12

1007 Words
12 “ทาร่า ทาร่า” อแมนดาร้องเรียกทิพย์ธาราหลายครั้ง หากผู้ถูกเรียกกลับนิ่งเฉย ใบหน้าหวานเหมือนกำลังเหม่อลอย ครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง “ยัยทาร่า” นางแบบสาวตะโกนสุดเสียง ได้ผลร่างของทิพย์ธาราสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกที่แผดเสียงดังไปทั่วห้อง “อยู่แค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วย อแมนดา” “ฉันเรียกเธอจะเป็นสิบหนแล้วนะทาร่า มัวแต่ยืนเหม่ออยู่ได้ คิดถึงผู้ชายคนไหนอยู่ล่ะ” อแมนดาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เหรอ แล้วเรียกทาร่ามีอะไรล่ะ” หญิงสาวเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในอาการเหม่อลอย แต่จะบอกกับนางแบบสาวได้อย่างไรว่า ที่เธอตกอยู่ในภวังค์เพราะชายหนุ่มที่ชื่ออเล็สซานโดร ที่บัดนี้เริ่มเข้ามาป่วนปั่นอยู่ในสมองและหัวใจของลูกแมวน้อยอย่างไม่รู้ตัว “พรุ่งนี้ฉันจะไปฝรั่งเศสนะ พี่ชายโทรมาบอกว่าพ่อไม่สบายตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล” น้ำเสียงของอแมนดาเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะบิดาของเธออายุมากแล้ว สุขภาพร่างกายเริ่มถดถอยไปตามกาลเวลา อแมนดาดั้งเดิมเป็นคนฝรั่งเศส หากแต่เธอมาเอาดีทางด้านอาชีพนางแบบที่อิตาลี จนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าชั้นนำหลายชิ้น รวมทั้งเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับเครื่องเพชรคอลเลกชันล่าสุดของอเล็สซานโดรอีกด้วย “แล้วจะไปกี่วันล่ะ” “ยังไม่รู้เลย ต้องดูอาการพ่อก่อน” อแมนดาตอบเสียงเครียด “แล้วงานทางนี้ล่ะ” “สั่งยกเลิกไปแล้ว จัดกระเป๋าให้ด้วยนะ ฉันจะไปค่ำนี้เลย” “ได้สิ” ทิพย์ธาราเดินเข้าไปในห้องนอนของนายจ้างสาว เพื่อจัดเตรียมเสื้อผ้า เช่นทุกครั้งที่เธอจะเดินไปต่างประเทศหรือว่าต่างเมือง “ฝากห้องด้วยนะทาร่า” อแมนดาพูดเมื่อแต่งตัวด้วยชุดเดินทางที่รัดกุม สีหน้าของนางแบบสาวเศร้าหมองเหมือนคนอมทุกข์ อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้แต่งหน้าก็เป็นได้ “ไม่ต้องห่วงหรอก มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ทิพย์ธาราพูดเสียงใส “งั้นฉันไปนะ” นางแบบสาวลากกระเป๋าเดินทางออกไปจากห้องเมื่อพูดจบ โดยที่ทิพย์ธาราเดินไปส่งที่ลิฟต์ ในใจของเธอมีความรู้สึกว่าอแมนดากลับไปยังบ้านเกิดในครั้งนี้ อาจไปนานกว่าทุกครั้ง เพราะดูจากสีหน้าและท่าทางของนายจ้างสาว ที่ไม่สู้ดีนักเมื่อพูดถึงอาการป่วยของบิดา ทิพย์ธาราตรวจดูความเรียบร้อยภายในห้องพัก เมื่อทุกอย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง จึงเดินทางกลับไปยังห้องพักของเธอทันที เดชดวงนั่งอยู่ที่ผับหรูแห่งหนึ่งในกรุงโรม โดยมีจาลโก้และเพื่อนอีกราวสิบคนนั่งกระจายอยู่รอบๆ สายตาของเดชดวงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มได้เข้ามาสัมผัส กับผับที่หรูหราที่มีแต่คนมีฐานะและมีระดับ เข้ามาผ่อนคลายแทบทั้งสิ้น “จาลโก้ พามาที่แบบนี้ นายมีเงินจ่ายเหรอ” เดชดวงถามด้วยความเป็นห่วง เพราะดูจากสถานที่และบุคคลที่เข้ามาใช้บริการที่นี่ ล้วนแต่เป็นพวกคนรวยทั้งสิ้น อย่างเช่นเครื่องดื่มที่อยู่ในมือของเขา เป็นวิสกี้ยี่ห้อดังสนนราคาต่อแก้วหลายสิบยูโรทีเดียว “มีสิ นี่ไง วันนี้ไม่เมาไม่เลิก ไม่หมดเงินไม่กลับบ้าน” จาลโก้ชูเงินที่อยู่ในมือปึกใหญ่ ให้ทุกคนได้เห็น และตามมาด้วยเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจของเหล่าเพื่อนๆ ที่จาลโก้พามา โดยที่เดชดวงไม่รู้ว่าเพื่อนที่จาลโก้พามานั้น เป็นนักค้ายาและเด็กส่งยาของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง “นายไปเอาเงินมาจากไหนจาลโก้ นี่มันเป็นพันยูโรเลยนะ” เดชดวงใช้สายตาประเมินเงินที่อยู่ในมือของจาลโก้ “นายอยากรู้หรือเปล่า ถ้าฉันบอกนาย นายต้องเหยียบเอาไว้เลยนะ” จาลโก้พูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ รับรองฉันไม่บอกใคร” เดชดวงตอบอย่างกระตือรือร้น เด็กหนุ่มหารู้ไม่ว่ากำลังตกหลุมพรางที่จาลโก้ทำกับดักไว้ และไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังตกอยู่ในวังวนของการค้ายาเสพติด จาลโก้กระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของเดชดวง เมื่อเด็กหนุ่มได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ “นายกำลังจะบอกว่า เงินพวกนี้นายได้มาจากการส่งยาแค่ครั้งเดียวเหรอ” เดชดวงถามเพื่อนสนิท “ใช่ งานครั้งนี้ฉันทำคนเดียวเลยไม่มีส่วนแบ่ง ก็เลยได้เยอะขนาดนี้ นายลองคิดดูครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้าร้อยยูโร ต่อการส่งยาหนึ่งเที่ยว แต่ถ้าหานายส่งเป็นสิบเที่ยว บวกลบดูสิว่ามันจะมากมายขนาดไหน ทีนี้นายอยากได้อะไรนายก็จะได้ตามต้องการ จะไปไหนหรือจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า” จาลโก้เริ่มเป่าหูเดชดวง ที่เริ่มคล้อยตามคำพูดของเขา จาลโก้รู้ดีว่าเดชดวงรำคาญพี่สาวขนาดไหน เพราะเพื่อนชาวไทยคนนี้มักปรับทุกข์กับเขาเรื่องทิพย์ธารา ที่ขี้บ่นจนเดชดวงรำคาญ อยากจะย้ายหนีออกมาอยู่ตามลำพัง หากแต่ติดที่เรื่องเงินที่เป็นปัญหาใหญ่นั่นเอง “ถ้าฉันอยากมีเงินอย่างนาย ฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ” จาลโก้ยิ้มเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อนชาวไทย “ครั้งแรก นายก็คอยช่วยฉันก่อนก็แล้วกัน ฉันจะแบ่งให้นายเที่ยวละสองร้อย ตกลงหรือเปล่า” จาลโก้ยื่นข้อเสนอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD