6

1115 Words
รัฐกฤตญ์ปรายตามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ที่นั่งกระฟัดกระเฟียดเรียวปากบางขยับยุกยิกบ่นอะไรบางอย่างเหมือนกำลังบ่นหรือต่อว่า ชายร่างโตรู้ได้ทันทีเลยว่า ประโยคที่สาวข้างกายพึมพำนั้นหนีไม่พ้นเรื่องของเขาแน่นอน “เอ้า! อยากจะด่าก็ด่ามาเลยไม่ต้องบ่นพึมพำอะไรอยู่คนเดียวหรอกมันเหมือนคนบ้าเลยรู้มั้ย” รัฐกฤตญ์พูดปนขำ ณิชาชำเลืองมองหน้าเขา ทำจมูกย่นใส่อย่างหมั่นไส้คนตัวโต เธอจะรู้บ้างหรือไม่ว่า กริยาท่าทางที่เธอทำนั้น มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง ราวกับมีคนเข้าไปตีกลองรัวอยู่ในนั้น ภาพของณิชาที่ย่นจมูกใส่เขา ดูเป็นธรรมชาติไม่เส แสร้งน่ารักน่ามองมากเหลือเกิน โดยเฉพาะริมฝีปากบางที่ห่อตัวเข้าหากันเป็นจุดที่น่าสัมผัสที่สุด ณิชาเหมือนจะรู้ตัวว่ารัฐกฤตญ์กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาที่รุ่มร้อน เต็มเปี่ยมไปด้วยไอของแรงปรารถนา เธอจึงขยับตัวหนีจนชิดติดกับประตูรถยนต์ “มองอะไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนหรือไง” ณิชาตวาดถามพยายามบังคับให้เสียงไม่ให้สั่น “เคยเห็น...แต่ไม่เคยเห็นใครน่ากินเท่าเธอมาก่อนเลย”ไม่พูดเปล่าร่างกายของเขาขยับเข้ามาหาร่างสาวอย่างรวดเร็ว ลำแขนกำยำโอบกอดรัดร่างของเธอไว้แน่น มีหรือที่สาวร่างน่ากินจะไม่ดิ้นรนออกจากการกอดรัดในครั้งนี้ เธอทั้งดิ้นใช้มือที่ว่างอยู่ทุบไปที่หลังของเขาหลายครั้ง แต่ดูเหมือนกับเธอทุบไปที่หินมากกว่าเพราะคนที่เจ็บก็คือเธอนั่นเองด้านหลังเกิดสงครามขนาดย่อมๆ แต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าและตอนกลางของรถยนต์ ไม่มีทีท่าจะสนใจว่าด้านหลังจะทำอะไร เพราะทุกคนนั่งเป็นหุ่นอยู่เช่นนั้นไม่คิดที่จะหันหลังมามองด้วยซ้ำ “ปล่อยนะ...ปล่อย ไอ้คนฉวยโอกาส” คนที่พูดรู้เต็มอกว่าคนฉวยโอกาสอย่างเขาไม่มีวันปล่อยเธอแน่ แต่ก็ยังพูดออกไป “ไม่ปล่อย...เธอนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ”รัฐกฤตญ์นึกรำคาญมือบางที่ทุบเขาไม่ยอมหยุด คราแรกไม่รู้สึกเจ็บแต่ ตอนนี้เริ่มรู้สึกบ้างแล้วก็เธอเล่นกระหน่ำทุบอย่างนั้นมันก็ต้องมีอาการเจ็บปวดกันบ้าง เขาจึงล็อคแขนทั้งสองข้างของเธอด้วยลำแขนแกร่งก่อนจะฉกจูบเรียวปากช่างพูดด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ของเขา เสียงค้านจึงดังก้องอยู่แต่ในลำคอสาว รัฐกฤตญ์ใช้ความชำนาญทำให้ณิชาอ้าปากรับเรียวลิ้นอุ่นจัดได้อย่างไม่ยาก ณิชาเริ่มต้านทานสัมผัสที่แสนวาบหวาม แฝงด้วยความรุ่มร้อนไม่ไหว ยามเมื่อเรียวลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มดูดดึงรัดเกี่ยว อาการแข็งขืนเริ่มอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน จูบของเขาเร่าร้อนเหมือนจะสูบวิญญาณของเธอให้ออกจากร่าง สูบเอาสตินึกคิดของณิชาออกไปด้วย จึงปล่อยให้เขาจูบและลูบไล้เรือนร่างของเธอตามอำเภอใจ ชายตัวโตยังคงควานหาความหวานจากเรียวปากบางเนิ่นนาน ก่อนจะลากไล้เรียวปากของเขาไปตามแนวแก้มนวลสีแดงระเรื่อ มาหยุดนิ่งซุกซบหากรุ่นกลิ่นสาวที่ซอกคอ ขบเม้มจนเกิดรอยแดง ร่างของเธอสั่นสะท้านรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย แหงนหงายศีรษะไปทางด้านหลังเพื่ออำนวยความสะดวกให้เขาโดยสัญชาตญาณ ชายหนุ่มดันร่างของเธอให้นอนราบไปบนเบาะรถในขณะที่ใบหน้าของเขายังคงซุกซบอยู่ที่ซอกคอขาวนวล สูดดมความหอมอย่างย่ามใจ ในขณะที่มือใหญ่ลูบไล้เรือนร่างสาวอย่างจาบจ้วงก่อนจะเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปตามสาบเสื้อที่แยกออกอย่างช้าๆ ณิชาไม่รู้ตัวเลยว่าซิปเสื้อแจ็กเก๊ตหนังสีดำได้ถูกรูดลงมาจนสุดทางเมื่อไหร่ และตอนนี้ทรวงอกงดงามเต่งตึงอวบใหญ่เกินตัว ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในกรวยสีหวานกำลังตกอยู่ในสายตาของรัฐกฤตญ์ที่ก้มมองดอกบัวคู่นั้นอย่างหิว กระหาย แววตาลุกโชนด้วยไฟปรารถนารุนแรง แล้วยิ่งเห็นใบหน้าของณิชาที่แดงระเรื่อ ดวงตาทั้งสองข้างอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากบวมเห่อจากการบดจูบของเขา ภาพนี้เป็นเสมือนประติมากรรมชั้นเอกที่ถูกปั้นแต่งมาเพื่อเขา รัฐกฤตญ์เอื้อมมือไปกดปุ่มที่กั้นระหว่างตอนกลางและตอนหลังขึ้น เขาไม่อยากให้ลูกน้องเห็นสรีระที่สวยงามของสาวคนนี้ เขาต้องการเก็บเธอเอาไว้เชยชมเพียงคนเดียว ถึงจะรู้ว่าไม่มีทางที่ดินแดนและวิทยาจะหันมามอง แต่ ความรู้สึกหวงก็วิ่งเข้ามาในจิตใจของเขาแบบกะทันหันเจ้าของจมูกโด่งสูดดมความหอมจากเนินอกขาวละลานตาตรงหน้าเคล้าใบหน้าอยู่ตรงดอกบัวคู่สวยอย่างหลงใหล มือแข็งแรงปลดตะขอชั้นในที่เป็นแบบตะขอหน้าออกด้วยความชำนาญ ทันทีที่ชั้นในตัวสวยแยกออกจากกัน เลือดในกายของรัฐกฤตญ์พลุ่งพล่านถึงขีดสุด เมื่อมองเห็นดอกบัวตูมดอกใหญ่ผลิบานเด่นสวย โดยมีเม็ดบัวสีชมพูอ่อนกระจ่างเต็มสองนัยน์ตา ณิชาที่ตกอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแอ่นร่างดุจคันศรเมื่อริมฝีปากร้อนๆ ของเขาสัมผัสกับเม็ดบัวสีชมพูอ่อนของเธอนำความสยิวเสียวให้ก่อเกิดในร่างกาย สติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตอนตอนนี้มันถูกดึงออกไป จากสมองและความนึกคิดโดยสิ้นเชิง ไม่ต่อต้านแถมยังโอนอ่อนไปกับสัมผัสของเขาที่ร่ายมนต์เข้าใส่ ใบหน้าสาวส่ายไปมาเหมือนจะระงับความเสียวซ่าน ยามที่ปากหนาของรัฐกฤตญ์ดูดดึงเม็ดบัวเข้าไปในอุ้งปากร้อนระอุ ดูดกลืนอย่างโหยหิวใช้ลิ้นสากตวัดไปพลาง มือข้างหนึ่งหยอกล้อกับเม็ดบัวที่แข็งเป็นไตพร้อมกับบีบเคล้นทรวงอกข้างที่ว่างเว้นจากปากหนา ก่อนจะย้ายปากและลิ้นมายังยอดถันอีกข้างที่ถูกดูดกลืนและเลียไล้ไม่ต่างกับอีกข้างหนึ่งเลย เขาทำเช่นนี้สลับกันไปมากับเต้าทรวงทั้งสองข้างอย่างไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักอิ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD