ฉันเดินหาหนังสือที่ควรจะอ่านแต่จู่ๆคุณภูก็ยกหนังสือออกมาวางให้ประมาณ5เล่ม ฉันเลยรีบเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“อันนี้คือพื้นฐานที่ต้องอ่านครับ ผมเองก็จบบริหารมาถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามผมได้เลย เพราะช่วงนี้คุณอัคคีงานยุ่งมากลูกหนี้รายใหญ่หนีออกไปจากเกาะเลยต้องส่งคนไปตามหา”
“คุณภูคะ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมทำไมพี่สาวของฉันถึงไปเป็นหนี้คุณอัคคีได้ล่ะ”
“เรื่องนั้นผมว่าอย่าไปสนใจดีกว่าครับ ถ้าเกิดว่าพี่สาวคุณถูกส่งมาก็คงไม่ได้อยู่ที่นี่อาจจะถูกคุณอคินคัดเกรดแล้วพาไปส่งที่เลาจน์”
ฉันเดินกลับมานั่งดูหนังสือ นี่ฉันจะได้เรียนจริงๆเหรอ ตื่นเต้นจังเลยแล้วต้องสอบเข้าด้วยว่าแต่ชื่อมหาลัยอะไรนะลืมถามคุณภูเลย
ฉันอ่านหนังสือจนลืมดูเวลารู้ตัวอีกทีก็บ่ายโมงแล้วคงไม่ทันอาหารกลงวันแล้วล่ะไม่เป็นไรยังไม่ค่อยหิวไว้เย็นค่อยชดเชยก็แล้วกัน
//อัคคี//
ผมเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นทุกคนกำลังนั่งรอแต่ไม่มีหนูพายเลยมองหาไอ้ภูเพื่อให้มันขึ้นไปตาม สุดท้ายผมเลยต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องดูเห็นเธอกำลังจดสิ่งที่ไม่เข้าใจก็เลยปล่อยไปก่อน บ่ายผมมีออกไปเก็บเงินค่อยพาไปหาอะไรกินก็แล้วกัน
“วันนี้มีต้มยำกุ้งของโปรดคุณอัคคีด้วยนะคะ”
“ส้มซ่าให้ทุกคนทานได้เลยไม่ต้องรอ” ผมเดินกลับมาเตรียมเอกสารสัญญาลูกหนี้ที่คิดหนี วันนี้จะได้โชว์อำนาจที่พวกมันลืมสักที
ตอนนี้หนูพายเดินลงมานั่งข้างล่างพร้อมกับน้ำเต้าหู้ที่ไอ้หมอมันซื้อมาฝาก ผมลืมทิ้งไปได้ยังไงแต่ก็นะรองท้องไปก่อนนังหนู
“หนูพายไปเปลี่ยนชุดจะพาไปดูมหาลัย”
สีหน้าของเด็กน้อยที่กำลังดีใจอย่างบอกไม่ถูก เธอรีบวิ่งขึ้นบ้านไปเปลี่ยนชุดด้วยความเร็วแสง ผมควรจะเตือนเธอไหมว่าห้ามวิ่ง
เมื่อถึงเวลาที่เธอลงมาอืม เดรสลายดอกไม้เล็กๆมีเสื้อคลุมไหมพรมสีขาวน่ารักจัง ชุดนี้คงเป็นของที่แม่เธอใส่กระเป๋ามาให้สินะ
“หนูอยากรู้ชื่อมหาลัยค่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้เอง อ่ะถือเอกสารด้วยไอ้ภูมันกำลังเตรียมรถ”
ผมเดินนำหนูพายมาที่รถ ขึ้นมาเธอก็แอบเปิดดูเอกสารที่ผมให้ถือนั่นมันเอกสารผลการเรียนและการย้ายสำเนาทะเบียนบ้านมาอยู่กับผม ตอนนี้เท่ากับว่าผมเป็นผู้ปกครองโดยสมบูรณ์แบบ เพราะพ่อแม่เธอยินยอมยกให้ผมเป็นคนจัดการเธอโดยที่ทั้งสองคนจะไม่มีสิทธิ์เข้ามาก้าวก่ายแต่อย่างใด
มาถึงมหาวิทยาลัยนานาชาติเธอก็นั่งมองตาค้างเลย ที่นี่มันเป็นมหาลัยปิดนักศึกษาไม่เยอะเพราะส่วนใหญ่จะเป็นลูกของผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
“ว้าว”
“ฉันจะแนะนำให้เธอรู้คร่าวๆก่อน ที่นี่เป็นมหาลัยที่เน้นการเรียนด้านภาษาและธุรกิจเพราะเกาะที่นี่เป็นเกาะการค้า เธอเห็นไหมรอบๆมีแต่ผู้ประกอบการเต็มไปหมด สิ่งนึงที่เธอควรรู้ไว้หลังจากได้เรียนที่นี่ก็คือ ตั้งใจเรียน อย่าหลงระเริงไปกับแสงสี เธออยู่กับฉันในฐานะลูกหนี้อย่าคิดหนี เพียงแค่เธอหนีออกไปจากเกาะเธอจะไม่มีทางได้ขึ้นฝั่ง”
“ค่ะ” น่ากลัวจังนี่มันต่างจากคุกตรงไหน แต่ก็ดีได้เรียนด้วยดีกว่าอยู่บ้าน
เมื่อลงจากรถก็มีสาวสวยคนนึงรีบเดินออกมาต้อนรับอย่างกับมาเฟียเลยอ่ะ ฉันเดินตามคนขายาวไม่รู้จะรีบไปถึงไหน
“รอฉันอยู่ตรงนี้อย่าเดินไปไหนเดี๋ยวฉันมา”
“ค่ะ”
และคุณอัคคีกับคุณภูก็หายเข้าไปในอธิการบดีจนคุณภูเดินออกมาเรียกให้ฉันเข้าไป พอเข้าไปก็เจอผู้ชายวันกลางคนกำลังเตรียมเอกสารให้ฉันเขียนใบสมัคร
“อาทิตย์หน้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนๆได้เลยนะ"
“แล้วเรื่องสอบล่ะคะ" ฉันหันไปถามคุณอัคคีแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากขอบคุณอธิการบดีแล้วลากฉันกลับเลย แล้ววันสอบของฉันละเฮ้อ
“หิวหรือยัง” ผมหันไปถามนังหนูที่ยังกอดซองเอกสารอยู่
“หิวค่ะ”
“ไอ้ภูไปภัตรคารอู่ฮ่วน”
“ครับ”
ภัตตาคารอู่ฮ่วน
อาหารจีนงั้นเหรอมีขนมจีนไหมนะ ฉันเปิดเมนูอาหารแต่มันไม่มีอะไรที่ฉันอยากกินเลย มันแพงมากแบบนี้หนี้คงเพิ่มขึ้นแน่ๆ
“เป็ดปักกิ่ง 1 เกี๊ยวกุ้ง2 เกี๊ยวปลา1 ข้าว2ครับ” ผมตัดสินใจสั่งให้เธอเมนูเด็กๆก็คงประมาณนี้แหละมั้ง
“เราจะไปไหนกันต่อคะ”
“ไปทำความรู้จักกับการทำงานไง ระหว่างที่เธอเรียนก็ต้องมาช่วยงานฉันไปด้วยเพื่อหาเงินไปกินขนม งานง่ายๆจัดเรียงเอกสาร ชงกาแฟ หน้าที่อื่นมันของไอ้ภูอย่าไปแย่งงานมันเดี๋ยวมันงอน”
“เริ่มงานพรุ่งนี้เลยไหมคะ”
“ยังก่อน ช่วงนี้อ่านหนังสือไปก่อนหลังจากได้ไปเรียนเธอจะรู้เวลาของเธอเอง ว่างเมื่อไหร่ก็ลงมาหาฉัน”
“รับทราบค่ะ”
หลังจากทานอาหารเสร็จฉันก็ถูกพามายังตึกสามชั้น ที่เปิดเป็นบริษัททัวร์เล็กๆ เพียงแค่เห็นรถคุณอัคคีจอดคนในออฟฟิศก็เลิ่กลั่กกันหมดเลย
“นี่เป็นบริษัททัวร์ที่โคตรดื้อเลย ติดหนี้ฉัน1.5ล้านดอกไม่จ่ายสักบาท”
“เขาอาจจะไม่มีก็ได้นะคะ”
“ไม่มีก็ปิดไปสิจะมาเปิดแข่งกับคนอื่นทำไม” ผมเดินเข้ามาพร้อมกับถอดแว่นสีชาที่ปกปิดความหล่อของผมออก