EP.3 เจ้าสาวในชุดสีดำ

1165 Words
EP.3 เจ้าสาวในชุดสีดำ ‘รีบแต่งเถอะรี โชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณพ่อหาผู้ชายมาให้ สองวันที่เหลือนี่ก็ลดความอ้วนสักหน่อย ขัดผิวสักนิดผู้ชายเขาจะได้ไม่วิ่งหนี ยอมแต่งงานด้วยแต่โดยดี’ จิราพัชรหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ไม่คิดอิจฉาน้องสาวแม้แต่น้อย เพราะเธอนั้นมีคู่หมั้นเป็นหนุ่มไฮโซโก้หรู ควงไปไหนต่อไหนก็เชิดหน้าชูตาไม่ได้อายใคร หมั้นหมายกันเอาไว้เรียบร้อยโดยมีกำหนดการแต่งงานปีหน้า ‘นั่นสิ เห็นว่าเป็นมหาเศรษฐีเชียวนะ ฉันล่ะอยากจะเห็นหน้าจริงๆ อยากรู้นักว่าคนรวยแต่โง่ หน้าตาเป็นยังไง ดู๊ดู...มาคว้ายายรีไปทำเมีย ฉันล่ะสังเวชใจจริงเชียว’ หทัยนาถเหน็บแนมลูกเลี้ยงอย่างสนุกปาก บาจรีย์หน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอายได้แต่ก้มหน้านิ่ง ‘เบาๆ หน่อยนาถ คุณติเอโกไม่ได้โง่หรอก เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งมากทีเดียว เห็นว่ามาลงทุนที่ไทยหลายหมื่นล้านบาท แล้วธุรกิจโรงแรมที่เขาบริหารอยู่ก็ไปได้สวยเสียด้วย’ ‘แสดงว่าฉลาดเรื่องธุรกิจ แต่ตาถั่วเรื่องผู้หญิง’ กระนั้นหทัยนาถก็ยังไม่วายเหน็บลูกเลี้ยงอีกคำรบสอง บาจรีย์นั่งนิ่ง มือทั้งสองข้างผสานเข้าหากันแน่น เธอควรจะชินกับเหตุการณ์เดิมๆ เหล่านี้ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ทำใจไม่ได้เสียที...เป็นเหมือนตัวตลกให้ภรรยาหลวงกับพี่สาวต่างมารดาล้อเลียนอย่างสนุกปากอยู่ร่ำไป ‘เดือนหน้าเรือนหอคงเสร็จเรียบร้อย’ ฐากูรเปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยรู้นิสัยของภรรยาที่อยู่กินกันมายี่สิบกว่าปีดี ลองได้ตั้งหน้าตั้งตาต่อว่าจับผิดละก็หทัยนาถชำนาญนักล่ะ โดยเฉพาะลูกเมียน้อยที่เธอเกลียดชังนักหนา ‘เรือนหอหรือคะคุณพ่อ’ บาจรีย์เอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นี่บิดาของเธอเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้านานแล้วหรือนี่ ‘คฤหาสน์หลังใหญ่ข้างไร่เราอย่างไรล่ะ คุณติเอโกซื้อที่ดินผืนข้างๆ ไร่ของเราแล้วส่งสถาปนิกจากอิตาลีมาคุมงานได้สักพักแล้ว แต่ตัวเขาเองยังไม่มีเวลามาดูความเรียบร้อยของเรือนหอ’ เหมือนถูกตีเข้ากลางแสกหน้า บาจรีย์รู้สึกตาพร่า คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เธอคอยไปเมียงมองอยู่เรื่อยๆ ด้วยความชื่นชมหลังนั้น แท้ที่จริงแล้วมันคือเรือนหอ ไม่สิ...มันคือคุกที่จะจองจำเธอเอาไว้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักเขา และไม่คิดจะรัก ‘แหมรวดเร็วดีเหมือนกันนะคะคุณ ยายรีของคุณจะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที’ หทัยนาถจีบปากจีบคอกระแหนะกระแหนลูกภรรยาน้อยอย่างสนุกปาก บาจรีย์ไม่คิดตอบโต้ภรรยาหลวงของบิดาเช่นทุกครั้ง แม้เธอจะไม่ชอบที่ท่านมักพูดถึงเธอต่อหน้าใครต่อใครเสมอว่าอยากให้เธอคบหาใครให้เป็นตัวเป็นตนเสียที พูดราวกับว่าเธอนั้นคบหาชายมากหน้า ทั้งที่ความจริงแล้วบาจรีย์ไม่เคยมีคนรัก หรือคนมาจีบเธอเลยสักคน แต่เมื่อไม่ใช่ความจริงเธอก็คร้านที่จะโต้แย้ง เธอเชื่อว่าทุกคนในไร่ฐากูรรู้ดีว่าเธอเป็นคนอย่างไร ‘ว่าแต่...ถ้าคุณติเอโกมาเห็นหน้ายายรี จะไม่เปลี่ยนใจเผ่นแน่บ กลับอิตาลีแทบไม่ทันหรือคะคุณแม่ แหมเสียดายลูกไม่ได้อยู่พบคุณติเอโก เพราะมีทริปไปเที่ยวฝรั่งเศสกับคุณณัฐเสียด้วยน่ะสิคะ อยากเห็นหน้าตาของว่าที่สามีของยายรีเสียจริงๆ ว่าจะอัปลักษณ์...เอ๊ยไม่สิ หล่อเหลาสักแค่ไหน แต่พัชรขอเดานะคะว่าคงอายุไล่เลี่ยกับคุณพ่อแน่ๆ’ จิราพัชรหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี เธอเดาว่าติเอโกที่บิดาพูดถึงคงเป็นชาวต่างชาติสูงวัยที่อยากได้ภรรยาเป็นชาวไทย เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศไทยอย่างไม่ต้องสงสัย ‘แหมอย่าไปว่าน้องอย่างนั้นสิลูก คนเราแข่งเรือแข่งพายน่ะแข่งได้ แต่จะให้แข่งบุญแข่งวาสนาน่ะไม่ได้หรอกนะ ผู้หญิงที่ไหนจะมีทั้งบุญทั้งวาสนาเหมือนลูกสาวของแม่คงไม่มีอีกแล้ว’ หทัยนาถยื่นมือไปหยิกแก้มบุตรสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ‘คุณแม่ละก็ คุณณัฐเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้วิเศษอะไรนักหรอกค่ะ’ จิราพัชรป้องปากหัวเราะอย่างถูกใจ ณัฐดนัยคู่หมั้นของเธอนั้นเป็นไฮโซมีชื่อเสียงในสังคมชั้นสูง มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากมาย รวยระดับแนวหน้าของประเทศไทยเลยทีเดียว บาจรีย์ฟังถ้อยคำเสียดสีประชดประชันเหล่านั้นแล้วยิ่งรู้สึกอับอาย เธอเหลือบมองเสี้ยวหน้าของบิดาเมื่อเห็นว่าท่านไม่ได้สนใจแม้แต่จะปกป้องเธอ หญิงสาวก็นึกน้อยใจ ลูกเมียน้อยอย่างเธอจะเรียกร้องอะไรได้เล่า หากว่ามารดาของเธอยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าสองแม่ลูกจะต้องลำบากแสนเข็ญสักเพียงไร ก็คงดีกว่าการที่เธอต้องมีชีวิตอยู่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครต้องการเธอเช่นนี้ ‘แกต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผมใหม่ทั้งหมด แม่ใหญ่จะเป็นคนจัดการให้แก คุณติเอโกจะได้ประทับใจ’ ประมุขของบ้านเอ่ยขึ้น ‘คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เชื่อมือฉันได้เลย รับรองว่าจะจับแต่งตัวใหม่ให้ดูเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง สภาพแบบนี้ต่อให้ยกให้คนงานในไร่ฟรีๆ มันยังไม่เอาเลย’ หทัยนาถแบะปากมองลูกเมียน้อยอย่างเดียดฉันท์ ความเกลียดของเธอไม่เคยลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่านังเขมิกา...ศัตรูหัวใจของเธอจะตายไปแล้วก็ตาม ความเกลียดชังนั้นกลับถูกส่งต่อมายังบาจรีย์ ลูกสาวที่เขมิกาคลอดทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าก่อนจะเสียชีวิตจากการคลอดลูกเนื่องจากร่างกายอ่อนแอ ‘เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้คุณติเอโกตกลงแต่งงานกับยายรี ทุกคนคงยังไม่รู้ ไร่ของเรากำลังแย่ หนี้สินเดิมทบต้นทบดอกจนดอกเบี้ยสูงกว่าเงินต้น เราจำเป็นต้องมีเงินทุนก้อนใหญ่เพื่อใช้หนี้เน่าๆ ก้อนนั้นเสีย’ ฐากูรถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนี้สินสมัยเขายังหนุ่มที่ไม่อาจสะสางให้หมดไป ส่วนหนึ่งก็เพราะเมียกับลูกใช้จ่ายเงินทองราวกับเป็นเศรษฐีนีร่ำรวย รายรับจึงน้อยกว่ารายจ่าย ซึ่งความผิดนั้นเขาคงไม่กล่าวโทษภรรยาและบุตรสาวคนโต เพราะรู้ดีว่าเขาเองนั่นล่ะที่ปล่อยปละละเลยจนเป็นเช่นนี้ หากจะมาดัดไม้แก่คงมีแต่แตกหักมากกว่าจะยอมโอนอ่อนแต่โดยดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD