจ่ะๆ มาม๊าไม่ไปไหนแล้วค่ะยัยหนูของแม่” ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดแก้มลูกด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วลูบหัวลูกเบาๆ
“...คือฉัน..” ทันทีที่ได้เห็นข้อมือเล็กที่แดงช้ำนั่นชัดๆความรู้สึกผิดก็ตีขึ้นมาจุกอยู่ที่อกทันที
“.....” มือบางยังคงลูบหัวลูกต่อไปเรื่อยๆ
“ฉัน เอ่อ .. ขอ.. โทษ”
“ไหนว่านายจะไม่ขอโทษฉันไง” คราวนี้คนตัวเล็กหันมาประจันหน้ากับคนข้างๆ
“ก็ตอนแรกฉันจะไม่ขอโทษเธอ เพระเรื่องเมื่อคืนฉันตั้งใจทำไง แต่ข้อมือเธอมัน..”
“เหอะ แค่เห็นข้อมือแล้วรู้สึกผิดแต่เรื่องอื่นๆไม่รู้สึกผิดงั้นสิ?”
“ก็ขอโทษแบบไม่ขอโทษอ่ะเข้าใจป้ะ”
“อะไรวะรัน ใครจะไปเข้าใจนาย พูดจาอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง!”
“งั้นฉันไม่ขอโทษเธอก็ได้!”
“ฉันก็ไม่ได้อยากได้คำขอโทษจากนายนักหรอก!” ทั้งสองที่มัวแต่เถียงกันแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าทารกที่อยู่บนโซฟาตรงหน้าเขานั้นได้แอบเคลื่อนตัวไปยังที่อื่นเสียแล้ว...
‘แอ่กก! อุแว๊! อุแว๊! อุแววววววววววววว๊!!’ เสียงวัตถุบางอย่างที่ตกลงกระทบพื้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของเด็กน้อย
“ริเอลล!ลูกแม่” รินรีบตรงเข้าไปหาลูกทันทีเมื่อเห็นร่างเล็กๆนั่นกองอยู่บนพื้นพร้อมกับเสียงรร้องไห้ที่แผดดังไปทั่วบ้านก่อนจะอุ้มลูกน้อยเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอดแนบกับอกแน่น
“ริเอลลลล! ” รันเองก็ไม่ต่างรีบพุ่งตัวเข้าไปหาลูกทันทีแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ไวเท่ากับอีกคน
“อุแว๊ อุแวววววววววววว๊!” ทั้งๆที่ไม่มีบาดแผลอะไรแต่หนูน้อยดูเหมือนว่าไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆ
“โอ๋ๆๆลูกหนูเจ็บตรงไหนลูก แม่ขอโทษนะ แม่ขอโทษ” ร่างบางรีบอุ้มลูกลุกขึ้นเดินไปมาโดยมีผู้เป็นพ่อเดินตามเพื่อช่วยกันปลอบประโลม
“ลูกอาจจะตกใจก็ได้ ไม่เป็นไรนะคนเก่งของป๊ะป๋า หนูเก่งอยู่แล้วไม่ร้องนะลูก” ทั้งสองช่วยกันปลอบลูกแต่ก็น่าแปลกที่มันได้ผล หนูน้อยค่อยๆสงบลงก่อนใบหน้าบึ้งตีงจะกลายมาเป็นยิ้มร่าด้วยความชอบใจ
“นั่นไงลูกแม่ยิ้มแล้วว ^^”
“เก่งมากลูกสาวของป๊ะป๋า ^^” รู้ตัวอีกทีพวกเขาทั้งสองก็เผลอเงยขึ้นมามองกันด้วยความดีใจทั้งๆที่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มอยู่ทั้งคู่
“.......” ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดทั้งสองรีบสะบัดหน้าหนีกันไปคนละทางราวกับว่าต้องการซ่อนบางอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าที่แดงระเรื่อของทั้งคู่
“แอ้ๆ! แอ้ แออ้~~~ คิกๆ”
.
.
.
.
.
.
‘ทั้งคู่ต่างซ่อนเสียงหัวใจที่มันเต้นระรัวไว้ภายใต้หน้ากากนั่น..’
.
.
.
.
.
.
“ดูยัยหนูดิ พอคลานได้แล้วไม่อยู่นิ่งเลยอ่ะ” รันว่าพลางทอดสายตามองวัตถุตัวน้อยที่กำลังคลานดุ๊กดิ๊กๆอยู่บนพื้น
“งานนี้เปิดเทอมมาคงลำบากกว่าเดิมเลยและ คลาดสายตาไม่ได้เลยนะ”
“นี่ขนาดยังคลานไม่คล่องเท่าไหร่นะเนี่ย ยังไวขนาดนี้”
“แต่ก็นะ... อีกแปปเดียวลูกก็คงเดินได้..แล้วก็วิ่งได้แล้วหล่ะ เราคงต้องเหนื่อยกันกว่านี้อีกเยอะ” รินที่นั่งมองลูกอยู่ข้างๆก็ได้แต่อมยิ้มเมื่อคิดถึงอนาคตข้างหน้าที่หนูน้อยจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ
“คงอย่างนั้นแหละ แต่เพื่อลูกฉันต้องทำให้ได้.. ต้องรีบจบมามีงานทำดีๆ เพื่อจะได้ดูแลเธอกับลูก” คำพูดที่เขาเอ่อยออกมาไม่รู้ว่ามันผ่านการกลั่นกรองมาแล้วหรือเขาแค่พูดไปอย่างนั้น..แต่ที่แน่ๆมันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของใครบางคนเริ่มเต้นผิดจังหวะขึ้นมาอย่างกระทันหัน..
“…..” ร่างบางเอาแต่จ้องมาหนูน้อยที่คลานดุ๊กดิ๊กตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อเพื่อกลบเกลื่อนเสียงหัวใจที่กลัวว่ามันเต้นดังจนร่างหนาข้างๆได้ยิน แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อจู่ๆมือใหญ่ๆของร่างสูงข้างๆถูกวางลงบนหัวของเจ้าหล่อนก่อนจะลูบมันเบาๆ...
.
.
.
.
.
.
.
‘ฉันจะพยายามให้มากกว่านี้..เพื่อลูก..เพื่อเธอ..’
.
.
.
.
.
.
.
.